ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ขอลาทีปีเก่าปนเน่าหนอน
ทั้งยี่เกย์และละคอนร่วมหอนเห่า
อมาตยาน้อยใหญ่ไล่จับเงา
ตะหานเลวรวมเหล่าร่วมเผาเมือง


นักวิชาหน้าด้านการศึกษา
เป็นขี้ข้าตื่นขึ้นมาก็ฟ้าเหลือง
เลียแต่ค่ำยันเช้าเฒ่าประเทือง
อนาคตจะรุ่งเรืองแลรุ่มรวย


ล้างสมองลูกศิษย์ผิดเป็นถูก
ช่วยเพาะปลูกไม้กล้าหน้าตาห่วย
แล้วหวังฝนหวังฟ้ามาอำนวย
ชาตาช่วยเชิดชูคู่แผ่นดิน


แมลงวันอันโสโครกบินขวักไขว่
ฉวัดเฉวียนเวจเก่าใหม่โฉบไปสิ้น
อุจจาระ อาจมมูตร ดูด.ดม.กิน.
เอร็ดล้ำอร่อยลิ้นจนสิ้นอาย


สร้างแต่ข่าวฉาวโฉ่ดั่งโง่บ้า
สิ้นจรรยา ฐานันเดี้ยง ดันทุร้าย
ปฏิกูล กากอาจม สมชาติชาย
ตามจุดหมายแห่งอมาตย์ชาติบัดซบ


ร่วมโกงบ้านกินเมืองด้วยกำหนัด
นิติธรรมแห่งส่ำสัตว์มาบรรจบ
เศษสวะ พะนะทั่น ที่เคารพ
นิติรัฐนิติรบเอาสิวะ


ตำรวจเลวร่ายรำทำนองสนาน
กรรมการกรรมเกิน เพลินอิสสระ
อย่าติฉินหมิ่นศาลท่านเจ้าคะ
ศาลทั่นจะเคืองขัดยัดเข้าคุก


ขอลาทีปีเก่าที่เน่าเฟะ
หัวขบวนอ้วนเผละเป็นกระปุก
ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นใครเป็นทุกข์
ขอให้มันมีสุขสมดั่งคิด

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Dignity for SALE


pride dignity conceit

arrogance vanity insolence
haughty impudence impertinence

all for S...A...L...E

เร่มา เพื่อนพ้อง น้องพี่
ศักดิ์ศรี นี้มี ไว้ขาย
วันนี้ มีมา มากมาย
ตลาดวาย ของหมด อดกัน

เลือกได้ ชมได้ หลายอย่าง
ใหญ่ - กลาง - เล็ก – จิ๋ว ลดหลั่น
เลือกได้ ชมได้ หลายอัน
มียาว มีสั้น เลือกเอา

ศักดิ์ศรี ของดี ล้วนล้วน
ลากอวน จับมา เมื่อเช้า
สนน ราคา ย่อมเยา
ไม่เอา กำรี้ กำไร

ศักดิ์ศรี ของดี ของแท้
พ่อแม่ รักษา มาให้
ถึงตัว กลับกลัว ก่อภัย
จังไร ก็จึง รำคาญ

เร่มา พ่อแม่ พี่น้อง
รับรอง ของดี ท้างน้าน
เก็บไว้ ใช้ได้ อีกนาน
ลูกหลาน ได้ดอม ได้ดม

มีเหลือ เผื่อแผ่ พอเพียง
มัวจ้อง มองเมียง ไม่สม
เชิญเลือก เชิญชิม เชิญชม
มีทุก อารมณ์ รับรอง

ศักดิ์ศรี นี้ทั้ง สด-ใหม่
จากผู้ ยิ่งใหญ่ ทั้งผอง
ณ. ทิพย วิมาน ขวานทอง
พ่อแม่ มิต้อง สงกา

ผู้ใหญ่ ในประ เทศนี้
ศักดิ์ศรี ไม่มี คุณค่า
เร่เข้ามา เร่เข้ามา เร่เข้ามา
ราคา ต่อรอง ตามใจ

หมดแล้ว หมดเลย ไม่เหลือ
โปรดเชื่อ เชิญทด ลองใช้
ชมแล้ว อย่าเลย ผ่านไป
ซื้อไว้ ให้ลูก สักพวง

แพะ

มีเรื่องสัตว์สี่เท้ามาเล่าขาน
เป็นตำนานท่านผู้เฒ่าได้เล่าไว้
เป็นเรื่องราวเก่าแก่เกิดก่อนใคร
อยู่เมืองไทยได้พบเห็นเป็นประจำ

เป็นสัตว์กีบสี่เท้าขนาดกลาง
ร่างผอมบางหน้าตาดูน่าขำ
มีมากมายหลายสีมีขาวดำ
น้ำตาลเทาแดงก่ำปะปนกัน

หัวมีเขาเครายาวใบหูใหญ่
ตาโตใสบ้องแบ๊วเห็นแล้วขัน
ส่งเสียงร้อง แบ๊ะ แบ๊ะ แบ๊ะทั้งวัน
เดินคอสั่นคอเอียงเถียงไม่เป็น

จะดุด่าว่าอย่างไรก็ไม่เถียง
ตอบรับเพียงแบ๊ะ แบ๊ะ อย่างที่เห็น
กินผักหญ้าเรื่อยไปไม่ลำเค็ญ
แต่กรรมเวร ดันมาพบ กับผู้คน

เมื่อโจรร้ายหลบหนีคดีใหญ่
ออกข่าวไปวุ่นวายโกลาหล
จ้าวนายสั่งลูกน้องพลันสั่นลุกลน
ต้องดิ้นรน ค้นหา มาเข้ากรง


เพลากาลผ่านไปใจห่อเหี่ยว
ชักหวาดเสียวไม่สมดังประสงค์
เหนื่อยหนักหนาหาไม่เจออยากจะปลง
แต่จะส่งรายงานท่านอย่างไร

ไร้วี่แววโจรร้ายคล้ายล่องหน
มันหลีกลี้หลบพ้นไปจนได้
หากโดนด่าหน้าคงร้อนดังฟอนไฟ
ผู้เป็นใหญ่คงให้ลดขั้นเงินเดือน

มีตำหนวดอวดเก่งนักเลงใหญ่
มาบอกใบ้ ว่าสงสัย...หน้าตาเหมือน
อยู่ปลายนาหากินอยู่เกือบเดือน
จึ่งชวนเพื่อนล้อมจับ ลากจูงมา

เมื่อสอบความถามไถ่ก็ไม่ตอบ
การก็ชอบจับยัดกรงก่อนละหนา
ลงมือเขียนคดีความ ตามตำรา
ผู้ต้องหาสารภาพเป็นกาพย์กลอน

แบ๊ะแบ๊ะแบ๊ะ……….แบ๊ะแบ๊ะแบ๊ะ……….แบ๊ะแบ๊ะแบ๊ะ
ร้องแบ๊ะแบ๊ะ……….ต้องสงสัย……….เอาไว้ก่อน
แบ๊ะแบ๊ะแบ๊ะ……….เรื่อยไป……….ไม่อุทธรณ์
แบ๊ะแบ๊ะแบ๊ะ……….ต้องไปนอน……….ในซังเต

โจรผู้ร้ายหนีไปจนแก่เฒ่า
กลับมาเล่าเรื่องให้ฟังนั่งยิ้มเผล่
แพะรับกรรมช้ำตรมสมคะเน
คนร้ายเก๋…ตำหนวดโก้…โอ้ไทยแลนด์

So.ooooooooo.... kind......

อันความกรุณาปราณี
จะมีใครบังคับก็หาไม่
หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ
จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน



กรุณาปราณีที่มอบให้

บังคับกายบังคับใจไพร่ยอมสิ้น

ท่องคำว่ากรุณาเป็นอาจินต์

ว่าไหลรินจากสวรรค์เหนือชั้นฟ้า



กรุณาปราณีที่อวดอ้าง

ถูกจัดวางท่ามกลางความมุสา

และล่องลอยเบื้องหลังเมฆบังตา

พรรณนาภาพสวยด้วยสีเทา



กรุณาปราณีมีมากล้น

ประชาชนไพร่ทาสผู้ขลาดเขลา

จงน้อมรับจงสดับแล้วรับเอา

ภาพที่เขามอมเมาว่ามีจริง



กรุณาปราณีที่ได้รับ

ก็นำไปประดับไว้บนหิ้ง

ห้ามสงสัย.....ห้ามไต่ถาม.....ห้ามท้วงติง

จงพึ่งพิง...ภาพความงาม...ภาพความดี



เพียงภาพฝันบรรเจิดบรรจงสร้าง

ที่จัดวางไว้ให้เห็นเป็นสักขี

บังคับว่ากรุณาและปราณี

เป็นศักดิ์ศรีแห่ง.....”สยามที่เคยยิ้ม”.....

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ควาย VS คน



1) เมื่อควายถามทามมายวุ่นวายหนอ
คนก็พ้อว่าทุกข์ยากลำบากแสน
ควายบอกว่ามีหญ้าอยู่ทั่วดินแดน
ไม่ขาดแคลนคนหนอมาท้อใจ

2) คนบอกว่าหญ้านี้สิเหลือรับ
ลิ้มโกวตั้บจัดการมาหว่านไว้
เป็นหญ้าเขียวเข้มอยู่ทั่วเมืองไทย
กินเข้าไปเสพติดพิษร้ายแรง

3) ควายบอกว่าหญ้านี้มีประโยชน์
ไม่มีโทษเกี่ยวข้องของแสลง
ถ้าวันไหนไม่ได้กินก็ลงแดง
อาหารแห่งปัญญาบารมี

4) คนท้วงว่าปัญญาที่ว่านั้น
เป็นปัญหาต่อกันทุกถิ่นที่
รวมมุสาวาจาถ้อยพาที
ทั้งสาดสีตีไข่มาให้กิน

5) ควายโมโหโกรธาหญ้าเรานี้
เป็นของดีล้ำเลิศประเสริฐสิ้น
ตื่นขึ้นมาต้องกินหญ้าเป็นอาจิณ
เฝ้าถวิลห่วงหาหญ้าทั้งคืน

6) คนก็ว่าหญ้าที่ดีคงมีอยู่
ต้องเรียนรู้ถึงหญ้าพิษอย่าคิดฝืน
มิใช่โลภเห็นแผล็บเดียวก็เคี้ยวกลืน
จะขมขื่นภายหลังนั่งเสียใจ

7) ควายถามว่าจะเลือกหญ้าอย่างไรดี
หญ้าจะมีข้อบ่งชี้อยู่ที่ไหน
เห็นเขียวเขียวเราก็เคี้ยวกินเข้าไป
มิเคยได้ศึกษาหญ้าทั้งปวง

8) คนตอบว่าหญ้าพิษมีสองอย่าง
อยู่ท่ามกลางหญ้าดีดีนี่น่าห่วง
ชอบซุกตัวซ่อนเร้นเป็นกลลวง
จะพึ่งดวงไม่ได้ต้องใช้ตา

9) ต้องเพ่งดูให้ชัดถนัดถนี่
ต้องแยกสีแยกให้ไร้กังขา
ลิ้มโกวตั้บใช้สีดำกำหนดมา
นั่นคือหญ้าคันคายร้ายเหลือเกิน

10) และมีหญ้าสีเขียวเข้มปนเทา
เป็นหญ้าเก่าขึ้นทั่วไปไม่เคอะเขิน
สมองหดหมดสิ้นหากกินเพลิน
แล้วจะเดินหลงทางออกห่างไกล

13) ควายว่าทำมะนูนใหม่ไร้ปัญหา
คนก็มาใช้ทำมะนูนใหม่
คนอยากเลือกก็เถือกเถือกเลือกเลือกไป
เราจะได้ สอสอ ที่ขอมา

14) คนก็ย้ำทำมะนูนนั้นสูญแล้ว
ลิงได้แก้วไก่ได้พลอยร้อยปัญหา
อ่านดูใหม่อ่านให้ชัดขัดลูกตา
มีมาตราพิสดารประจานไทย

15) เอาความคิดอาจมน่าอาเจียน
มาขีดเขียนเรียนรู้เริ่มต้นใหม่
ของเก่าดีล้นพ้นไม่สนใจ
เขียนขึ้นใหม่ล้วนสร้างภัยให้สังคม

16) ทั้งหัวหน้าส่งมาจากสายเก่า
นักกินเมืองน้ำเน่าเข้าผสม
นักวิชาเกินบ้าบ้ามาอบรม
จะปั้นลมอย่างไรให้เป็นตัว

17) อีกมาตราสุดท้ายน่าอายแท้
คนมันแก่กลัวหนักหนามันน่าหัว
เพราะทำผิดมหันต์มันน่ากลัว
คนมันชั่วรักชาติแท้แต่กลัวตาย

18) เมื่อควายถามทามมายคนม่ายรับ
ให้ของดีแล้วกลับรับม่ายด้าย
มาประท้วงทวงแล้วด้ายอาราย
แล้วทามมายวุ่นวายจริงหนอคน

19) คนก็บอกข้าช้ำระกำแท้
เพราะพวกแกพากันออกมาปล้น
ขีดเขียนทำมะนูนพิการพิกล
จะให้ทนรับอย่างไรก็ไม่ยอม

20) เจ้าควายว่าหญ้าก็ดีมีถมถืด
กินจนอืดเคี้ยวเอื้องด้ายม่ายผ่ายผอม
หญ้าสีเขียวแกมดำน่าดมดอม
หญ้าหอมหอมทั้งอ่อนหวานน้ำตาลอาย

21) คนบอกว่าให้ตาย! ควายตัวนี้
พูดดีดีชี้ให้เห็นเป็นเรื่องง่าย
ก็สมควรที่คนเขาดูหมิ่นควาย
น่าเสียดายเวลามาชี้แจง

22) ควายยังเถียงเอียงคอขอคัดค้าน
ควายทุกบ้านกินหญ้าไปได้ทุกแห่ง
ก็ไม่เห็นเป็นอะไรที่ร้ายแรง
ไม่ต้องแย่งเพราะหญ้านี้มีเหลือเฟือ

23) คนจึงว่าก็ได้ตามใจเถิด
ให้เรื่องเกิดอีกครั้งหนึ่งจึงจะเชื่อ
เผด็จการส่งผ่านยังว่านเครือ
มันทำเพื่อคนไทย ไม่กี่คน

24) คิดอย่างควายก็ได้ตามใจเจ้า
เพราะรากเง้าโง่เป็นควายไม่หลุดพ้น
ทุกข์ใจกายผ่ายผอมยังยอมทน
ไม่ดิ้นรนเรียกหาประชาธิปไตย

จะ ริ ยะ ธรรม


“จริยธรรม” นำมาว่ากันใหม่
ยินใครใครกล่าวอ้างอย่างเจื้อยแจ้ว
ใช้ชีวิตสูงส่งมุ่งตรงแนว
ไม่แตกแถวถึงร่ำรวยด้วยพอเพียง


เมื่อจับพลัดจับผลูมาอยู่สูง
แม้ไม่อยากถูกลากจูงเข้ามาเสี่ยง
ก็เกรงใจคุณพ่อคนคอเอียง
ไม่กล้าเถียงทั้งทั้งที่ไร้ฝีมือ


