ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ซาตานห่มผ้ากาสา


เมื่อผีพรายห่มผ้าทำหน้าเคร่ง
แล้วบรรเลงร่ายมนต์ปนยาสั่ง
นะเมตตาสาลิกานะจังงัง
เสกน้ำหลั่งสลัดส่งลงกบาล

อ้างศีลสัตย์สรรพคุณคณานับ
จ้าวประทับร่างทรงแล้วเสิบสาน
คติพจน์คนโซโง่ดักดาน
บริวารเวียนไหว้ด้วยใจภักดิ์

ป่าวประกาศก้องในไทยคู่ฟ้า
อวิชชาไสยศาสตร์วิปลาสหนัก
ออกอาการยุ่งยิ่งทั้งลิงยักษ์
เที่ยวหาญหักท้าทายทั่วเมืองไทย

ประดาเปรตป่าวร้องทั่วท้องฟ้า
อนิจจาหาส่วนบุญบ่มิได้
เดรัจฉานฉ้อฉลสร้างกลไก
ทั้งมีดไม้ดาบหอกระเบิดปืน

อ้างกองทัพแห่งธรรมมานำหน้า
เคี้ยวกระท่อมเสพย์ยาหน้าระรื่น
ทั้งเช้าสายบ่ายเย็นย่ำยันค่ำคืน
ต้องกัดกลืนการชั่วที่ตัวทำ

อาศัยภาพพรหมจรรย์จำแลงร่าง
ได้ธรรมะมาบ้างแค่ชั้นต่ำ
รึปกปิดปากเหวเลวระยำ
จะดิ้นรนฤาพ้นกรรมที่ก่อการ

ถึงปลดเปลื้องเกศาใช่ว่าพระ
มิอาจละกิเลสร้ายหลายสถาน
อันเส้นแบ่งแยกภพพระกับมาร
เพียงสายธารเส้นน้อยคอยกั้นไว้

เทศนาเพื่อสนองกองกิเลส
ไร้แม้เศษเสี้ยวธรรมที่ขานไข
ล้วนโมหะมาจูงกำหนดใจ
สำเร็จกามความใคร่ได้เห็นบุญ

ชะเง้อหาตาแลแค่ห่างห่าง
โทสะขวางเพลิงประทุที่คุกรุ่น
ไม่หันเหหักห้ามกามคุณ
ยังก่อกรรมทำทุนทางอบาย

ลัทธิหาซาตานสันดานชั่ว
ยังเมามัวเสริมสร้างทางฉิบหาย
โพกพันผ้าวิปริตปิดร่างกาย
เพียงดูคล้ายพระเณรก็เท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น