ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2554

พะนะท่านศาลที่เคารพ

ข้าแต่ศาลพะนะท่านที่เคารพ
จงประสบสิ่งดีๆวันปีใหม่
คลาดความทุกข์แคล้วความโศกพ้นโรคภัย
ยุติธรรมนำไทให้งดงาม

ท่านสมควรสิงสถิตย์ในที่สูง
ดั่งนกยูงยืนมั่นไม่ครั่นคร้าม
เป็นสง่าสดใสในทุกยาม
โลกทั้งสามสรรเสริญเจริญพร

แต่ว่าพะนะท่านดันมาเสือก
แล้วท่านเลือกทางต่ำอันสำส่อน
ทุรยศทวยราษฎร์ทั้งนาคร
หนักแผ่นดินแห่งมารดรโดยสันดาน

อำนาจอันชอบธรรมที่กำหนด
จารจารึกรวมบทบนหลักฐาน
ทั้งจำแนกแยกหลักเกณฑ์เป็นหลักการ
ตั้งบนพานรัฐธรรมนูญราชดำเนิน

อันอำนาจอธิปไตยในประเทศ
กำหนดเขตขีดไว้ใช่ผิวเผิน
เป็นอำนาจของทาสไพร่ใช่บังเอิญ
ท่านอย่าเพลินเดินข้ามตามแต่ใจ

ข้าแต่ศาลหากท่านเสือกท่านจะเสีย
ท่านจะแลบลิ้นเลียอย่างไรไหว
บทลิเกย์-ละคอนก่อนจากไป
ท่านเห็นไหมตัวผู้ร้ายไม่ตายดี

วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ส.ค.ศ. 112 ส่งความโศก

112 ส่งสาส์นสะท้านโลก
ส่งความโศกจากความเศร้าอันสุดซึ้ง
เขียนมาตรามาตอกย้ำคิดคำนึง
ไม่นึกถึงเขตขอบอันชอบธรรม

ที่ถูกกุมคุมขังยังยากเข็ญ
ได้แลเห็นนิยามความเหลื่อมล้ำ
ที่ฟ้องร้องป้องปราบฤาหลาบจำ
เพียงต้องฝืนกลืนกล้ำทนช้ำใจ

จะสอบสวนทวนถามถึงความผิด
ถามความคิดที่แท้แน่ไฉน
จะทวนถามถึงถ้อยกระทงใด
ก็อยู่ใต้กำหนดที่กดดัน

จะร่ำเรียนขีดเขียนก็ข้องขัด
ข้อจำกัดจารกฎไว้ปิดกั้น
ปิดประตูความรู้เท่ารู้เทียมทัน
กดความคิดปิดความฝันแห่งชั้นชน

แม้ถูกกดถูกข่มจนจมมิด
ข่มความคิดของไพร่คงไร้ผล
ดวงปัญญาข้าไพร่ใช่มืดมน
ไม่อับจนดวงจิตที่จดจาร

เสรีภาพแห่งไพร่ในประเทศ
กำหนดเขตกั้นขอบไว้รอบด้าน
ก่อผนังตั้งบนพื้นจรดเพดาน
จำกัดจินตนาการด้วยความกลัว

ทั้งโลกรู้ทั้งโลกดูทั้งโลกเห็น
เปิดประเด็นโปรยปรายกระจายทั่ว
ความเป็นไทใต้เมฆหมอกอันหม่นมัว
แสงสลัวส่องสาดอนาถนัก

เมื่อปิดหู ปิดตา ต้องปิดปาก
ซ้ำยังอยากปิดใจให้จมปลัก
จำกัดเขตขังกรงให้จงรัก
แล้วเก็บกักกั้นไว้ในความคิด

เวลา 05:55 นาฬิกา
วันที่ 31 ธันวาคม พุทธศักราช 2554

วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554

สวัสดีปีใหม่ 2555

สวัสดีปีใหม่ข้าไพร่ทาส
เป็นโอกาสอันดีในปีใหม่
สร้างวลีแสนสวยเพื่ออวยชัย
ประโลมจิตปลอบใจใต้มายา

แม้นปีเก่าจะกดข่มต้องตรมช้ำ
เผด็จการเคยกระทำระยำหมา
ด้วยอำนาจอาวุธและอาญา
คราบน้ำตาเปื้อนใบหน้าค้างคาใจ

ก็จงตั้งความหวังที่ยังเหลือ
จะกัดกินก้อนเกลือก็อยู่ได้
ด้วยสิทธิเสรีที่เป็นไท
ร้องออกไปก็ได้เพียงเสียงรำพึง

พรใดๆไพเราะเสนาะโสต
ขอได้โปรดจงฟังอีกครั้งหนึ่ง
แล้วท่องจำขึ้นใจให้ตราตรึง
แล้วก้มกราบด้วยซาบซึ้งถึงพระคุณ

สวัสดีปีใหม่ 2555......