เมื่อไล่เขาเอาข้อหาว่าใจคด
เลวทั้งหมดไล่มันไปอย่าให้หือ
อย่ากลับมานะกลัวคนจะลุกฮือ
เพราะคนยังเชื่อถือทั่วเมืองไทย


ข้อหาใหญ่ว่าเขาไร้ “จริยธรรม”
โถ....เจ้ากรรม คำนี้ดีไฉน
ออกจากปากสำรากหลุดออกไป
ถึงยังไงคนโง่เง่าเขารับฟัง


“จริยธรรม” นำให้ใจคิดคด
“ทรยศ” นำมาซึ่งรถถัง
“กิเลสโลภ” นำมาซึ่งกำลัง
“ทะยานอยาก” จึงมานั่ง นายกรัฐมนตรี


คิดถึงคำพี่หมอเผานายก
สกปรกเสียจนคนหน่ายหนี
ทำเรื่องเลวเหลวไหลไร้ความดี
แล้วบ่งชี้บกพร่องที่ “ต่อมจริยธรรม”


ภาพนายกคนใหม่ใสสะอาด
ทำวางมาดเริ่ดหรูดูน่าขำ
ประสบการณ์เคยผ่านงานประจำ
ไม่เคยทำการใหญ่ให้บ้านเมือง


ดูหูหนาตาเร่อเหม่อเหงาหงอย
จากยอดดอยเดินมาไม่รู้เรื่อง
เคยแต่เกาะแข้งขาน้าประเทือง
มาทำเฟื่องเป็นนายกฯปกครองคน


จริยธรรมสำคัญนั่นไม่เถียง
อยู่พอเพียงหรือพอใจก็ไม่สน
เป็นตะหานผ่านไปถึงนายพล
ทำตัวจนสมถะซะไม่มี


ถามพี่หมออีกสักข้อจะได้ไหม
นายกฯไทยคนนี้ดีจริงหรือ
หากเข้าวัดหวังเพียงพนมมือ
หากนับถือพระเพียงปากไม่อยากฟัง


เมื่อพี่หมออ้างคำพระมาประดาบ
แล้วกำราบเรื่อยไปให้ความหวัง
ยกความดีมาอ้างอย่างรุงรัง
ได้แต่นั่งมึนงงด้วยสงกา

04/01/50

จะริ ยะ(ทำ) แปลจากภาษากลางปนเหนือ = เสือก(หรือเปล่า?)

๏ ไม่ได้พบ กันนาน อาการหนัก
แต่ก่อนนี้ มีคนรัก ไปทุกแห่ง
พี่หมอคง กินยาซ้ำ ผิดสำแดง
มาแถลง จริยธรรม ผู้นำไทย


๏ ทั้งสิบข้อ ของพี่หมอ ขอต่อว่า
จะพบได้ ในชาติหน้า หรือชาติไหน
คนพันธุ์นี้ จะเกิดมี หรืออย่างไร
หากโคลนนิ่ง ออกมาใช้ ไทยเจริญ


๏ ส่งไปครอง ตำแหน่ง ทุกแห่งหน
ทั้งภาครัฐ เอกชน คนสรรเสริญ
ไม่รักโลภ โกรธหลง และกลัวเงิน
ไม่ต้องการ รวยเกิน กว่าที่มี


๏ จับคนคุก มาผ่าตัด ดัดแปลงใหม่
ต่อมจริยธรรม กระตุ้นให้ เดินเต็มที่
ออกจากคุก ไปบวชพระ และบวชชี
เมืองไทยนี้ ไม่มีคุก สนุกจัง


๏ ออกแบบสร้าง จริยธรรม ใส่ประปา
คนทั่วหล้า ดื่มกินไป เป็นความหวัง
น้ำประปา จะช่วยหลอม รวมพลัง
สามัคคี เป็นที่ตั้ง พลังชน


๏ ออกแบบใส่ จริยธรรม ในไฟฟ้า
ถึงเวลา ใครเปิดไฟ ให้เกิดผล
จริยธรรม ถึงทั่ว ทุกตัวคน
เป็นกุศล อย่างแรง ด้วยแสงไฟ


๏ ออกแบบใส่ จริยธรรม ในมือถือ
ใช้เครือข่าย เป็นสื่อ สัญญาณให้
จัดรายการ วิทยุ ทีวีไป
ออกอากาศ ทั่วไทย ให้คนดี


๏ พูดกันมาก เรื่องต่อม จริยธรรม
ไม่เคยจำ พี่หมอรู้ อยู่ไหนนี่?
พี่ต้องตอบ ผมให้ได้ ในชาตินี้
ช่วยผมที อยากจะดี ด้วยสักคน

วิชากู


๏มีเพื่อนนักวิชาการผ่านมาเยี่ยม
ความรู้เทียมเท่าเมฆฟ้านภาใส
ปราดเปรื่องปัญญามากจากแดนไกล
มหาลัยต่างยกยอว่ายอดคน


๏แต่เป็นนักวิชาการกลายพันธุ์
อุดมการแสนสั้นให้สับสน
เป็นระดับที่เรียกว่าปัญญาชน
ผ่านพ้นวิกฤตการณ์นานหลายปี


๏"วิชา" ใหม่ได้ฟังผ่านอาจารย์สอน
แต่กาลก่อนไม่เคยเห็นเป็นเช่นนี้
คนนิยมชมศรัทธาบารมี
ไม่เคยมีใครเผยแผ่แก่สังคม


๏เป็น"วิชา" แก้ความถูกให้เป็นผิด
ใส่ความคิดลงไปให้เหมาะสม
ความถูกต้องที่ผองชนชื่นชม
ต้องเลิกล้มพลิกผันไปให้สงกา


๏เป็น"วิชา" แก้ความผิดให้เป็นถูก
เพาะเมล็ดปลูกลงไปให้ทั่วหล้า
ต้นความถูกเติบโตขึ้นบังตา
ให้เห็นว่านั่นแลถูกที่ปลูกมา


เป็น"วิชา" ใส่ไคล้ให้คนหลง
ป้ายสีตรงลงไปตามใจข้า
อยากให้ดำขาวหรือเทาเอาสีมา
ละเลงทาจนกว่าจะพอใจ


๏เป็น"วิชา" ปกป้องเหล่าผองเพื่อน
เป็นเสมือนเกราะแก้วกำบังให้
ใครจะว่าเพื่อนของข้าได้อย่างไร
เพื่อนข้าไม่เคยผิดสักนิดเดียว


๏เป็น"วิชา" ช่วยเหลือเพื่อเพื่อนพ้อง
เพราะเพื่อนต้ององอาจฉลาดเฉลียว
เพื่อนจะผิดได้อย่างไรไม่ได้เชียว
จะแก้เกี้ยวกู้หน้าไปไม่ให้จน


๏เป็น "วิชา" แก้ตัวมั่วไปได้
เอาท่าไหนได้ทุกท่าอย่าสับสน
ขอให้รอดก่อนเถิดหนาอย่ากังวล
เราสู้ทนหน้าด้านได้ไม่อายใคร


๏เพียงได้ฟัง ยังอดสู ดูบัดสี
"วิชา" นี้ มีให้เห็น เป็นไฉน
พูดเสียงเข้ม เต็มปาก ภาคภูมิใจ
"วิชา" ใหม่ เรียกชื่อว่า วิชากู

(อ)วิชาการ


๏เมื่อคิดการ อ่านเขียน เรียนหนังสือ
แล้วสร้างชื่อ ลือลั่น สนั่นฟ้า
ความลำบาก ที่พากเพียร ร่ำเรียนมา
เกิดปัญญา พาให้ ใจมั่นคง


๏แล้วถ่ายเท ภูมิรู้ สู่ลูกศิษย์
ให้ชีวิต งดงาม ตามประสงค์
ลำบากใจ ไม่ย่อท้อ ทรนง
จะเสริมส่ง สอนศิษย์ไป จนได้ดี


๏จรรยาบรรณ อันศักดิ์สิทธิ์ ลิขิตไว้
มอบทั้งใจ ทั้งกาย ไม่หน่ายหนี
ความเป็นครู อยู่ยั้ง ทั้งชีวี
ศิษย์เลวดี ยังตั้งใจ ให้วิชา


๏อาจารย์ใหม่ ใฝ่วิชา บ้างานหนัก
ความรู้ตัก ตวงได้ เมื่อใฝ่หา
ได้พบเจอ ความเลอเลิศ เกิดปัญญา
ได้อัตตา อย่างใหม่ ไปครอบครอง


๏แล้วบังเอิญ เงินตรา มาปรากฎ
ทั้งลาภยศ ชื่อเสียงให้ ใจผยอง
ตำแหน่งดี มีคุณค่า ยิ่งกว่าทอง
อาจารย์ต้อง ไขว้เขว ลังเลใจ


๏วัตถุนิยม ในสังคม ล่อลวงหลอก
กิเลสบอก ขอข้า มาอาศัย
สร้างโลภะ สอนสั่ง สังคมไทย
ให้หลงไหล ในวัตถุ บรรลุกาม


๏ใช้วิชา แสวงหา ซึ่งทรัพย์สิน
การอยู่กิน วางท่า น่าเกรงขาม
รถต้องโก้ บ้านต้องโต เมียต้องงาม
ไม่ต้องถาม เงินนี้ได้ แต่ใดมา


๏ทำวิจัย ใช้ความรู้ สู่ตำแหน่ง
ทั้งแก่งแย่ง ชิงเด่น เช่นหมาบ้า
อาวุโส โง่เกินไป ไม่เข้าตา
ต้องอย่างข้า ด็อคเตอร์หนุ่ม กลุ่มยังบลัด


๏แล้วตกแต่ง ตำรา ออกมาขาย
วิชากลาย เป็นเงินได้ ไม่ข้องขัด
ส่งชื่อเสียง ขจรไกล ฟังให้ชัด
แล้วเร่งรัด สร้างให้ตน เป็นคนดัง


๏เมื่อแสดง ภูมิรู้ สู่สาธารณะ
ผู้คนจะ ตื่นตาม ด้วยความหวัง
วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องเล็กใหญ่ ให้คนฟัง
จนกระทั่ง มีชื่อ ระบือไกล


๏นักการเมือง ชักนำมา เป็นอาวุธ
ในที่สุด นักวิชา มาหลงใหล
นำวิชา มาประกอบ ตามชอบใจ
ทำสิ่งใด ใช้วิชา มาอ้างอิง


๏วิชาการ กับการเมือง เป็นเรื่องเก่า
เรื่องน้ำเน่า แสนนาน โบราณยิ่ง
ใช้วิชา มาขันแข่ง มาแย่งชิง
ทำทุกสิ่ง อิงวิชา มาล้มล้าง


๏ทฤษฎี วิชาการ กับการเมือง
ค้านทุกเรื่อง จะเล็กใหญ่ จะไปขวาง
ทฤษฎี สารพัด เรียง จัด วาง
ผลสรุป ให้เข้าข้าง พวกของตน


๏อาศัยคำ นำหน้า ว่า อาจารย์
วิชาการ มองต่างไป ให้ต่างผล
เกิดความต่าง ต่างร้อน ร่านทุรน
ความมัวหม่น มืดมิด ปิดปัญญา


๏แท้ที่จริง เป็นเพียงนัก วิชาเกิน
ที่เพลิดเพลิน กองกิเลส และตัณหา
ใช้ศักดิ์ศรี สถาบัน ไร้จรรยา
ใช้วิชา ไปทางผิด คิดจนตาย


๏วิชาการ ที่อาจารย์ สรรเสริญ
วิชาเกิน เกิดวิชา วิชั่วร้าย
วิชามาร มาครอบงำ จ้องทำลาย
วิชางม วิชางาย ต้องขายตัว

วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เจ้าข้าเอ๋ยเคยโง่ก็โง่อยู่

เจ้าข้าเอ๋ยเคยโง่ก็โง่อยู่
กระซิบบอกกรอกหูผู้ขลาดเขลา
ถือตัวเลขโชคลางมาชำเรา
ขอจงเอาเลขเก้ามาเป็นแกน


อธิษฐานชาวไทยให้ก้าวหน้า
ตั้งเลขผานาทีไว้บนแท่น
น้ำลายร่วงน้ำตาหลั่งทั้งดินแดน
ขอตอบแทนที่อาศัยใต้ชายคา


จะอยู่ร้อนอยู่เย็นก็ยังอยู่
จะกรีดเชือดเลือดปูไปทั่วหล้า
จะคับข้องหมองใจไม่นำพา
ก็ยินดีที่เกิดมาบนแหลมทอง


เมื่อในน้ำมีปลานามีข้าว
จงเก็บเกี่ยวกินเอาเถิดพี่น้อง
ให้เกิดกินเกียรติกามตามครรลอง
มิพักต้องสงกาหาเรื่องราว


ตั้งเลขผานาทีให้ดีแท้
ขอเพียงแต่ ก้าว ก้าว ก้าว ก้าว ก้าว ก้าว ก้าว
จากผืนดินโบยบินไปกินดาว
ทั้งหนุ่มสาวแก่เฒ่าท่านรู้ทัน


ต้องเม้มมิดปิดปากทนเจ็บปวด
ให้คนโง่โอ้อวดแลเยาะหยัน
พลังเก้าพราวแสงแข่งตะวัน
ด้วยดวงจิตคิดสั้นดันทุรัง


เมื่อในน้ำหมดปลานาหมดข้าว
จะกี่ล้านเลขเก้าล้านความหวัง
แล้วแหกปากร้องไปให้ใครฟัง
เสียงจะดังแค่ไหนใครได้ยิน

วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ประชา...สิปางตายยย

๏ มารดน้ำประชาธิปไตยในยามเช้า
เพื่อประเทศของเราจำเริญรุ่ง
คนละจอกจากบ้านนอกและในกรุง
ประสมปุ๋ยปนปรุงปุ๋ยอินทรีย์

๏ มารดน้ำประชาธิปไตยในยามเที่ยง
รดราดตอให้พอเพียงนะน้องพี่
ใช้เวลาคนละห้าหกนาที
สามัคคี สมาน-ฉัน สมาน-เธอ

๏ มารดน้ำประชาธิปไตยในยามค่ำ
ปนปรุงจากจริยธรรมอันพร่ำเพ้อ
รดให้พอรดให้เพียงนะเพื่อนเกลอ
อย่าฟุ้งเฟ้อเห่อมากไปให้พอเพียง

๏ มารดน้ำประชาธิปไตยในยามดึก
ประสมจิตสำนึกในน้ำเลี้ยง
ฮอร์โมนเร่งให้เปล่งปลั่งทั่ววังเวียง
กล่อมด้วยเสียงมโหรีดนตรีไทย

๏ จักให้ต้นประชาธิปไตยใบสวยหรู
ออกดอกผลพร่างพรูสู่สมัย
ทั่วทุกถิ่นกาขาวชาวศิวิไลซ์
เป็นต้นแบบประชาธิปไตยในแผ่นดิน

๏ จะเชิดหน้าชูตา โลกาภิวัฒน์
ตุลาการวิบัติวิปลาสสิ้น
จึ่งหวังต้นประชาธิปไตยให้เก็บกิน
เป็นทรัพย์สินมหาศาลบานบุรี

๏ ยิ่งรดน้ำประชาธิปไตยใบยิ่งร่วง
คงมีหนอนฤาเพลี้ยด้วง มากิน-ขี้
กัดเซาะก้านกิ่งใบดูให้ดี
ต้องเติมสารเคมีมาประทัง

๏ ยิ่งรดน้ำประชาธิปไตยใบยิ่งเหลือง
จะฝันเฟื่องไปใยให้ผิดหวัง
อ้ายต้นไม้ต้นนี้ไม่จีรัง
เพราะคำสั่งตัดต่อท่อฮอร์โมน

๏ ฝันของนักวิชาเกินเพลินไปหน่อย
ละล่องลอยเพราะเขาให้ใส่หัวโขน
ตัดต่อยีนมากมายปลายถึงโคน
แล้วห้อยโหนเกาะกระแสว่าแน่จริง

๏ เป็นต้นไม้จีเอ็มโอโง่บัดซบ
ทั่นประทานที่เคารพก็เฉยนิ่ง
ข้าทาสทั่นทำผิดใดไม่ท้วงติง
เพราะทุกสิ่งที่ทำไปไม่รู้เลย

๏ ไม่ได้รู้รากเหง้าเอาจากไหน
พอถามถึงกิ่งใบได้แต่เฉย
ปลูกต้นไม้เคยไหม?ก็ไม่เคย
ปัดโธ่เอ๋ยต้นไม้ใช้ของปลอม

คนไทยรออะไร?



