ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ฒ ผู้เฒ่า


ฒ ผู้เฒ่าเลี้ยงควายอยู่ชายทุ่ง
มองดูยุ้งว่างเปล่าข้าวหมดแล้ว
เก็บยอดผักหัวเผือกหัวมันแกว
จูงควายเพื่อนแก้วกลับเข้าเรือน

จุดตะเกียงเพียงแสงเท่าหิ่งห้อย
นั่งเหม่อลอยถอนใจไร้ผองเพื่อน
ทั้งลูกหลานลาไปก็หลายเดือน
คอยย้ำเตือนปลอบใจให้อดทน

แล้วเอนกายคลายเหนื่อยปวดเมื่อยล้า
ใกล้สงกรานต์งานผ้าป่ามาอีกหน
บ้านก็คงคึกคักด้วยผู้คน
กว่าจะพ้นเทศกาลอีกนานวัน



ฒ ผู้เฒ่าเลี้ยงเด็กทั้งเล็กใหญ่
สำเริงใจสำราญกายกระไรนั่น
ปรารถนาสิ่งใดได้มาพลัน
ยังยึดมั่นมุ่งเกาะกิเลสกาม

ดำรงตนพ้นห่างทุกปัญหา
ชอบอวดอ้างวางท่าน่าเกรงขาม
หาหนทางสร้างชื่อเลื่องลือนาม
ทั่วเขตคามทั่วแคว้นแผ่นดินไทย

คนชเลียร์ว่าล้ำเลิศประเสริฐศรี
ให้เป็นที่เคารพนบกราบไหว้
พวกประจบสอพลอก็เอาใจ
ทุกสิ่งไซร้สรรหามาประเคน



ฒ ผู้เฒ่าเข้าใจในชีวิต
รู้ทางผิดทางถูกทุกสิ่งเห็น
รักษาศีลรู้ธรรมรู้กรรมเวร
ใครจะเด่นจะดังยังต้องตาย

ทุกสิ่งเป็นอนิจจังฟังพระสอน
เชิงตะกอนนั่นหรือคือจุดหมาย
ชีวิตถึงปลายทางต้องวางวาย
ร่างสลายเหลือเพียงเถ้าบนธรณี

จะหลงเหลือสิ่งใดให้คนคิด
สิ้นชีวิตก็ต้องกลายเป็นพรายผี
เหลือความถูกความผิดความชั่วดี
เป็นสิ่งที่มอบไว้ให้แผ่นดิน



ฒ ผู้เฒ่าไม่เข้าใจในธรรมะ
คอยคิดจะสะสมแต่ทรัพย์สิน
มีท้องปากมากไปไม่พอกิน
ยังดีดดิ้นร้อนรนบนกามา

เป็นกระสอบใส่กิเลสทุเรศนัก
ยังหลงรักในกามกิเลสบ้า
ทั้งโลภะโมหะราคะมา
รวมโทสะทุกเวลาที่ขัดใจ

ทั้งมัวเมาลุ่มหลงเหลิงอำนาจ
ใครมิอาจยกตนเสมอได้
ใครบังอาจต้องฟาดฟันให้บรรลัย
ไม่เหลือให้ไพรีมีที่ยืน



ฒ ผู้เฒ่าเอาชีวิตมาวางไว้
มอบให้มัจจุราชมิอาจฝืน
บอกลูกหลานลาลับไม่กลับคืน
เป็นเถ้าถ่านทาบผืนปฐพี

ทั้งลูกหลานร่ำไห้ใจจะขาด
ก็มิอาจดื้อดึงเมื่อถึงที่
สั่งเสียให้กระทำแต่ความดี
ลูกหลานมีสุกใสแต่วัยเยาว์



ฒ ผู้เฒ่าเอาทรัพย์สินมาวางไว้
ขอมอบให้มัจจุราชด้วยขลาดเขลา
หวังเพียงผัดผ่อนผันขอบรรเทา
ขออย่าเอาชีพไปในเร็ววัน

ด้วยข้าฯมีภาระอยู่มากหลาย
หากข้าฯตายคงวุ่นวายเป็นแม่นมั่น
มอบทรัพย์สินเงินทองกองรวมกัน
มีอีกนับอนันต์โปรดรับไป

ทั้งลูกหลานในไส้ก็ไม่มี
อันลูกทั้งหมดนี้ล้วนนอกไส้
ขอข้าฯอยู่บันเทิงระเริงใจ
กับหนุ่มใหญ่หนุ่มน้อยค่อยจากลา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น