สวัสดีปีใหม่ไพร่ทั้งผอง
แผ่นดินทองมีธงธรรมเดินนำหน้า
ข้าทาสไพร่ใต้อำนาจอมาตยา
จงเป็นสุขทุกเวลาสถาพร

มีสุขมากสุขน้อยค่อยๆสุข
สลัดทุกข์ทิ้งไปไม่เดือดร้อน
น้ำท่วมมิดหลังคาอย่าอาทร
ล้มกายนอนลงดินไม่สิ้นเปลือง

แม้นจนซ้ำจนซากปิดปากเสีย
จงมีลิ้นไว้เลียในทุกเรื่อง
แล้วกลืนกล้ำน้ำตาอย่าแค้นเคือง
เป็นทาสไพร่พลเมืองใต้พิมาน

จงเป็นสุข...จงเป็นสุข...จงเป็นสุข
จงละทิ้งความทุกข์ที่เผาผลาญ
อย่าใส่ใจใครกล่าวหาว่าดักดาน
จงหมอบคลานแล้วร้องขอความพอเพียง

“กวีศรีประชา”

หากความคิดถูกครอบในกรอบแคบ
เรายังแอบเคลื่อนไหวในกรอบขัง
แม้นในกรอบรอบด้านมีม่านบัง
กวียังเยาะหยันด้วยมั่นใจ

เมื่อความคิดถูกขังแลถูกครอบ
ต้องติดกรอบกติกาแห่งข้าไพร่
แล้วยกเยินสรรเสริญเพลินกันไป
ก็คงได้ “บทกวี” มีเชือกพัน

เมื่อความคิดอิสรภาพถูกขึงพืด
กลอนก็ฝืดฝากสำเนียงเพียงความฝัน
ไร้ซึ่งความสมจริงทุกสิ่งอัน
แค่ขยันตักน้ำปั้นมาเป็นตัว

พื้นความคิดหลงผิดจึงติดกับ
กลอนที่ขับกาพย์ที่ขานประจานทั่ว
อักษรสวยอวย”เขา”ด้วยเมามัว
ด้วยความกลัวความกังวลหรือจนใจ

เพียงติดตามถามไถ่ให้รู้แน่
ภาพนบน้อมยอมแพ้ “กวีไพร่”
“ศรีประชา” นั้นมาแต่หนใด
ฤามิใช่เคยเชิดหน้าสู้ฟ้าดิน

เห็นหมอบราบก้มกราบก็ใจหาย
ฤาคนเจ็บคนตายเพื่อนลืมสิ้น
เพื่อนสมยอมน้อมรับกับองค์อินทร์
แล้วติฉินนินทาว่าประจาน

ใครไม่ชมไม่ชอบเพื่อนว่าชั่ว
จะหลงตนหลงตัวแล้วต่อต้าน
เขียนกวีที่ไร้รากไร้หลักการ
ใช้เชิงชั้นอันชำนาญบันดาลดล

ลากสระพยัญชนะมาประสม
ค้อมกายก้มไหว้ได้กุศล
เราก็เพียงเพรียกหา “ค่าของคน”
ฤาอับจนคำตอบอันชอบธรรม......

"ความรัก"

ครั้นนิยาม"ความรัก"เริ่มหักเห
แล้วนิยาม"ความทุ่มเท"เริ่มถ่ายถอน
เกิดนิยาม"ความยำเกรง"กากตะกอน
เป็นนิยาม"ความปลิ้นปล้อน"ประโลมใจ

สร้างภาพใหญ่ให้เห็นเป็นประจักษ์
สร้างภาพรักด้วยเล่ห์กลคนหลงใหล
สร้างภาพฝันอันฟุ้งเฟื่องเรืองวิไล
สร้างสีสันอันสวยใสให้ตื่นตา

สร้างภาพหลอนร้อยเรียงเพียงสร้างภาพ
สร้างความชอบให้หมอบกราบไม่กังขา
สร้างความทุกข์ว่าทุ่มเททุกเวลา
สร้างภาพซ้อนอันอ่อนล้าแลระทม

ภาพผันแปรเปลี่ยนแปลงแสดงเหตุ
ภาพวิจิตรวิเศษแลงามสม
ภาพภายในใต้หัวโขนแห่งโคลนตม
ภาพโสมม ภาพมายา มาทดแทน

จึงประจักษ์ว่าภาพรักเพียงภาพหลอน
ฉากละคอน-ลิเกย์ ที่ไร้แก่น
ที่ตบตาข้าทาสไพร่ในดินแดน
ทิพยสถานพิมานแมน ไม่มีจริง.