1) รอฝน
แต่ก่อนมาชาวนาเฝ้ารอฝน
ยอมทุกข์ทนหลังสู้ฟ้าหน้าหม่นหมอง
แผ่นดินไทยได้ชื่อแผ่นดินทอง
ฝนตกต้องตามฤดูอยู่เรื่อยมา

2) รอเก็บเกี่ยว
เมื่อไถหว่านปักดำกล้าพาหายเหนื่อย
ลมระเรื่อยพลิ้วระลอกบอกภาษา
ข้าวขึ้นเขียวสว่างใสในท้องนา
รอเวลาเก็บเกี่ยวลับเคียวรอ

3) รอโชคชะตา
ได้เกี่ยวข้าวราคาดีมีความหวัง
พอประทังผ่อนหนี้ที่ได้ก่อ
โชคชะตาปีหน้าถ้าน้ำพอ
จะไปขอปลดหนี้ที่จำนอง

4) รอถูกหวย
เมื่อควักเงินซื้อหวยหวังรวยลัด
ความฝืดเคืองอัตคัดจึงจำต้อง
ละเมอฝันวันถูกหวยรวยเงินทอง
ญาติพี่น้องต้องกลับมาพร้อมหน้ากัน

5) รอความช่วยเหลือ
ยามน้ำท่วมฝนแล้งรอช่วยเหลือ
คนไทยเกื้อเจือจานบุญทานมั่น
มิทอดทิ้งไทยทุกข์ไทยช่วยพลัน
น้ำใจนั้นคนไทยเปี่ยมไมตรี

6) รอโอกาส
โอกาสดีมีทั่วทุกหัวระแหง
จะยื้อแย่งไปใยให้บัดสี
จะรั้งรอเรื่อยไปทำไมมี
โอกาสดีมีไว้ให้ทุกคน

7) รอผู้ปกครอง
ผู้ปกครองควรต้องรู้หน้าที่
สิ่งใดดีทำไปให้เกิดผล
ต้องเข้าถึงสุขทุกข์ประชาชน
อย่าทำตนเลิศลอยหน่อยจะพัง

8) รอประชาธิปไตย
รัฐธรรมนูญของนักปฏิวัติ
ช่างอึดอัดข้องใจไร้ความหวัง
ประชาชนถูกลิดรอนอ่อนกำลัง
โปรดจงฟังคำสั่งอีกครั้งหนึ่ง

9)รอรัฐธรรมนูญ
รัฐธรรมนูญประชาชนถูกปล้นฆ่า
ชนชาวไทยทั่วหล้าไร้ที่พึ่ง
ถูกแอบอ้างแบ่งฝั่งฟากฉุดลากดึง
คงจะถึงเวลารวมพลัง

10)รอเลือกตั้ง
สิทธิเสรีมีให้ไทยทั่วหล้า
ถึงเวลาร่วมใจไปเลือกตั้ง
แต่ข้องขัดรัฐธรรมนูญครานี้ยัง
เป็นเหมือนดั่งปีศาจอุบาทว์จริง

วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ปากกาวิเศษ กรกฎา 2549


ฐานันดรที่สี่มีเกียรติศักดิ์
ถือเป็นหลักคู่แผ่นดินสิ้นสงสัย
เทิดทูนชาติศาสน์กษัตริย์อธิปไตย
ประชาชนชาวไทยได้พึ่งพา



ดั่งกองทัพถือปากกาเป็นอาวุธ
ตาประดุจเหยี่ยวเหินกลางเวหา
เฝ้าระแวดระวังภัยให้ประชา
ใช้ปากกาพิชิตมารผลาญแผ่นดิน



มาบัดนี้มีปากกาพยาบาท
มีปากกาทำลายชาติกวาดทรัพย์สิน
มีปากกาทำลายชนจนพังภินท์
มีปากกาเล่นลิ้นเล่ห์ลมลวง



มีปากกาด้ามน้อยคอยจุดไฟ
มีปากกาด้ามใหม่ที่ใหญ่หลวง
มีปากกาที่หยามเหยียดคนทั้งปวง
มีปากกาทะลุทะลวงสังคมพัง



มีปากกาวิเศษอาเพศนัก
คอยสลักร่ายคำได้ดั่งใจหวัง
ร่ายโศลกเลวร้ายให้คนฟัง
เกิดบ้าคลั่งดั่งเสพย์ยาพาราระทม



แยกครอบครัวแยกผัวเมียแยกพี่น้อง
แยกเพื่อนพ้องญาติมิตรเคยสนิทสนม
แยกหมู่เหล่าแยกชนชั้นแยกสังคม
คอยสร้างปมปัญหาไว้ให้วุ่นวาย



แยกชั้นสูงแยกชั้นกลางชั้นติดดิน
สังคมสิ้นศรัทธาปากกา ฉิบหาย
จรรยาบรรณเสื่อมถอยคอยวันตาย
น่าเสียดายคนดีดีที่ถูกกลืน



ไร้ยางอายขายข่าวเบี้ยวเบือนบิด
มันไม่คิดว่าผู้คนจะขัดขืน
เขียนกลับกลอกหลอกเรื่อยไปไร้จุดยืน
สังคมตื่นลุกขึ้นมาช่วยฆ่ามัน

สื่อแท้ๆ

๏สื่ออะไร ที่ไหน ใครว่าแท้
สื่อเป็นแค่ สร้างนิยาย หรือขายข่าว
มีสำนึก บันทึกความ ตามเรื่องราว
หรือจะสาว ใส้ใครใคร ไปประจาน



๏หรือจะสืบ แสวงหา ล่าความจริง
หรือจะอิง กับตัวเลข เอกสาร
หรือจะจ้าง คนใน ไว้ใช้งาน
หรือจะสร้าง สถานการณ์ ให้บานปลาย



๏หรือจะถาม ยุแหย่ ให้แตกแยก
หรือจะแถก แถไป ไอ้ชิบหาย
หรือจะชอบ ให้เกิด ความวุ่นวาย
หรือจะตาย ถ้าใครใคร รู้เท่าทัน



๏หรือนั่งเทียน เขียนข่าว ให้ยาวยืด
หรือเขียนเรื่อง ตลกฝืด ไม่น่าขัน
หรือชอบเขียน ข่าวคน ทะเลาะกัน
หรือเพ้อฝัน แล้วเขียนลง ส่งบอกอ



๏หรือตามดู ดารา หาตำหนิ
หรือจะริ วางก้ามใหญ่ ให้คนหงอ
หรือชอบเขียน ต่อว่า เขียนด่าทอ
หรือเขียนขอ คนหนุน หาทุนกิน



๏หรือเขียนเชียร์ เลียไว้ ได้ประโยชน์
หรือเขียนโทษ กล่าวหาใคร ได้ทั้งสิ้น
หรือเขียนคำ นินทา เป็นอาจิณ
หรือเขียนดิน ให้สดใส ได้เป็นดาว



๏หรือเขียนด่า ได้ทุกวัน มันเข้าไว้
หรือเขียนให้ สะใจ ไม่รู้หนาว
หรือเขียนให้ คนทะเลาะ เป็นเรื่องราว
หรือเขียนให้ คนขาว กลายเป็นดำ



๏นี่เแหละเขา ร่ำลือ เป็นสื่อแท้
มาตั้งแง่ ทำไม โธ่ไอ้หัม
เป็นสื่อแท้ ใยทำแต่ เรื่องรายัม
พูดซ้ำซ้ำ ว่าถูกแทรก แปลกจริงเออ



๏รัฐบาล เอาอะไร ไปแทรกเล่า
มีแต่เจ้า จ้องด่าเขา ไม่ใช่เหรอ
เป็นเพราะเขา ไม่มัวเมา มาบำเรอ
เจ้าจึงเก้อ เหม่อรอ เป็นขอทาน



๏รัฐไม่ลง โฆษณา จึงด่าเขา
ก่อนนี้เจ้า เคยได้ไป หลายร้อยล้าน
รัฐหยุดลง โฆษณา ตั้งท่าพาล
ร่วมกับพวก พันธมาร ผลาญแผ่นดิน



๏ใช่พวกเจ้า จะไม่รู้ ดูไม่ออก
ใครถูกหลอก ใครคนหลอก ดูออกสิ้น
ใช้จริต ชาวประชา มาหากิน
เจ้าจึงดิ้น ตามไป ในข่าวลวง



๏จะอวดอ้าง ข้างกูหรือ คือสื่อแท้
ใครมาแส่ ทำดี ข้านี้หวง
ต้องปั้นน้ำ ทำเรื่องใส่ สมองกลวง
ข้ายังห่วง ยอดขาย เสียดายเงิน



๏ลงข่าวดี ก็ไม่มี คนสนใจ
เป็นข่าวดี พาดหัวใหญ่ ให้ขัดเขิน
ยิ่งข่าวบุญ กุศล คนเขาเมิน
ทำแต่ข่าว ไม่เจริญ แก่ปัญญา



๏ลงข่าวร้าย ก็มุ่งหมาย ร้ายสุดสุด
จะช่วยฉุด ยอดขาย ให้นำหน้า
ผลประโยชน์ ใหญ่โต โฆษณา
เพื่อเงินตรา คือสื่อแท้ แน่นอนเอย๏

วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เทพหมดท่า


1)เหล่าเทวาเทวีที่เคารพ
ผู้เจนจบฤทธาบนฟ้ากว้าง
ประกายแสงสดสวยช่วยส่องทาง
คลายทุกข์โศกโรคร้างจางจากไป

2)ครั้นเทพาอารักษ์ต้องถอยร่น
ด้วยว่าประชาชนไม่เลื่อมใส
เคยงอนง้อขอพรแต่ก่อนไร
มิเคยได้ดังหวังดั่งเว้าวอน

3)หลงโง่งมจมดิ่งในดวงจิต
ที่มืดมิดไม่เห็นธรรมพระพร่ำสอน
ยังเซ่นไหว้เวียนหวังฟังคำพร
ด้วยห่วงหาอาวรณ์ทุกคืนวัน

4)เพราะทวยเทพเสพย์สมแต่ความสุข
เรื่องความทุกข์เทพไท้ไม่หมายมั่น
จะกรานกราบพิลาปร่ำร้องรำพัน
เพียงเพ้อฝันที่หลงเฝ้าเจ้าจอมปลอม

5)เห็นทวยเทพทำท่าเบือนหน้าหนี
แม้นจะมีบรรณาการที่หวานหอม
ฤาติดขวากวิบากกรรมต้องจำยอม
ต้องระทมตรมตรอมไปตามกรรม

6)หรือเทวาเทวีที่เล่าขาน
เพียงตำนานลวงโลกจนตกต่ำ
หลอกฝูงควายฝูงโคโง่ระยำ
ใส่พระนามในความจำให้สำนึก

7)ปวงไพร่ฟ้าหลงบูชาปาฏิหาริย์
หลงบุญญาธิการอันก้องกึก
หลงในรูปธรรมอันล้ำลึก
เห็นข้าศึกยอมสยบจนจบแดน

8)ที่กราบกรานวันทากันทั่วโลก
เสวยสุขคลายโศกเพียงชั่วแล่น
ยืดอายุอันยากไร้ไปแกนแกน
ที่ทวยเทพตอบแทนทั่วทุกตัวตน

9)ฤาทวยเทพเทวาที่ว่าแน่
เป็นเทพแท้หรือไรให้ฉงน
หรือเทพเทียมทำท่ามาหลอกคน
ยิ่งครุ่นคิดยิ่งขัดสนจนปัญญา

10)เทพเทวาเทวีที่มองเห็น
หรือว่าเป็นปูนปั้นอันไร้ค่า
สร้างฤทธิ์เดชด้วยคำโฆษณา
ใช้อำนาจอาญามากดดัน

11)ปวงประชาหน้าใสเป็นไพร่ฟ้า
ทั่วแผ่นพื้นพสุธาหฤหรรษ์
ต้องเป็นสุขไร้ทุกข์ถ้วนทั่วกัน
ไม่มีวันจะวุ่นวายสบายนัก

12)ด้วยเดชาปารมีที่เทพสร้าง
ไพร่อยู่กลางธุลีดินจนสิ้นศักดิ์
จะทุกข์ร้อนอย่างไรไพร่จงรัก
จะทุกข์หนักอย่างไรไพร่อย่าร้อง

13)เมื่อบ่าวไพร่ไร้ทางจะคลายทุกข์
จึ่งปลอบปลุกวิญญาณกันทั้งผอง
แม้นเป็นไพร่จิตเป็นไทใครจะครอง
จงเดินไปในครรลองอันเสรี

14)เกิดการโกลาหลชนทั่วหล้า
ต่างชวนมารวมกันในวันนี้
ร่วมสอบถามถึงสิทธิอันพึงมี
เก็บไว้ที่แห่งใดในพิมาน

15)เหล่าทวยเทพเริ่มหมดท่าหาทางออก
จึงพร่ำบอกบ่าวไพร่ให้สงสาร
ที่ปกปักรักษาเมืองมานาน
ขอให้รักสมัครสมานกันทุกคน

16)ยึดหลักว่าสามัคคีเป็นที่ตั้ง
รวมพลังหวังสิ่งใดก็ได้ผล
ด้วยเมตตาไพร่ฟ้าประชาชน
ขอให้ทนต่อไปอีกไม่นาน

17)ประเทศชาติชอกช้ำด้วยคนชั่ว
ที่ขลาดเขลาเมามัวแลฟุ้งซ่าน
โลภจริตคิดสั้นอันธพาล
เข้าประหัตประหารประชาชน

18)จะมอบสิทธิเสรีที่ครองไว้
จะมอบความเป็นไททุกแห่งหน
เป็นประชาธิปไตยให้อดทน
จะร้อนรนไปใยให้รอคอย

19)ฟังสำเนียงเสียงเทพยังกันท่า
ปวงประชาชาติไพร่ไม่ท้อถอย
ไม่ฟังคำบิดเบือนอันเลื่อนลอย
รอแต่น้อยคุ้มใหญ่ไม่ได้มา

