ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

"โร้ดแหม็บ"

.
.
สิ้นทางถอยทำทีว่าทำถูก
คิดจะปลูกจะสร้างทางสวรรค์
เป็น "โร้ดแหม็บ" แลบลิ้นมาหลอกกัน
แล้วร่วมดึงช่วยดันให้บรรลัย
.
.
จึงข่มขืนขบวนข่าวอันฉาวโฉ่
แต่งเติมโพลลเพิ่มค่าด้วยสาไถย
วิทยุ ทีวี เริ่มเติมเชื้อไฟ
หนังสือพิมพ์ เพิ่มไข่หลายหลายฟอง
.
.
เป็น "โร้ดแหม็บ" มีเส้นเช่นม็อบเหลือง
ด้วยกระเทยเฒ่าประเทืองมิขัดข้อง
อีกพรรคร่วมสังฆกามตามปรองดอง
หลายหลากสีโห่ร้องขอร่วมวง
.
.
โอ้ "โร้ดแหม็บ" มันดี วิเศษยิ่ง
มันเป็นสิ่งสร้างสรรค์อันสูงส่ง
เป็นปัญหาใครจะมาร่วมตกลง
ชาตินี้คงเป็นแค่ "แหม็บ" แห่งเมืองไทย
.
.

วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ว่าว

ฬ.เอ๋ย ฬ.จุฬา
เจ้าลอยสูงเลอค่ากว่าว่าวไหน
ไม่เหลือบแลว่าวอื่นบ้างหรืออย่างไร
ทั้งว่าวน้อยว่าวใหญ่นอกสายตา

ป.เอ๋ย ป.ปักเป้า
ฉวัดเฉวียนค่ำเช้าเฝ้าคอยท่า
ช่างงามจริงเจียวหนอ ฬ.จุฬา
เจ้าเชิดหน้าเชิดคางอย่างผู้ดี

ง.เอ๋ย ง.งู
บินเล่นลมหางลู่สลับสี
มองนัยน์ตาเสาะหาซึ่งไมตรี
รู้แก่ใจคงไม่มีมาจากเธอ

ฬ.เอ๋ย ฬ.จุฬา
ยังเชิดหน้าเคียงฟ้าอยู่เสมอ
ปักเป้าน้อยด้อยค่าอย่าละเมอ
จะพร่ำเพ้อเพียงใดไม่มีวัน

ป.เอ๋ย ป.ปักเป้า
ดูสร้อยเศร้าก็สุขใจแม้ในฝัน
เพียงยลโฉมเฉิดฉายเห็นกายอัน
เทพธิดาจากสวรรค์ตะลึงแล

ง.เอ๋ย ง.งู
เฝ้ามองดูจุฬางาม งามจริงแท้
เพ่งเพลินไปขาดใจสิ้นฤดีแด
งามจริงแม่แม้จะเมินไม่เหลียวมอง

ฬ.เอ๋ย ฬ.จุฬา
ระเริงร่าสำราญยิ่งหยิ่งผยอง
ประดุจดาวว่าวใดๆก็ใฝ่ปอง
เป็นจุฬาจองหองใจมืดดำ

ครั้นลมบนบางเบาเจ้าจึงรู้
ว่าที่เจ้าลอยอยู่เพียงลมค้ำ
คราลงต่ำตกดินคงสิ้นใจ

ทั้งลมล่างลมบนทั้งคนชัก
เจ้าไม่เคยตระหนักหรือไฉน
เจ้าเลิศเลอเสมอเมฆบนฟ้าไกล
ที่เจ้าได้คือรักลวง แค่เพียงลม
.........................
ว่าวจุฬา
.
ช่างบอบบางแท้
หรือ
แกล้งทำเป็นบอบบาง
บอบบางโดยธรรมชาติ
หรือ
ทำดัดจริตบอบบาง
บอบบางโดยเนื้อหา
หรือ
บอบบางเพียงผิวเปลือก
บอบบางโดยเจตนา
หรือ
ถูกชักจูงให้บอบบาง
บอบบางโดยเต็มใจ
หรือ
บอบบางโดยถูกบีบบังคับขืนใจ
.
คำตอบไหนๆก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
ไม่ว่าจะบอบบางแบบไหน อย่างไร
.
ความบอบบางของ ว่าวจุฬา
ก็ได้คะแนนเต็ม 100