20)ยังร่ำร้องเรียกเสรีที่เก็บไว้
ยุติธรรมอยู่ที่ไหนไพร่ถามหา
ไม่วู่วามทวงถามความเมตตา
จวนจะหมดเวลาแล้วเจ้าค่ะ


บันไดสวรรค์


เร่งทำบุญสร้างบันไดไปสวรรค์
เกรงว่ากรรมจะตามทันในชาตินี้
คิดว่าสิ่งที่เคยทำเป็นกรรมดี
หลายสิบปีที่พ้นผ่านเนิ่นนานมา


ร้อนดั่งไฟไหม้ลามยามแก่เฒ่า
สร้างบุญไว้ให้เขาเพียงเอาหน้า
ระเริงรื่นชื่นสุขทุกเวลา
เสวยลาภบาปหนามาเนิ่นนาน


ไม่รู้เห็นเวรที่ทำกรรมที่ก่อ
สรรเสริญเยินยอกันทั่วบ้าน
กิเลสโลภหลงใหลในสายธาร
ทุจริตพิสดารดั่งนิยาย


ใช้สินทรัพย์ซื้อบุญบำรุงบาป
เป็นทองฉาบทาบรัดกิเลสร้าย
ครอบความคิดจิตใจจนใกล้ตาย
ยังวุ่นวายเพ้อพะวงหลงตัวตน


เสพอำนาจสิ้นอายขายชีวิต
เข้าเกาะติดตามใจไร้เหตุผล
เป็นผู้ใหญ่ไม่เห็นค่าประชาชน
ยังแบ่งชั้นแยกชนพลเมือง


เห็นผู้คนศิโรราบยอมกราบไหว้
บ้างฝืนใจเชิดชูให้ฟูเฟื่อง
ต้องเคารพนบนอบอยู่เนืองเนือง
ข้างในนั้นขุ่นเคืองด้วยคับแค้น


ดั่งซากสัมภเวสีที่คอยท่า
ธุลีฝุ่นบุญญาพาโลดแล่น
เสพเศษเสี้ยวส่วนบุญอันบี้แบน
ต้องตอบแทนคุณท่านที่เมตตา


เร่งทำบุญสร้างบันไดไปสวรรค์
เกรงว่ากรรมจะตามทันถึงชาติหน้า
หวังตัดเวรตัดกรรมที่ทำมา
ด้วยเศษเสี้ยวบุญญาบารมี


จะหักลบกลบบาปด้วยบุญใหญ่
จึ่งกะเกณฑ์พลไพร่และภูตผี
อีกอำมาตย์โหราพระเถรชี
ช่วยขับไล่ไพรีที่รุกล้ำ

รายการจงรักภักดี Contest


เราจงรักภักดีเป็นที่หนึ่ง
เรานั้นจึงรอคอยไม่ถอยหนี
เราจะยึดเราจะอยู่สู้ไพรี
เรานั้นเป็นคนดีที่ดักดาน

เรานำแสงแห่งปัญญามาประกาศ
เราพลีชีพเพื่อชาติอย่างอาจหาญ
เราสร้างแนวป้องกันการรังควาน
เรารวมพวกอันธพาลคอยคุ้มครอง

เรารักษาอาณาเขตประเทศไว้
เราไม่ให้ใครใครมาเกี่ยวข้อง
เราเป็นไทยรักใคร่และปรองดอง
เราพี่น้องต้องยืนอยู่สู้ต่อไป

เราต้องสร้างกำลังใจไม่หงอยเหงา
เราคือเรามิใช่เขาเข้าใจไหม
เรานั้นคือทองแท้มิกลัวไฟ
เราเป็นไททหารไทยคอยคุ้มกัน

เราจงรักภักดีเป็นที่สุด
เราไม่หยุดไม่หนียึดที่มั่น
เราไม่เห็นอะไรเป็นเรื่องสำคัญ
เราเท่านั้นที่จงรักและภักดี

เราจะอยู่จะต่อสู้ด้วยเสื้อเหลือง
เราสร้างเรื่องไปทั่วเมืองไปทุกที่
เรานั้นมีเครื่องมือคือทีวี
เราด่าใครได้ฟรีฟรียี่สิบสี่ชั่วโมง

เราจงรักภักดีที่สุดแล้ว
เรายึดแนวสามัคคีที่สุดโต่ง
เราร่วมกันกอดเกี่ยวแล้วยึดโยง
เราจรรโลงประชาธิปไตยให้เจริญ

เราออกแบบการเมืองใหม่ไฉไลกว่า
เราได้หน้าล้นพ้นคนสรรเสริญ
เราแยกไพร่ผู้ดีที่ขาดเกิน
เราได้เงินเราทำงานผลาญต่อไป

เรากระจายกลายเป็นดาวพราวไปทั่ว
เราไม่กลัวใครจะกล้ามาขวางได้
เราว่าขาวเขาว่าดำก็ตามใจ
เราไม่ให้ตำรวจไทยมารุกราน

เราไม่กลัวไม่เกรงเราเก่งกาจ
เรารักชาติหนักหนากว่าทหาร
เราไม่หนีจะอยู่นี่นานเท่านาน
เราเป็นมารที่โคตรรักโคตรภักดี

ซาตานห่มผ้ากาสา


เมื่อผีพรายห่มผ้าทำหน้าเคร่ง
แล้วบรรเลงร่ายมนต์ปนยาสั่ง
นะเมตตาสาลิกานะจังงัง
เสกน้ำหลั่งสลัดส่งลงกบาล

อ้างศีลสัตย์สรรพคุณคณานับ
จ้าวประทับร่างทรงแล้วเสิบสาน
คติพจน์คนโซโง่ดักดาน
บริวารเวียนไหว้ด้วยใจภักดิ์

ป่าวประกาศก้องในไทยคู่ฟ้า
อวิชชาไสยศาสตร์วิปลาสหนัก
ออกอาการยุ่งยิ่งทั้งลิงยักษ์
เที่ยวหาญหักท้าทายทั่วเมืองไทย

ประดาเปรตป่าวร้องทั่วท้องฟ้า
อนิจจาหาส่วนบุญบ่มิได้
เดรัจฉานฉ้อฉลสร้างกลไก
ทั้งมีดไม้ดาบหอกระเบิดปืน

อ้างกองทัพแห่งธรรมมานำหน้า
เคี้ยวกระท่อมเสพย์ยาหน้าระรื่น
ทั้งเช้าสายบ่ายเย็นย่ำยันค่ำคืน
ต้องกัดกลืนการชั่วที่ตัวทำ

อาศัยภาพพรหมจรรย์จำแลงร่าง
ได้ธรรมะมาบ้างแค่ชั้นต่ำ
รึปกปิดปากเหวเลวระยำ
จะดิ้นรนฤาพ้นกรรมที่ก่อการ

ถึงปลดเปลื้องเกศาใช่ว่าพระ
มิอาจละกิเลสร้ายหลายสถาน
อันเส้นแบ่งแยกภพพระกับมาร
เพียงสายธารเส้นน้อยคอยกั้นไว้

เทศนาเพื่อสนองกองกิเลส
ไร้แม้เศษเสี้ยวธรรมที่ขานไข
ล้วนโมหะมาจูงกำหนดใจ
สำเร็จกามความใคร่ได้เห็นบุญ

ชะเง้อหาตาแลแค่ห่างห่าง
โทสะขวางเพลิงประทุที่คุกรุ่น
ไม่หันเหหักห้ามกามคุณ
ยังก่อกรรมทำทุนทางอบาย

ลัทธิหาซาตานสันดานชั่ว
ยังเมามัวเสริมสร้างทางฉิบหาย
โพกพันผ้าวิปริตปิดร่างกาย
เพียงดูคล้ายพระเณรก็เท่านั้น

บทสรุปสยามสมัย


บทสรุปประเทศคงบุบสลาย
ความฉิบหายที่บังเกิดในกาลนี้
เพราะเครื่องมือหาญหักความภักดี
มาตรฐานบ่งชี้ประชาชน


ข้อกล่าวหาว่ากบฏเริ่มกดขี่
เหลืองย้อมสี น้ำเงิน-ดำ ตามมาปล้น
ในความมืดมัวเมาเอาใจตน
ข้ามไม่พ้นเพลิงกิเลสอันเร่าร้อน


ยังยื้อยุดฉุดไว้ไม่ปลดปล่อย
ที่เลิศลอยเหนือใครในกาลก่อน
คิดเหยียบย่ำหยามหยันนิรันดร
ฤาจะไม่ม้วยมรณ์...มึงเป็นใคร


ทุกคนต่างเดินทางถึงจุดจบ
ควรเคารพผองชนผู้เป็นใหญ่
แม้นบังอาจอิงแอบอำนาจใด
ก็เพียงไพร่อิงฟ้าอ้างหากิน


ถึงที่สุดต้องสลายกลายเป็นเถ้า
ฤาจะเฝ้าสมบัติแลทรัพย์สิน
ทุกคนล้วนล่วงลับกลับสู่ดิน
ใครฤาบินหลบลี้หนีความตาย


ด้วยอำนาจศักดินาอันสูงส่ง
จะร่วงลงสู่นิยามความฉิบหาย
ต้องเผาบ้านผลาญเมืองให้วอดวาย
เผาเพื่อล้างความเลวร้ายจากแผ่นดิน









อินเตอร์เหนื่อย เหน็ดหนืด...น่ามะโห


โอ้อกเอ๋ยอินเตอร์เหน็ดอินเตอร์เหนื่อย
นั่งปั้นจิ้มจนเมื่อยมาแต่ไหน
ตอแหลแลนด์แดนดินถิ่นของใคร
ล้วงความลับจับไส้สาวออกมา


โอ้อกเอ๋ยอินเตอร์เหน็ดแก้กำหนัด
มอนิเต๋อ ตามถนัดทั่นเจ้าขา
เฝ้าสอดส่ายโซเซทุกเวลา
แล้วกล่าวหาว่าความตามโทษทัณฑ์


โอ้อกเอ๋ยอินเตอร์เหน็ดอินเตอร์หนืด
ไฮสปีดไฮสะปืด อืด.....ทั้งนั้น
มันย่ำแย่ทุกยี่ห้อ พอพอกัน
จ้องดาวน์โหลดทั้งวันไม่มีไฟล์


โอ้อกเอ๋ยอินเตอร์เหน็ดอินเตอร์หนุด
ประเดี๋ยวติดประเดี๋ยวหลุดตลกร้าย
จะกี่เม็ก จะกี่กิ๊ก ก็กลับกลาย
เป็น ต.เต่า ใกล้ตาย ตามเวรกรรม


โอ้อกเอ๋ยอินเตอร์เหน็ดอินเตอร์เหนื่อย
ลุ้นอยู่เรื่อยเวลาสายจนบ่ายค่ำ
นั่งหลังงอ ทรมานงานไม่ทำ
พอเหน็ดคล่อง ก็ต้องจำลาจากจร


โอ้ละหนออินเตอร์เหนื่อยอินเตอร์เหน็ด
ล้านความเท็จแล่นฉิวปลิวกันว่อน
หวาดผวาบ้าหรือวะ? พระนคร
แก๊งค์ สอสอ สำส่อน ก็ร้อนใจ


โอละหนออินเตอร์เหน็ดแฝงกำหนัด
จะกอดรัดฟัดเหน็ดจนถึงไหน
มอนิเต๋อ ตามให้รู้อยู่หนใด
แล้วจับไปยัดใส่ในตะราง

แบบเรียน ก ไก่ ก การเมือง


แบบเรียนฉบับนี้ เกิดจากจินตนาการของข้าพเจ้าโดยแท้

ข้าพเจ้ามิได้มีเจตนาจะกระทบกระเทียบเปรียบเปรยถึงสิ่งมีชีวิตใดๆในโลกนี้ทั้งสิ้น

หากเหตุการณ์ตามท้องเรื่องได้พ้องกันกับเหตุการณ์ใดๆในโลกนี้
ขอให้ถือว่าเป็นความบังเอิญอย่างที่สุด
กรุณาอย่าได้เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน
อันจะเป็นเหตุให้เว็บมาสเตอร์ได้รับความเดือดร้อนรำคาญใจ จนถึงกับลบกระทู้ของข้าพเจ้าดังที่เคยปฏิบัติมาในกระทู้ก่อนหน้านี้

มิพักที่ข้าพเจ้าได้ทำการประกาศสู่สาธารณะไว้ว่า เรื่องราวที่ข้าพเจ้าได้นำเสนอ เป็นเรื่องราวอันเกิดจากจินตนาการของข้าพเจ้าทั้งสิ้น ก็คงยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน อันนำไปสู่การลบกระทู้แลความคิดเห็นอันเป็นอิสระของข้าพเจ้าอยู่เนืองๆ

แต่ก็ช่างเถิด หากบทเรียน ก ไก่ ก การเมืองฉบับนี้ ต้องมีอันเป็นไปอีกครั้ง ข้าพเจ้าคงต้องขอพักการใช้อมยิ้มของข้าพเจ้าไว้ชั่วคราว ประดุจดังการพักหนี้เกษตรกร ซึ่งหากเมฆหมดฝนซาฟ้าใสประชาธิปไตยเบ่งบาน คงจะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่ข้าพเจ้าจะได้กลับมาใช้อมยิ้มของข้าพเจ้าให้เป็นประโยชน์หรือเป็นโทษแก่ผู้อื่นต่อไป


1) ก เอ๋ย ก ไก่
ตื่นตกใจ ในรัฐ- ประหาร
จะนั่งรอ ข ไข่ ไม่ได้การ
นับ ฃ ฃวด รอบบ้าน ขายซาเล้ง

2) พวก ค ควาย ยักย้าย ส่ายซ้ายขวา
ยกยอว่า ปฏิวัติ นั้นคนเก่ง
เอาดอกไม้ เสียบปลายปืน ทำครื้นเครง
ไม่ต้องเกรง- อกเกรงใจ ไอ้ ฅ ฅน

3) พวกสอสอ ต้องรอ ฆ ระฆัง
เป็นคำสั่ง จากโจรป่า ที่มาปล้น
พรรคการเมือง หดหู่ ดูชอบกล
ประชาชน ชาติไทย ไร้เสรี

4) ง งู เลื้อย จากรู อสรพิษ
มาจากทุก สารทิศ ทุกถิ่นที่
ข่มขู่ว่า ชาวประชา อย่าลองดี
เอาชีวี มาเซ่น เช่นชาวนา

5) มอง จ จาน ว่างเปล่า ข้าวหมดถัง
ฉ ฉิ่ง ดัง ร้องเรียก ลูกเพรียกหา
พ่อไปรบ แดนใต้ ไม่กลับมา
นั่งเหงาหงอย คอยเวลา พ้นผ่านไป

6) เห็น ช ช้าง กลางป่า ต้นตึกสูง
อยู่กลางกรุง ยากแค้น แสนสงสัย
ต้นคอนกรีต สลับสี ไม่มีใบ
หลงอยู่ใน ถิ่นใด ไม่คุ้นชิน

7) เอา ซ โซ่ ล่ามปาก ตาและหู
ห้ามมันพูด ไม่ให้ดู ใดใดสิ้น
ห้ามข่าวสาร การใด อย่าให้ยิน
มัดแน่นหนา อย่าให้ดิ้น บินหนีไป

8) ฌ กระเฌอ เซ่อซ่า ในป่าเขา
คนคอยเฝ้า ระวังอยู่ ดูไม่ไหว
ทั้งมีดเลื่อย ขวานฟัน จนบรรลัย
เทพารักษ์ ร้องไห้ ไร้ที่นอน

9) น้อง ญ หญิง ยิงเรือ หรือยิงรถ
จะงามงด หรืองดงาม ตามแม่สอน
ฎ ชฎา มีค่า ศิราภรณ์
ญ หญิง จัก ออดอ้อน เอาไว้ชม

10) ฏ ปฏัก ปักพาน รัฐธรรมนูญ
จนสิ้นสูญ สลายไป ให้ขื่นขม
ประชาชาติ ต้องระกำ ช้ำตรอมตรม
ฐ ฐาน จม ดิ่งใต้ พระธรณี

11) ฑ มณโฑ นั่งโก้ อยู่กรุงไกร
บัญชาให้ ลูกรัก ทิ้งศักดิ์ศรี
นำตะหาน ที่ต้องรบ กับไพรี
มาหักหลัง คนที่ มีพระคุณ

12) ฒ ผู้เฒ่า เจ้าเล่ห์ เพทุบาย
เป็นเพศชาย ก็ไม่รู้ ดูที่หุ่น
หรือเพศหญิง ยากจะตอบ ชอบลงทุน
ชอบเกื้อหนุน หนุ่มเหน้า หน้าตาดี

13) เคยพบเห็น ณ เณร นอกประเทศ
บินข้ามเขต เข้ามา คนพาหนี
เจ้า ด เด็ก ช่วยเหลือ ชุบชีวี
อาศัยที่ แผ่นดินแม่ จนแก่ตาย

14) ตัว ต เต่า เขาว่า อย่าดูหมิ่น
เขาดับกลิ่น ด้วยสเปร์ ที่เร่ขาย
ถ ถุง ถัง-ขยะ อันตราย
ระเบิดร้าย ลามรุก บุกเมืองกรุง

15) ท ทหาร ดีดี ก็มีเยอะ
ท ทหาร เปื้อนเปรอะ ทำให้ยุ่ง
ธ ธง ชาติไทย หมายผดุง
จะเรืองรุ่ง รุ่งเรือง จะเฟื่องฟู

16) เมื่อ น หนู ขวักไขว่ วิ่งไปทั่ว
เสียงกุ๊กกิ๊ก กันทั่ว ดังหนวกหู
ทั้งหนุ่มแก่ แม่ม่าย ชายตาดู
ต่างชอบหนู รักหนู อยู่ทั่วกัน

17) บ ใบไม้ เหี่ยวเฉา เข้าหน้าแล้ง
เห็น ป ปลา เหี่ยวแห้ง กระไรนั่น
ผอง ผ ผึ้ง แตนต่อ ไล่ต่อยพลัน
หนีไม่ทัน หัวโน หัวโหนกนูน

18) เปิด ฝ ฝา หม้อไห ไร้อาหาร
ช่างกันดาร หน้าแล้ง น้ำแห้งขุ่น
มอง พ พาน สิ้นไร้ รัฐธรรมนูญ
ไทยสิ้นสูญ สิทธิ และเสรี

19) เมื่อ ฟ ฟัน ผุพัง ยังซ่อมได้
ภ สำเภา ลำใหญ่ กลับแล่นหนี
คนค้าขาย ไม่คบด้วย คนไม่ดี
คนมันชั่ว เหล่านี้ ต้องขอลา

20) บนถนน เมืองกรุงนี้ ปีที่ผ่าน
เห็นรถเกราะ สายพาน เรียกขานว่า
รถตะหาน ของเก่า เหล่า ม ม้า
ชักลากมา อวดเบ่ง นักเลงโต

21) แสดงท่า ย ยักษ์ หน้าหักงอ
ยักษ์ตัวเตี้ย ม่อต้อ ทำตัวโก้
ยักษ์ถ่มถุย คุยเบ่ง เก่งคุยโว
ที่ยักษ์โม้- ได้โม้ดี เพราะมีปืน

22) เหล่า ร เรือ แสนจะเบื่อ ปฏิวัติ
ทุกทุกนัด อึดอัดใจ ไม่กล้าฝืน
สุภาพบุรุษ ทอรอนี้ มีจุดยืน
ไม่ข่มขืน เข่นฆ่า ประชาชน

23) เจ้า ล ลิง ล่อหลอก บอกไว้ว่า
จะเข้ามา กู้ชาติไทย ให้เกิดผล
สามัคคี สมานฉันท์ กันทุกคน
ล ลิง หลอก มาปล้น ประเทศไทย

24) เมื่อ ว แหวน แห่งพราย อันร้ายกาจ
ส่งอำนาจ จากแม่เฒ่า เจ้าคุณไสย์
รัศมี แห่งแหวน จากแดนไกล
สาดซัดให้ ไทยมืดมัว ทั่วแผ่นดิน

25) คนทั่วไทย ต่างไร้ ศ ศาลา
ที่พักผ่อน กายา ก็หมดสิ้น
ต้องฝืดเคือง ทั่วหน้า การหากิน
หวยใต้ดิน ยาบ้า อาชญากรรม

26) ษ ฤาษี ที่พัก พึ่งพิงใจ
ต่างก็ไป อาศัย อยู่ในถ้ำ
ช่วยท่องบ่น มนต์แช่งด่า พวกรายัมม
ที่ได้ทำ ประเทศไทย ให้ล่มจม

27) พวก ส เสือ ปล้นฆ่า อาละวาด
ทั่วตลาด ร้านค้า มันมาข่ม
กาลครั้งนี้ ทุกถิ่นที่ ทุกข์ระทม
คนดีล้ม คนเลวร้าย กลับได้ดี

28) เมื่อ ห หีบ แพนดอร่า ที่อาศัย
กักผีร้าย ขังไว้ อยู่ในที่
คนมันชั่ว ก่อกรรม ทำพิธี
เปิดหีบพราย ผีร้ายหนี ทุกที่ทาง

29) ฬ จุฬา หน้าร้อน เล่นลมว่าว
เจอปักเป้า ลงไป ใน อ อ่าง
ฮ นกฮูก วิชาเกิน เดินผิดข้าง
อยู่ท่ามกลาง เหล่าโจร ปล้นชาติไทย

ร่ายสยามเสื่อมมนต์


ไพร่ฟ้าสิหน้าใส บ่ทันไรหน้าเศร้า พวกหูเบาระราน ด้วยหมู่มารระเริง

ขึ้นเถลิงอำนาจ แล้วประกาศอำนวย ว่าจะช่วยกู้ชาติ จะสามารถกู้ชน

ให้หลุดพ้นบ่วงบาศ ที่ผูกคาดเบื้องบน ประชาชนเปนใหญ่ บ่มิให้เปนเหยื่อ
จะจุนเจือสังคม บ่มิจมสงคราม ให้ติดตามตัวการ พวกสันดานตัวโกง

มาเข้าโลงส่งเผา พาไปเข้าเมืองผี ให้คนดีมาแก้ พระคุณแม่มาก่อ
มารมาขอเบิกทาง คิดคำอ้างบ่ทัน จึ่งหุนหันดำเนิน บ่ขัดเขินเดินนำ

มารระยำได้ที โอกาสมีได้ท่า จึงบ่ายหน้าเข้าเมือง ใส่สีเหลืองเข้ามา
อวิชชาชักนำ ความระยำนำชัก เข้าหาญหักก่อการ วิชชามารก่อกวน

ยกขบวนทัพใหญ่ จะตีให้ย่อยยับ ผู้บังคับบัญชา แอบหลังฟ้าบัญชร
สั่งไล่ต้อนเหล่าคน ไปปะปนเหล่าควาย ดูคลับคล้ายคลับคลา ฝูงหมาบ้าคลาคล่ำ

เหล่าแกนนำพันผ้า คอสีฟ้าพันผูก สมอ้างถูกเกื้อหนุน เปนผีบุญหนุนเกื้อ
เป็นหน่อเนื้อบุตรเขย อีกกระเทยขันที อีกภูตผีอาจารย์ วิชชาการอาจม

สาวสังคมไฮโซ พวกอวดโอ่ไฮซ้อ เข้ามาขอร่วมวง ช่วยเสริมส่งราวี
อีกผู้ดีตีนแดง ชอบตะแคงตีนเดิน เป็นส่วนเกินสังคม แลชมรมสังคัง

เหล่าเง่างั่งสาวก พวกคิ้วดกสวะ ปลอมเปนพระนอกธรรม พวกระยำนักเทศน์
พวกผีเปรตขอบุญ แล้วอ้างคุณขัดบาป ทั้งแมงสาบบินว่อน ช่วยเห่าหอนวนเวียน

อีกหัวเกรียนขุนพล เที่ยวดั้นด้นขอพิง เพียงแอบอิงผ้าถุง คงยิ่งยุ่งผ้าแถบ
เปนอีแอบหลบลี้ ใช้สตรีหลบหลัง ออกคำสั่งใช้คน เดินถนนเช่นควาย

ออกไปตายเบื้องหน้า ได้ชื่อว่าบุญหนัก เปี่ยมด้วยรักในชาติ วิปลาสในชน
เพียงหวังผลแก่ตัว รู้ดีชั่วก็ตาม บ่หักห้ามกิเลส ด้วยถือเพศกาลี

ยกเป็นวีรชน ไปปะปนชะนี เป็นเพียงผีโง่เง่า ที่มัวเมางมงาย
จึ่งต้องตายบ่รู้ คนแลดูบ่รับ บ่มินับบ่มิถือ ยังดึงดื้อแถไถ

ก็สมใจในหมู่ ที่สมสู่นานมา เมื่อชาตาเมืองขาด ศาลประกาศหมายเข้า
จะถอนเสาแห่งรัฐ ปฏิวัติหาเรื่อง ให้บ้านเมืองวุ่นวาย จะกลับกลายวกวน

จลาจลป่วนปั่น บ่มิทันปกป้อง จึงจำต้องยินยอม ด้วยใจน้อมยึดโยง
หวังจรรโลงประเทศ สิ้นอาเพศประทัง ด้วยเพียงหวังชะลอ ไพรีขอชักรบ

ยอมสยบโดยดี บ่คิดมียืดเยื้อ เงาดาบเงื้อฟาดฟัน รุกโรมรันฟันฟาด
ด้วยอำนาจสมมุติมาร เชิงชาญชั้นเทวา เหยียบเมฆาละลิ่ว พระพายพลิ้วละล่อง

ใจจับจ้องทวยราษฎร์ สีหนาททำลาย ด้วยมุ่งหมายเอาคืน จะกัดกลืนอังคาร
พิสดารล้ำเลิศ สุดประเสริฐเลิศหล้า ใช้วิชชาหลังม่าน พิสดารผ่านสาย

เข้าสลายอื้ออึง ไพร่คิดบ่ถึงอึงอื้อ ด้วยใจซื่อเปนสัตย์ ใจร้อยรัดสัตย์เปน
บ่มิเห็นแก่ยาก แม้ลำบากมิย่อ บ่คิดขอตีจาก บ่คิดพรากผิว์ตาย

บ่คิดหน่ายถ่ายถอน ยังไหว้วอนถ้วนถิ่น ดั่งองค์อินทร์มาโปรด อวยประโยชน์หมายปอง
ได้ครอบครองกรุงไกร ได้เปนใหญ่เกริกเกียรติ แม้นขึ้งเครียดบ่มิกล้า ชนทั่วหล้ามักเกรง

บ่กร้าวเก่งประชัน ผูกใจมั่นประชา ด้วยปัญญาบรรเจิด ผู้เปนเลิศบรรจง
ผู้ดำรงคุณธรรม เปนผู้นำความดี สร้างศักดิ์ศรีล้ำเลิศ ไพร่ทูนเทอดเลิศล้ำ

ไพร่ผู้ต่ำติดดิน บังอาจบินติดดาว ทุกย่างก้าวมั่นคง ด้วยประสงค์คงมั่น
จะพลิกผันชาตา เพื่อประชาชาวไต มีสุขใจถ้วนหน้า ด้วยวิชชาการเมือง

ผู้ปราดเปรื่องเปนเอก ต้องมนต์เสกเปนเอี้ย เหล่าโลมเลียเปนใหญ่ นับจังไรเปนญาติ
คนสามารถโดนขู่ คนรอบรู้โดนข่ม คนชื่นชมปกป้อง คนเน่าหนองปกปิด

บ่เคยคิดปัญหา รื้นน้ำตาไป่เห็น มักแต่เล่นรุ่มรวย อาภรณ์สวยเริ่ดหรู
บ่แลดูบ่าวไพร่ พอขัดใจบ่นพาล สิทำการเอาหน้า สิทำท่าอางขนาง

เข้าขัดขวางคนจน บ่ให้ยลความจริง ทุกทุกสิ่งล่อหลอก เฝ้ากลับกลอกหลอกลวง
ด้วยแหนหวงอำนาจ บ่มิอาจอำนวย บ่มิช่วยแท้จริง ที่พึ่งพิงจริงแท้

ไว้ทุกข์แด่สยาม ที่เสื่อมทรามสุดยื้อ คำร่ำลือเมืองเทพ เคยสุขเสพย์เมืองทอง
มนต์นั้นพร่องเสื่อมคลาย ด้วยความหมายสั่นคลอน จะไหว้วอนห่อนเห็น เหลือกากเดนหื่นเหียน

กองอาเจียนท่วมนอง ล้นข้ามท้องทำเนียบ ควายย่ำเหยียบชื่นชม แมงสาบดมชมชื่น
กระบอกปืนเปนใหญ่ คนด้านได้เปนเยี่ยม เหล่าสื่อเสี้ยมจังไร ขอชาวไพร่จำเริญ

วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ฒ ผู้เฒ่า


ฒ ผู้เฒ่าเลี้ยงควายอยู่ชายทุ่ง
มองดูยุ้งว่างเปล่าข้าวหมดแล้ว
เก็บยอดผักหัวเผือกหัวมันแกว
จูงควายเพื่อนแก้วกลับเข้าเรือน

จุดตะเกียงเพียงแสงเท่าหิ่งห้อย
นั่งเหม่อลอยถอนใจไร้ผองเพื่อน
ทั้งลูกหลานลาไปก็หลายเดือน
คอยย้ำเตือนปลอบใจให้อดทน

แล้วเอนกายคลายเหนื่อยปวดเมื่อยล้า
ใกล้สงกรานต์งานผ้าป่ามาอีกหน
บ้านก็คงคึกคักด้วยผู้คน
กว่าจะพ้นเทศกาลอีกนานวัน



ฒ ผู้เฒ่าเลี้ยงเด็กทั้งเล็กใหญ่
สำเริงใจสำราญกายกระไรนั่น
ปรารถนาสิ่งใดได้มาพลัน
ยังยึดมั่นมุ่งเกาะกิเลสกาม

ดำรงตนพ้นห่างทุกปัญหา
ชอบอวดอ้างวางท่าน่าเกรงขาม
หาหนทางสร้างชื่อเลื่องลือนาม
ทั่วเขตคามทั่วแคว้นแผ่นดินไทย