วันพุธที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ยุบ หรือ พอง

มึงก็อยากจะ "พอง" กูจ้อง "ยุบ"
มึงอยาก "บาน" กูว่า "หุบ" ดีกว่าไหม
มึงว่า "ต่อ" กูให้ "ตัด" เถอะ สินใจ
มึง "รีรอ" กูก็ "ไล่" ไอ้ฆาตกร

มึงยัง "ดื้อ" กูก็ "ด่า" ไอ้หน้าด้าน
มึง "ขี้ขอ" กูก็ "ค้าน" ไอ้กะล่อน
มึง "หลบหลีก กู "รุกไล่" ไม่ต้องนอน
มึง "กล่าวหา" กู "อุทธรณ์" ได้ทุกวัน

มึงว่า "ยุบ" กูว่า "ยาก" เพราะยี้ห้อย มันร้องไห้...
มึงใช้ "ปาก" กูใช้ "ใจ" ไม่แปรผัน
มึงว่า "ดี" กูว่า "ทราม" ตามๆกัน
มึง "ดึงดัน" กู "ขัดขวาง" ตามครรลอง

มึงด่า "ไพร่" กูด่าไอ้ "หมาอำมาตย์"
มึงอ้าง "ชาติ" กูอ้าง "ชน" คนทั้งผอง
มึงว่า "ซื่อ" กูว่า "คด" ดั่งลำคลอง
มึง "เรียกร้อง" กู "ทุเรศ" สุดจะทน


กรุงเทพ City of Angles เมืองเทวดา

ไพร่ ไม่มีสิทธิในกรุงเทพฯ

.

.

ณ.กรุงเทพฯ เทพสถิตอยู่ทิศไหน

ณ.กรุงเทพฯ.ฤาหลับใหลไม่ทุกข์ ร้อน

ณ.กรุงเทพฯ แดนเทวดามหานคร

ณ.กรุงเทพฯ ที่พักผ่อนนอนฝันดี

.

ณ.กรุงเทพฯ ทวยเทพแห่งฟากฟ้า

ณ.กรุงเทพฯ นัคราแห่งภูตผี

ณ.กรุงเทพฯ.ดินแดนกระฎุมพี

ณ.กรุงเทพฯ รวมกุลีไพร่สามัญ

.

ณ.กรุงเทพฯ เทพไท้ไร้สำนึก

ณ.กรุงเทพฯ ประกาศศึกแห่งสวรรค์

ณ.กรุงเทพฯ เทวดาเข้าโรมรัน

ณ.กรุงเทพฯ ที่ชนชั้นแยกกันเดิน

.

ณ.กรุงเทพฯ เกิดคำถามที่ถั่งโถม

ณ.กรุงเทพฯ ถูกแทะโลมไร้ขวยเขิน

ณ.กรุงเทพฯ ที่ลุ่มหลงแลเพลิดเพลิน

ณ.กรุงเทพฯ ที่หลงใหลไปไกลเกินกับ...เงินตรา

.

ณ.กรุงเทพฯ ที่ถมทับกับกิเลส

ณ.กรุงเทพฯ ทุกเทวษกันทั่วหน้า

ณ.กรุงเทพฯ ที่ท่วมซ้ำด้วยน้ำตา

ณ.กรุงเทพฯ ที่ชีวาต้องวอดวาย

.

ณ.กรุงเทพฯ ที่ถูกถามความถูกผิด

ณ.กรุงเทพฯ วิปริตแลโหดร้าย

ณ.กรุงเทพฯ ที่เปรียบคน เป็นดั่งควาย

ณ.กรุงเทพฯ ที่กฎหมายไม่เป็นธรรม

.

ณ.กรุงเทพฯ เทพสถิตอยู่ทิศไหน

ณ.กรุงเทพฯ เทพรู้ไหม ไทยชอกช้ำ

ณ.กรุงเทพฯ ฤาเทพไท้ ท่านใจดำ

ณ.กรุงเทพฯ ท่านก่อกรรม ไว้เกินพอ

.

ณ.กรุงเทพฯ ท่านทอดทิ้งเหล่าทวยราษฎร์

ณ.กรุงเทพฯ ท่านประกาศความตายต่อ

ณ.กรุงเทพฯ ทำลายไพร่ไม่รีรอ

ณ.กรุงเทพฯ ท่านจะขอ แผ่นดินคืน

.