คนชเลียร์ว่าล้ำเลิศประเสริฐศรี
ให้เป็นที่เคารพนบกราบไหว้
พวกประจบสอพลอก็เอาใจ
ทุกสิ่งไซร้สรรหามาประเคน



ฒ ผู้เฒ่าเข้าใจในชีวิต
รู้ทางผิดทางถูกทุกสิ่งเห็น
รักษาศีลรู้ธรรมรู้กรรมเวร
ใครจะเด่นจะดังยังต้องตาย

ทุกสิ่งเป็นอนิจจังฟังพระสอน
เชิงตะกอนนั่นหรือคือจุดหมาย
ชีวิตถึงปลายทางต้องวางวาย
ร่างสลายเหลือเพียงเถ้าบนธรณี

จะหลงเหลือสิ่งใดให้คนคิด
สิ้นชีวิตก็ต้องกลายเป็นพรายผี
เหลือความถูกความผิดความชั่วดี
เป็นสิ่งที่มอบไว้ให้แผ่นดิน



ฒ ผู้เฒ่าไม่เข้าใจในธรรมะ
คอยคิดจะสะสมแต่ทรัพย์สิน
มีท้องปากมากไปไม่พอกิน
ยังดีดดิ้นร้อนรนบนกามา

เป็นกระสอบใส่กิเลสทุเรศนัก
ยังหลงรักในกามกิเลสบ้า
ทั้งโลภะโมหะราคะมา
รวมโทสะทุกเวลาที่ขัดใจ

ทั้งมัวเมาลุ่มหลงเหลิงอำนาจ
ใครมิอาจยกตนเสมอได้
ใครบังอาจต้องฟาดฟันให้บรรลัย
ไม่เหลือให้ไพรีมีที่ยืน



ฒ ผู้เฒ่าเอาชีวิตมาวางไว้
มอบให้มัจจุราชมิอาจฝืน
บอกลูกหลานลาลับไม่กลับคืน
เป็นเถ้าถ่านทาบผืนปฐพี

ทั้งลูกหลานร่ำไห้ใจจะขาด
ก็มิอาจดื้อดึงเมื่อถึงที่
สั่งเสียให้กระทำแต่ความดี
ลูกหลานมีสุกใสแต่วัยเยาว์



ฒ ผู้เฒ่าเอาทรัพย์สินมาวางไว้
ขอมอบให้มัจจุราชด้วยขลาดเขลา
หวังเพียงผัดผ่อนผันขอบรรเทา
ขออย่าเอาชีพไปในเร็ววัน

ด้วยข้าฯมีภาระอยู่มากหลาย
หากข้าฯตายคงวุ่นวายเป็นแม่นมั่น
มอบทรัพย์สินเงินทองกองรวมกัน
มีอีกนับอนันต์โปรดรับไป

ทั้งลูกหลานในไส้ก็ไม่มี
อันลูกทั้งหมดนี้ล้วนนอกไส้
ขอข้าฯอยู่บันเทิงระเริงใจ
กับหนุ่มใหญ่หนุ่มน้อยค่อยจากลา

ถ้ำวิเศษ


อยู่ท่ามกลางกรุงใหญ่ในซอกหลืบ
ไม่ต้องสืบค้นหาว่าอยู่ไหน
เป็นถ้ำเก่าถ้ำแก่กว่าถ้ำใด
อยู่มาได้หกสิบปีน้องพี่เอย



จำเนียรกาลผ่านร้อนแลผ่านฝน
หนาวก็ทนด้านจริงนั่งนิ่งเฉย
ผ่านทั้งโศกและเศร้าสุขเสบย
ก็ไม่เคยคิดท้อแท้แม้เพียงวัน



ถ้ำวิเศษสอนวิชาพญาหงส์
พี่น้องจงจำไว้ให้แม่นมั่น
ป่าวร้องไปให้เต็มหูรู้ทั่วกัน
ว่าถ้ำนั้นเทวดามาครอบครอง


จะชั่วช้าสารพันมั่นใจเถิด
เมื่อถ้ำเปิดประตูไว้ให้พี่น้อง
เพียงคลานเข่าเข้าไปง้อขอรับรอง
ว่าจักต้องได้ภาพเห็นเป็นคนดี


พวกผู้ดีผีไพรได้ยิ้มหัว
มาชุบตัวทั่วกันในวันนี้
บาปเวรกรรมทำไว้เหมือนไม่มี
ด้วยฤทธีถ้ำวิเศษที่เสกมา



แจกที่ดินก็ดิ้นถอยไปเข้าถ้ำ
ทั้งกู้หนี้พลีกรรมกันทั่วหน้า
ทุบกระปุกฉีกกระเป๋าเอาเงินตรา
เทวดาก็ว่าดีทุกวี่วัน



จะซื้อเสียงเพียงกระสันถึงฝันค้าง
ก็เข้าข้างกันได้กระไรนั่น
ถ้ำวิเศษฟอกสีรี่เร็วพลัน
อัศจรรย์ผุดผ่องใสไร้มลทิน



ได้วิชชาปราศรัยไปหาเสียง
วจีเพี้ยงมีดกรีดใจให้ด่าวดิ้น
อวดกรรมดีอ้างให้เห็นเป็นอาจิณ
ตวัดลิ้นล่อหลอกด้วยลมลวง


อันกรรมชั่วตัวสร้างแต่ปางไหน
ผลักออกไปง่ายๆไม่ต้องห่วง
ชั่ว...เลว...เป็นของคนอื่นเขาทั้งปวง
เทพแดนสรวงสวรรค์แท้นั่นแหละเรา


มารยาทผู้ดีไม่มีหรอก
ก็กลิ้งกลอกหลอกเล่นเช่นงูเห่า
ต้องออกแรงแย่งกันมันก็เอา
หวังเพียงเข้าสู่อำนาจประกาศชัย


เห็นหน้าแล้วหดหู่...ตูละเบื่อ
จะหลงเหลือ ”ผู้ดี” มีที่ไหน
มารยาทมันคงเอาไปเผาไฟ
ออกอาการจานนนนรัยยยยยให้คนชม



เป็นนายกรัฐมนตรีที่อดสู
โลกรับรู้อยู่ไม่นานคงพาลล่ม
ต้องเขียวช้ำดำฟกจนอกตรม
ประชาชนคงถล่มให้จมดิน

ภาระ.....ประชาชน


1) นโยบาย ขายฝัน ในวันนี้
ชวนน้องพี่ แผ้วถาง สร้างความฝัน
พรรคของเรา เก่าแก่ ยักแย่ยักยัน
โปรดช่วยกัน รองรับ ประคับประคอง



2) โฆษณา รักษา ทุกโรคฟรี
สามสิบบาท หากไม่มี ก็ไม่ต้อง
คงดีกว่า ถ้าหากไม่ ใช้เงินทอง
เชิญพี่น้อง ไปทดลอง ของฟรีฟรี


3) เรียนหนังสือ นั้นหรือ ไม่ต้องจ่าย
เรียนสนุก ลุกนั่งสบาย ได้เลยพี่
จะร่ำรวย จะขัดสน จะจนจะมี
ทั้งเศรษฐี วณิพก ยาจกขอทาน



4) มีกองทุน เหมือนกัน มั่นใจได้
กระจายไป ทั่วประเทศ ทุกเขตบ้าน
ต้องดีกว่า เหนือกว่า ของวันวาน
กิจการ ทั่วไทย ไม่อับจน


5) เศรษฐกิจ พ่นพิษ เพราะทักษิณ
ที่โกงกิน ปากมัน ร่วมกันปล้น
ขายสมบัติ ของชาติ ประชาชน
ทำให้คน ขัดสน ทุรนทุราย


6) เราอาสา มาแก้ไข มาขายฝัน
จะร่วมกัน กอบกู้ สู่จุดหมาย
ธนาคาร การเงินทอง นั้นของตาย
ตัดไปขาย ป.ร.ส. รอรับเงิน



7) เรื่องไฟใต้ ไม่ต้องห่วง เรื่องจิ๊บจ๊อย
เรื่องเล็กน้อย ชิวชิว เรื่องผิวเผิน
เปิดเส้นทาง สายเก่า ให้เขาเดิน
ให้เขาเพลิน รับส่วยสา อย่าอาทร


8) นานาชาติ มิอาจ ไม่เชื่อถือ
เพราะเราคือ อมาตยา อย่ามาสอน
เราก็ต้อง ออกไป กราบไหว้วอน
ให้เขาถอน บอยคอต คงรอดตัว


9) นี่ฉันพูด จริงจริง ไม่กลิ้งกลอก
สิ่งที่บอก ออกไป ไม่ใช่มั่ว
รับรองว่า ที่โม้มา ช้าแต่ชัวร์
ไม่ต้องกลัว อกหัก เพราะหลักการ


10) สมาชิก พร้อมใจ ให้คำมั่น
จะช่วยกัน เล็ดลอด สอดประสาน
ทุกเรื่องราว ต้องไล่จับ รับรายงาน
สร้างหลักฐาน ทำได้ ไม่กังวล


11) เอาความดี ใส่ตัว ไม่กลัวผิด
เรื่องเบี้ยวบิด ตะแบง แสวงผล
เรามีพร้อม กันทั่ว ทุกตัวคน
ต่างฝึกฝน เก่งกาจ ไม่ขลาดกลัว


12) พรรคเราเลือก คนดี และคนดี
พรรคอื่นมี กากกระพี้ ยี้ไปทั่ว
เรื่องถูกต้อง เราเก็บไว้ เอาใส่ตัว
เรื่องความชั่ว เรื่องของเขา จงเข้าใจ


13) ถึงเวลา ตีฆ้อง มาร้องป่าว
เพราะถึงคราว อาสา มารับใช้
เรานั้นรัก หนักหนา ประชาธิปไตย
เผด็จการ ใส่พานให้ ได้ทุกครา


14) ประชาชน ที่รัก จักต้องรู้
เราแอบอยู่ ไกลไกล ไม่ออกหน้า
เผด็จการ ทำอย่างไร ไม่นำพา
ถึงเวลา ชุบมือเปิบ ที่ปลายทาง


15) พรรคของเรา เก่าแก่ ยักแย่ยักยัน
หลายปีนั้น ลอยเท้งเต้ง มันเคว้งคว้าง
ที่คิดหวัง คล้อยเคลื่อน ดูเลือนลาง
ตาเราบ้าง นะจ๊ะ ภาระประชาชน

วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ไพร่ทวงแผ่นดิน

ประเทศไทยใต้เงาเมฆที่เสกสร้าง
แสงสว่างเป็นอย่างไรไม่เคยเห็น
ที่เคยช้ำก็ยิ่งช้ำยิ่งลำเค็ญ
ที่เคยทุกข์ยิ่งทุกข์เข็ญเท่าทวี


ที่เคยเศร้าก็ยิ่งเศร้าเร้ารุมจิต
เคยไร้สิทธิ์ก็ไร้สิทธิ์อยู่อย่างนี้
ที่เคยหวังก็แค่หวังว่าเสรี
จะเกิดมีขึ้นได้ในแผ่นดิน


ที่เคยเจ็บก็ยังเจ็บจนชาด้าน
เวลาผ่านพ้นไปยังไม่สิ้น
ที่เคยปวดแปลบปร่าก็ชาชิน
ยังกัดลิ้นกลืนกินก้อนเลือดตัว


ที่เคยรักจำต้องรักภักดีมั่น
จะเหหันห่างหายกลายเป็นชั่ว
ต้องเทิดทูนอย่างทาสด้วยหวาดกลัว
หมอบแทบเท้าเงาสลัวแห่งความรัก


ที่เคยโกรธต้องกล้ำกลืนฝืนไม่โกรธ
ด้วยเกรงโทษอาญาที่หนาหนัก
ยืนบนความแคลงใจแสร้งใจภักดิ์
ช่างลำบากยากนักในความคิด



ที่เคยเกลียดเคียดขึ้งประหนึ่งว่า
คำติฉินนินทาคือความผิด
เรื่องโป้ปดที่ปลูกฝังทั้งชีวิต
เชื่อสนิทตามสื่อสารเนินนานมา


ที่เคยเกรงก็เริ่มกล้ามาวิพากษ์
เริ่มจากปากต่อปากจากไพร่ฟ้า
กระซิบส่งผ่านสำเนียงเสียงนินทา
จากขี้ข้าสู่ขี้ข้าไพร่สามัญ


ที่เคยกลัวก็เริ่มเกิดไพร่กบฏ
ร้อยเรื่องราวที่เลี้ยวลดพิลึกพิลั่น
หลากเรื่องราวเล่าต่อไปได้ทุกวัน
เสียงกระซิบกลับพลันอึงคะนึง


แม้นคนรักภักดีที่เหลืออยู่
บ้างรับรู้ด้วยจำใจไร้ที่พึ่ง
บ้างยังรักดักดานด้วยดื้อดึง
บ้างคิดถึงครวญคร่ำน้ำตาคลอ


อันวงศ์วานว่านเครือที่เหลืออยู่
ก็เคียงคู่ผลกรรมที่ร่วมก่อ
ที่กอบโกยกันไปไม่เคยพอ
ไพร่จะขอทวงคืนให้ผืนดิน

รำคาญ

ขอเมตตาจากฟ้าหลายครานัก
ไม่ตระหนักเลยหรือเอ็งคือไพร่
จะเว้าวอนงอนง้อขอสิ่งใด
เอ็งต้องไม่รบกวนให้ระคายเคือง


อย่าเซ้าซี้ขอสิ่งที่ไม่มีให้
ต้องรู้ไว้เอ็งมิใช่พวกไพร่เหลือง
เอ็งมิใช่ตัวป่วนแก๊งค์กวนเมือง
เอ็งมิได้ปั้นเรื่องเพื่อทำลาย


เอ็งมิได้ขัดขืนฝ่าฝืนกฎ
เอ็งมิได้ตอหลดตลกร้าย
เอ็งมิได้กวนน้ำขุ่นจนวุ่นวาย
เอ็งมิใช่ตัวฉิบหายแห่งแผ่นดิน


ให้รับรู้ดูเงาหัวของตัวเถิด
สิ่งที่เกิดข้าก็ดูข้ารู้สิ้น
จะเศร้าโศกโศกาน้ำตาริน
จะกลืนกินก้อนเลือดก็ไม่แล

ร้องขอ

ร้องขอความเมตตามานานนัก
ด้วยยังรักภักดีที่เป็นไพร่
ภายใต้แสงสุริยาฟ้าเมืองไทย
ขอเพียงได้ปัจจัยสี่มีเพียงพอ


ตั้งแต่เกิดจนแก่บนกองทุกข์
อันความสุขบังเกิดมีที่ไหนหนอ
ตั้งแต่เล็กแต่น้อยไพร่คอยรอ
ไม่ร้องขอความเห็นใจจากใครเลย


เอาหยาดเหงื่อแรงงานเข้าหาญหัก
งานจะหนักแค่ไหนไม่เอื้อนเอ่ย
แม้นยากแท้แค่ไหนก็ไม่เคย
จะทำเฉยเชือนแชแม้สักวัน


จนลูกเต้าเติบใหญ่ในวันนี้
คิดว่ามีสุขหนอก็เพียงฝัน
โทษอำนาจวาสนามากีดกัน
บุญกรรมนั้นนำพาเกิดมาจน


เจ้านายสอนเจ้านายสั่งยังจำได้
ว่าจงให้ขยันหมั่นฝึกฝน
มั่นในธรรมสร้างกรรมดีเป็นศรีตน
เป็นแบบอย่างสร้างกุศลแก่สังคม


จนแก่เฒ่าถือเอาคำที่สอนสั่ง
ทุกข์ก็ยังตามมาเป็นยาขม
สุขที่แท้แลเห็นเป็นเพียงลม
ยังไหม้หมกอกตรมด้วยชะตา


จึ่งร้องขอสิ่งที่พึงมีพึงได้
ข้าน้อยเกิดเป็นไทเป็นไพร่ฟ้า
ขอให้ท่านทวยเทพไท้เทวา
โปรดเมตตาเถิดหนาข้าจนใจ

อันความกรุณาปราณี

อันความกรุณาปราณี
จะมีใครบังคับก็หาไม่

หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ
จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน


กรุณาปราณีที่มอบให้
บังคับกายบังคับใจไพร่ยอมสิ้น
ท่องคำว่ากรุณาเป็นอาจินต์
ว่าไหลรินจากสวรรค์เหนือชั้นฟ้า



กรุณาปราณีที่อวดอ้าง
ถูกจัดวางท่ามกลางความมุสา
และล่องลอยเบื้องหลังเมฆบังตา
พรรณนาภาพสวยด้วยสีเทา



กรุณาปราณีมีมากล้น
ประชาชนไพร่ทาสผู้ขลาดเขลา
จงน้อมรับจงสดับแล้วรับเอา
ภาพที่เขามอมเมาว่ามีจริง



กรุณาปราณีที่ได้รับ
ก็นำไปประดับไว้บนหิ้ง
ห้ามสงสัย.....ห้ามไต่ถาม.....ห้ามท้วงติง
จงพึ่งพิง...ภาพความงาม...ภาพความดี


เพียงภาพฝันบรรเจิดบรรจงสร้าง
ที่จัดวางไว้ให้เห็นเป็นสักขี
บังคับว่ากรุณาและปราณี
เป็นศักดิ์ศรีแห่ง.....”สยามที่เคยยิ้ม”.....

รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส

รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส

รูป.....หล่อหล่อ พ่อไม่รวย ก็ช่วยได้
รส.....ชาดใด อร่อยลิ้น กินไม่เบื่อ
กลิ่น....กำดัด กลั้วแป้งร่ำ น้ำหอมเจือ
เสียง....มาดมั่น สั่นเครือ คือมาดแมน



สัมผัส....แขน แข้งขา น่าพิศวาส
ดูทะนงองอาจมาดเหลือแสน
ป๋าพกเงินฟ่อนใหญ่ไม่ขาดแคลน
จะตอบแทนเต็มที่มีรางวัล


รูป.....
รูป.....หล่อหล่อ พ่อไม่รวย ก็ช่วยได้
ร่างสูงใหญ่ มัดกล้าม งามหนักแน่น
บุคลิก มาสคิวลีน เต็มมาดแมน
เพียงสบตา ใจป๋าแล่น แดนฉิมพลี





รส.....
รส.....ชาดใด อร่อยลิ้น กินไม่เบื่อ
รสหวานเจือ เค็มเค็ม ใส่เต็มที่
รสเผ็ดร้อน ใส่มั่ง กำลังดี
รสเปรี้ยวหน่อย ค่อยมี แอ็พพิไทซ์




กลิ่น.....
กลิ่น....กำดัด กลั้วแป้งร่ำ น้ำหอมเจือ
ปนกลิ่นเหงื่อ กลิ่นนี้ ดีไฉน
มาสคิวลีน มีกลิ่น ที่ตรึงใจ
กลิ่นเหงื่อไคล ประสม ดมชื่นทรวง




เสียง.....
เสียง....มาดมั่น สั่นเครือ คือมาดแมน
เสียงหนักแน่น ก้องไกล ในแดนสรวง
แซ็กโซโฟน เสนาะเสียง เพียงภาพลวง
เสียงทั้งปวง พ่าย “ยังเสก” วิเวกกังวาน




สัมผัส.....
สัมผัส....แขน แข้งขา น่าพิศวาส
สัมผัสกาย วิปลาส ปองสนาน
สัมผัสกล้าม ใหญ่ใหญ่ ใจรอนราญ
สัมผัสใด ไม่เปรียบปาน สัมผัสใจ


รัดถะทำมะนูนใหม่ ดีที่สุด


รัดถะบานออกข่าวป่าวประกาศ
อุดมการณ์ของชาติมิอาจสูญ
ต้องจัดจ้างคนร่างรัฐธรรมนูญ
ให้ส่งเสริมเพิ่มพูนคุณธรรม



ยุบ สอสอ บัญชีปาร์ตี้ลิสท์
ด้วยความคิดไร้ค่าดูน่าขำ
เกรงว่าพรรคมีนายทุนคอยหนุนนำ
มาครอบงำตำแหน่งรัดถะมนตรี



ตัว สอสอ ก็ยกเว้นคุณวุฒิ
หางมังกรหัวมงกุฎสุดบัดสี
สอสอ ใหม่ ก็ยอมให้ลดดีกรี
เพื่อตาสาตาสีมีช่องทาง


จะย้ายพรรคแบบนักการเมืองเก่า
ก็ตามใจใครเล่าจะขัดขวาง
วิ่งย้ายพรรคผสมพันธุ์กันไร้ยางฯ
สลับข้างสลับขั้วมั่วกันไป



จะย้อนยุคมุขรัดถะบานแบบผสม
เริ่มดูดนมแล้วลุกขึ้นตั้งไข่
ค่อยคืบคลานควาญหาประชาธิปไตย
แย่งเก้าอี้ตัวใหญ่ไว้ครอบครอง



แล้วขันแข่งแย่งกันกินแย่งกันโกยโดย
พวกหิวโหยเข้ามาตั้งตาจ้อง
เรียกคืนกลับสินทรัพย์และเงินทอง
คนไทยต้องทุกข์ท้นทรมา



แล้ว สอสอ ก็มากไป ไม่เหมาะสม
ตั้งชมรม มุ้ง วัง ให้กังขา
ลดลงไปให้เหลือเพียงบางตา
ซื้อขายกันมันเป็นบ้าราคาดี



ถ้ามีเหตุ สอสอ ก่อวิวาท
ประเทศชาติมีภัยไม่หลบลี้
ปฏิวัติรัฐประหารกันอีกที
ลากรถถังมาทวงหนี้ประชาชน

สัตว์สี่เท้า

มีเรื่องสัตว์……….สี่เท้า……….มาเล่าขาน
เป็นตำนาน……….ท่านผู้เฒ่า……….ได้เล่าไว้
เป็นเรื่องราว……….เก่าแก่……….เกิดก่อนใคร
อยู่เมืองไทย……….ได้พบเห็น……….เป็นประจำ



เป็นสัตว์กีบ……….สี่เท้า……….ขนาดกลาง
ร่างผอมบาง……….หน้าตา……….ดูน่าขำ
มีมากมาย……….หลายสี……….มีขาวดำ
น้ำตาลเทา……….แดงก่ำ……….ปะปนกัน



หัวมีเขา……….เครายาว……….ใบหูใหญ่
ตาโตใส……….บ้องแบ๊ว……….เห็นแล้วขัน
ส่งเสียงร้อง ……….แบ๊ะ แบ๊ะ ……….แบ๊ะทั้งวัน
เดินคอสั่น ……….คอเอียง ……….เถียงไม่เป็น



จะดุด่า ……….ว่าอย่างไร ……….ก็ไม่เถียง
ตอบรับเพียง ……….แบ๊ะ แบ๊ะ ……….อย่างที่เห็น
กินผักหญ้า ……….เรื่อยไป ……….ไม่ลำเค็ญ
แต่กรรมเวร ……….มาพบ ……….กับผู้คน


เมื่อโจรร้าย ……….หลบหนี ……….คดีใหญ่
ออกข่าวไป ……….วุ่นวาย ……….โกลาหล
จ้าวนายสั่ง ……….ลูกน้องพลัน ……….สั่นลุกลน
ต้องดิ้นรน ……….ค้นหา ……….มาเข้ากรง


หลายเพลา ……….ผ่านไป ……….ใจห่อเหี่ยว
ชักหวาดเสียว ……….ไม่สม……….ดังประสงค์
เหนื่อยหนักหนา……….หาไม่เจอ……….อยากจะปลง
แต่จะส่ง……….รายงาน……….ท่านอย่างไร



ไร้วี่แวว……….โจรร้าย……….คล้ายล่องหน
มันหลีกลี้……….หลบพ้น……….ไปจนได้
ต้องโดนด่า……….หน้าคงร้อน……….ดังสุมไฟ
พวกผู้ใหญ่……….คงให้ลด……….ขั้นเงินเดือน



มีตำหนวด……….อวดเก่ง……….นักเลงใหญ่
มาบอกใบ้……….สงสัย……….หน้าตาเหมือน
อยู่ปลายนา……….หากิน……….อยู่เกือบเดือน
ชวนเพื่อนเพื่อน……….ล้อมจับ……….ลากจูงมา



เมื่อสอบความ……….ถามไถ่……….ก็ไม่ตอบ
มันก็ชอบ……….จับยัดกรง……….ก่อนละหนา
ลงมือเขียน……….รายงาน……….ตามตำรา
ผู้ต้องหา……….สารภาพ……….เป็นกาพย์กลอน



แบ๊ะแบ๊ะแบ๊ะ……….แบ๊ะแบ๊ะแบ๊ะ……….แบ๊ะแบ๊ะแบ๊ะ
ร้องแบ๊ะแบ๊ะ……….ต้องสงสัย……….เอาไว้ก่อน
แบ๊ะแบ๊ะแบ๊ะ……….เรื่อยไป……….ไม่อุทธรณ์
แบ๊ะแบ๊ะแบ๊ะ……….ต้องไปนอน……….ในซังเต



โจรผู้ร้าย……….หนีไป……….จนแก่เฒ่า
คนมาเล่า………..ให้ฟัง……….นั่งยิ้มเผล่
แพะรับกรรม……….ช้ำตรม……….สมคะเน
ผู้ร้ายเก๋……….ตำหนวดโก้……….โอ้ไทยแลนด์




ผู้หลัก ผู้ใหญ่

ผู้หลัก ปักขี้เลน คนมองเห็นเป็นผู้เฒ่า
ผู้ใหญ่ ในเมืองเรา คิดแต่เอาแต่ใจตัว

ผู้หลัก ปักใจมิด สมคบคิดคนมันชั่ว
ผู้ใหญ่ ไม่เกรงกลัว ก่อบาปกรรมกระหน่ำกรุง

ผู้หลัก ยังมักมาก ชอบสำรากปากพายุ่ง
ผู้ใหญ่ ร้ายกว่ายุง ใจคอยมุ่งคิดทำลาย

ผู้หลัก มักสอดแทรก ทำแตกแยกเสื่อมเสียหาย
ผู้ใหญ่ แม้นใกล้ตาย ยังไม่คลายกิเลสแรง

ผู้หลัก หักด้ามพร้า อวิชชามายื้อแย่ง
ผู้ใหญ่ ยังตะแบง ด้วยฤทธิ์แห่งกิเลสมาร

ผู้หลัก ไม่โปร่งใส เอาแต่ใจด้วยความด้าน
ผู้ใหญ่ ในวงการ รู้กันทั่วทุกตัวตน

ผู้หลัก สักว่าแก่ ธรรมะแท้ไม่เห็นหน
ผู้ใหญ่ ยังเวียนวน ชอบปะปนคนอธรรม์

ผู้หลัก ไม่หักจิต หมกมุ่นคิดสู่สวรรค์
ผู้ใหญ่ อะไรกัน ก็คนแก่แค่อยู่นาน

ผู้หลัก ยังมักใหญ่ เพราะเคยได้คุมตะหาน
ผู้ใหญ่ ไร้หลักการ วิชชามารมาครอบงำ

ผู้หลัก ไม่พักผ่อน คิดยอกย้อนแยบระยำ
ผู้ใหญ่ ป้ายสีดำ ส่งผลกรรมประชาชน
ผู้หลัก มักพูดดี บอกน้องพี่ทุกแห่งหน
ผู้ใหญ่ ในวังวน ให้เลือกคนที่ดีดี

ผู้หลัก ปักขี้เลน ให้แลเห็นความบัดสี
ผู้ใหญ่ ไม่ปรานี สั่งภูตผีชี้ชะตา

ผู้หลัก ยังฝักใฝ่ ยังอยากไปเสนอหน้า
ผู้ใหญ่ ไร้ราคา ชาวประชารู้เท่าทัน

ผู้หลัก ไม่เรรวน สร้างกระบวนการขวางกั้น
ผู้ใหญ่ คนไหนกัน ยื่นมือมารมาแทรกแซง

ผู้หลัก ที่ลวงหลอก สัญญาณบอกไปทุกแห่ง
ผู้ใหญ่ ใช้สาส์นแปลง บอกข่าวแจ้งกันทั่วไป

ผู้หลัก หลอกลวงว่า ชาวประชาจะหน้าใส
ผู้ใหญ่ มองการณ์ไกล คิดจะได้ครองพารา

ปิด


ฝนตกฟ้าร้อง
เสียงก้องดุดันหวั่นไหว
มืดมัวมั่วทั้งเมืองไทย
อธิปไตยเหมือนไม่เคยมี

ปิดหูปิดตาปิดปาก
คงอยากปิดอึปิดฉี่
เห็นช้างนอนตายทั้งที
ปิดซีปิดได้ปิดไป

ป้องปรามปิดปัดขัดข้อง
สมองความคิดเคลื่อนไหว
ถือสิทธิ์ปิดจิตปิดใจ
ปิดได้ให้รอดตลอดเทอญ

ธรรมดา

๏เกิด มาแล้วชาติหนึ่งพึงรู้ไว้
แก่ ลงไปทุกนาทีไม่มีช้า
เจ็บ ป่วยนั้นเป็นเหตุธรรมดา
ตาย ไม่รู้ว่าเวลามาเมื่อไร



๏ลาภ ก็เพียรแสวงหามามากล้น
ยศ ศักดิ์คนไขว่คว้ามาแค่ไหน
สรรเสริญ ตามมาให้ชื่นใจ
สุข แท้จริงหรือไฉนใช่หลอกลวง


๏ยาก ยิ่งยากหนักหนารักษาทรัพย์
ดี ชั่วกลับเปลี่ยนรวยเป็นจนได้
มี เงินน้อยใช้เงินมากลำบากใจ
จน เงินได้แต่อย่าจนสิ้นหนทาง



๏ไม่ อาจพ้นชะตาฟ้าลิขิต
พ้น ความผิดความชั่วที่ตัวสร้าง
ความ ดีอยู่คู่ตนจนวายวาง
ตาย ไปอย่างสมศักดิ์ศรีมีคนชม

ถึงพี่หมอ

๏ ไม่ได้พบ กันนาน อาการหนัก
แต่ก่อนนี้ มีคนรัก ไปทุกแห่ง
พี่หมอคง กินยาซ้ำ ผิดสำแดง
มาแถลง จริยธรรม ผู้นำไทย

๏ ทั้งสิบข้อ ของพี่หมอ ขอต่อว่า
จะพบได้ ในชาติหน้า หรือชาติไหน
คนพันธุ์นี้ จะเกิดมี หรืออย่างไร
หากโคลนนิ่ง ออกมาใช้ ไทยเจริญ

๏ ส่งไปครอง ตำแหน่ง ทุกแห่งหน
ทั้งภาครัฐ เอกชน คนสรรเสริญ
ไม่รักโลภ โกรธหลง และกลัวเงิน
ไม่ต้องการ รวยเกิน กว่าที่มี

๏ จับคนคุก มาผ่าตัด ดัดแปลงใหม่
ต่อมจริยธรรม กระตุ้นให้ เดินเต็มที่
ออกจากคุก ไปบวชพระ และบวชชี
เมืองไทยนี้ ไม่มีคุก สนุกจัง

๏ ออกแบบสร้าง จริยธรรม ใส่ประปา
คนทั่วหล้า ดื่มกินไป เป็นความหวัง
น้ำประปา จะช่วยหลอม รวมพลัง
สามัคคี เป็นที่ตั้ง พลังชน

๏ ออกแบบใส่ จริยธรรม ในไฟฟ้า
ถึงเวลา ใครเปิดไฟ ให้เกิดผล
จริยธรรม ถึงทั่ว ทุกตัวคน
เป็นกุศล อย่างแรง ด้วยแสงไฟ

๏ ออกแบบใส่ จริยธรรม ในมือถือ
ใช้เครือข่าย เป็นสื่อ สัญญาณให้
จัดรายการ วิทยุ ทีวีไป
ออกอากาศ ทั่วไทย ให้คนดี

๏ พูดกันมาก เรื่องต่อม จริยธรรม
ไม่เคยจำ พี่หมอรู้ อยู่ไหนนี่?
พี่ต้องตอบ ผมให้ได้ ในชาตินี้
ช่วยผมที อยากจะดี ด้วยสักคน

๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏

เรื่องของ "ป้า"

เรื่องของ "ป้า"
ขออนุญาตทำความเข้าใจเป็นลายลักษณ์อักษรว่า
เรื่องของ "ป้า" นี้ มี ป. ปลา สระอา ผันด้วย วรรณยุกต์โท
มิได้เกี่ยวข้องดองญาติโกโหติกาใดๆกับ
"ป๋า" ที่มี ป. ปลา สระอา ผันด้วย วรรณยุกต์จัตวา

จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน


เรื่องของ "ป้า" (วรรณยุกต์โท)

คนยังหลง คารม ชื่นชม “ป้า”
ไม่ขัดเขิน เดินเชิดหน้า ดังว่า “ซื่อ”
ประเทศไทย ใต้คำสั่ง พังกับมือ
นี่นะหรือ คือ “คนดี” ศรีแผ่นดิน


ประเทศไทย ที่เห็น เป็นเช่นนี้
เพราะ “คนดี” ทำร้าย ทำลายสิ้น
รากหญ้าครวญ คร่ำอย่างไร ไม่ได้ยิน
เพียงเล่นลิ้น หลอกลวงหวง “ความดี”



เมื่อได้รู้ ว่าผู้อื่น ยืนเหนือกว่า
ทำให้ “ป้า” สั่งให้ คนป้ายสี
ประกาศให้ ผู้คนเห็น เป็นไพรี
เป็นคนที่ ชั่วช้า “ป้า” ประณาม


สารพัน ความเลวร้าย ป้ายจนทั่ว
เอาความชั่ว ซัดใส่ ไม่ครั่นคร้าม
ประกาศกล้า “ป้า” ทำ สิ่งดีงาม
ใครอย่าถาม ว่า “ป้า” นี้ ดีอย่างไร


ล้างสมองคนไทยให้รู้ว่า
คนอย่าง “ป้า” สะอาดพิสุทธิ์ใส
โพนทะนา ว่า “ป้า” นี้ ดีกว่าใคร
แล้วคนไทยถามบ้างไหม ไหน? “ความดี”


เปลือก ”ความดี” ห่อหุ้ม ปกคลุมไว้
ที่คนไทย ได้เห็น เช่นกระพี้
สรรเสริญ เกินงาม สามสิบปี
บังเกิดมี คาริสม่า “ป้า” ลืมตัว


บารมีหลุดไปทำใจยาก
ถอดหน้ากากสั่งการตะหานชั่ว
ปล้นอำนาจคืนมาอย่าเกรงกลัว
โพนทะนา ไปทั่ว ว่า “ทำดี”


ใครยังหลง คารม ชื่นชม “ป้า”
จงเปิดตา หู ใจ ให้ถ้วนถี่
”ป้า” หวงนักหวงหนา “บารมี”
หวงห่วงเช่น ชีวี ที่ชรา


เป็นผู้นำ “ความดี” กระพี้เปลือก
ไม่มีใคร เขาเลือก ให้นำหน้า
อันตำแหน่ง แห่งหน ปล้นเขามา
ยังจะมา สอน ”ประชา ธิปไตย”


“ป้า” ไม่คุ้น ไม่เคย ลงเลือกตั้ง
แม้เคยนั่ง บริหาร ทำการใหญ่
ก็เพราะว่า “ป้า” ถีบ เขาทิ้งไป
“ป้า”จึงได้ ตำแหน่งมา อย่าหลงตน


“ป้า” เคยมี ครึ่งใบ ใยมาโอ่
มาคุยโว ทำไม ให้สับสน
ประชาธิปไตย เป็นของ ประชาชน
ที่ไปปล้น เอามา เรียกว่า โจราธิปไตย

แด่ศาล


ข้าแต่ศาลที่เคารพนบกราบไหว้
ประเทศไทยจะไปทางไหนท่าน
ทุกวันนี้เรามีเชื้อเผด็จการ
เข้ามาผลาญแผ่นดินถิ่นไทยงาม



ศาลท่านคิดอะไรไยนิ่งเฉย
ท่านละเลยหรือกลัวกริ่งเกรงขาม
หรือท่านพลั้งเผลอไปไม่ติดตาม
จึงมองข้ามความคับข้องของปวงชน



ก็ถวายธูปเทียนเวียนเซ่นไหว้
ทั้งข้าวตอกดอกไม้ไม่ขัดสน
เหล่าม้าช้างนางรำประจำตน
ทั้งไพร่พลคนรับใช้ไม่ขาดแคลน



ทั้งปราสาทอันสวยหรูดูวิจิตร
เนรมิตให้อยู่คู่ถิ่นแคว้น
ดั่งปราสาทบนสวรรค์วิมานแมน
ทั่วดินแดนท้าได้ใครเทียบทัน



แล้วท่านไยไม่คำนึงถึงพวกข้า
อเนจอนาถอนาถาแทบอาสัญ
ทุกข์เทวษไร้แสงเดือนแสงตะวัน
ท่านรับใช้พวกมันได้อย่างไร



ท่านรองรับกับอำนาจเผด็จการ
เหล่าตะหานสามานย์หลอกท่านได้
ท่านเคยเป็นเช่นเสาหลักประเทศไทย
มารับใช้พวกทำลายประชาชน


เป็นตรายางประทับรับระบอบ
ท่านคงชอบห้อยโหนกับโจรปล้น
ยุติธรรมจากศาลพิการพิกล
ไล่ให้พ้นไปจากบ้านศาลพระภูมิ

หัวหน้ายาม

แล้วใครใช้ให้เอ็งมาเบ่งกล้าม
เอ็งเป็นยามอยู่ริมรั้วมิใช่หรือ
ในบ้านนี้ใช้คนดีมีฝีมือ
เรายึดถือกติกาประชาธิปไตย


เอ็งเป็นยามเคยเฝ้ายามตามหน้าที่
บ้านเมืองนี้มีอนาคตที่สดใส
มีลูกบ้านน้อยนิดคิดจานไร
มิพึงใจก่อกวนให้ยุ่งรุงรัง


มีคนใช้ให้เอ็งมาเบ่งกล้าม
เกณฑ์พวกยามย่องแอบอยู่ประตูหลัง
ยึดบ้านเราเอาไปทำให้พัง
ออกคำสั่งสร้างบ้านใหม่ในทันที


ก็พวกเอ็งเป็นแค่ยามอยู่เฝ้าบ้าน
มีการงานริมรั้วยังหลบหนี
รั้วด้านใต้ไม่ไปอยู่สู้ไพรี
เอ็งจะมีน้ำหน้ามาครอบครอง


กิจการงานใดใดในบ้านนี้
สิ่งดีดีจักทำได้ด้วยสมอง
สั่งผู้เฒ่าเต่าชรามาทดลอง
บ้านเราต้องวุ่นวายสุดท้ายพัง


เคยเป็นยามอยู่ดีดีที่ริมรั้ว
มามั่วมั่วคิดจะทำออกคำสั่ง
ใช้ปืนกลกดขี่ให้คนฟัง
แล้วขึ้นนั่งเป็นใหญ่ในบ้านเรา


จะขอถามสมองยามมีแค่ไหน
อยู่บ้านใหญ่ใช้จริตคิดขลาดเขลา
ลูกบ้านทุกข์มิรู้ทางจะบรรเทา
คิดจะเอาแต่ได้ไม่คำนึง


เป็นอดีตหัวหน้ายามทำงามหน้า
มิเคยค้าขายปลาผักสักสลึง
เปิดกำปั่นพอเพียงเสียงรำพึง
มีไม่ถึงร้อยล้าน..........บ้านเอ็งจน


บันทึก
26/12/49

สุนัขเมือง กับหัวหน้าแกะ

นิทานอีสป
สุนัขเมือง กับหัวหน้าแกะ
ฉบับปี 2548-2549

*****สุนัขเมือง*****
ทักษิณเอ็งทำความผิดมหาศาล
ทั้งสี่สิบประการเป็นไฉน
เอ็งไม่เคยทำดีแก่เมืองไทย
พรรคพวกข้าสงสัยให้ตอบมา



. *****หัวหน้าแกะ*****
. ทั้งสี่สิบประการตอบทั้งหมด
. ให้เรื่องราวหมดจดไร้กังขา
. ทั้งให้รัฐมนตรีที่บัญชา
. ออกอรรถา-ธิบายคลายกังวล

. มีอะไรที่สงสัยอีกงั้นหรือ
. ถ้ายึดถือสติมั่นพลันเกิดผล
. ทุกเรื่องราวตอบได้ไม่อับจน
. ขอทุกคนใช้ปัญญาพิจารณาความ



*****สุนัขเมือง*****
เอ็งยังคอรัปชั่นโกงภาษี
เพราะเรื่องนี้คนสนใจใคร่อยากถาม
เอ็งขายหุ้นมีเงินได้อย่างงดงาม
ข้าต้องตามเรื่องภาษีหนี้แผ่นดิน



. *****หัวหน้าแกะ*****
. เรื่องภาษีเรื่องนี้ก็ตอบไป
. ซื้ออย่างไรขายอย่างไรบอกให้สิ้น
. เรื่องตรงไปตรงมาอย่าเล่นลิ้น
. ใครได้ฟังได้ยินก็เข้าใจ



*****สุนัขเมือง*****
แต่เอ็งเป็นนายกรัฐมนตรี
ทำตัวอย่างที่ดีจะได้ไหม
ได้เงินมาให้ลูกเมียเสียภาษีไป
เราคนไทยจะได้ปลื้มลืมเรื่องราว

ถึงจะถูกตามกฎหมายทั้งหลายแหล่
ที่แน่ๆจริยธรรมนำมากล่าว
ไปจ่ายเสียไม่งั้นต้องฟ้องระนาว
ทำผ้าขาวให้เปื้อนดำทำง่ายจริง

ถึงผู้คนอื่นใดไม่ต้องเสีย
แต่ลูกเมียเอ็งคงเห็นเป็นเป้านิ่ง
รีบไปเสียอย่าชักช้ามาประวิง
พวกข้ายิ่งฮึ่มฮ่ำนำมาลือ



. *****หัวหน้าแกะ*****
. มันเข้าข่ายภาษีไหนโธ่อ้ายบ้า
. จะต่อว่าอย่างไรข้าไม่ถือ
. ไม่มีกฎไม่มีเกณฑ์เป็นกระบือ
. จะให้ถือเงินไปให้สรรพากร

. เขาจะรับได้อย่างไรไม่มีกฎ
. จะเลี้ยวลดเก็บไปก็เดือดร้อน
. ลงบัญชีอย่างไรไอ้เขางอน
. ใครสั่งสอนเอ็งมาข้าละเซ็ง

. เป็นคนไทยเกิดเมืองไทยเหมือนเหมือนกัน
. เราอยู่ใต้กฎหมายนั้นต้องถือเคร่ง
. ข้าต้องยิ่งระมัดระวังมากกว่าเอ็ง
. จะทำเบ่งหลบภาษีโดนตีตาย

. ไม่เคยมีกรณีที่พิเศษ
. ให้นายกของประเทศไทยทั้งหลาย
. เสียภาษีนอกกติกาบ้าไอ้ฟาย
. ทำให้ข้าเป็นผู้ร้ายละอายบ้าง



*****สุนัขเมือง*****
ถึงเอ็งจะไม่ได้โกงให้เห็นเห็น
แต่ทำเป็นโนบายกระจายลงล่าง
พรรคพวกญาติพี่น้องกันกินพุงกาง
กินจนอ้วนเป็นอึ่งอ่างกร่างพองลม



. *****หัวหน้าแกะ*****
เรื่องนี้ก็ตอบไปตั้งหลายครั้ง
. พวกเอ็งยังหยิบมาทำยาขม
. จูงพวกสื่อมารุกปลุกระดม
. ข้าจะก้มหัวให้ไม่มีทาง

. ก็เอ็งบอกมีหลักฐานการโกงกิน
. ก็เปิดมาอย่าเล่นลิ้นหรือเอ่ยอ้าง
. ส่งฟ้องตามอาญาศาลท่านเป็นกลาง
. อย่าทำกร่างข่มขู่ดูใหญ่โต



*****สุนัขเมือง*****

ข้าจะยอมให้เอ็งอยู่ไม่ได้
เนิ่นนานไประบอบใหม่ใหญ่อักโข
ข้าก็ต้องผ่ายผอมแถมพุงโร
ต้องอดโซต่อไปข้าไม่ยอม

เพราะเอ็งสร้างระบอบทักษิโณมิค
สร้างมาจิกตีคนไทยที่ไม่พร้อม
ทำทันใจไม่คิดจะประนีประนอม
ข้าต้องกล่อมพวกข้าว่าเอ็งเลว

ระบอบนี้ทำลายประเทศชาติ
ระบอบนี้บังอาจพาคนลงเหว
แรกเริ่มเป็นดั่งไฟที่ไร้เปลว
บอกพวกข้าว่าเอ็งเลวกว่าใครใคร



. *****หัวหน้าแกะ*****
. งั้นข้ายุบสภาเวลานี้
. คนจะดีจะชั่วมั่วไม่ได้
. ถึงเวลาประชาชนตัดสินใจ
. ใครจะอยู่ใครจะไป ไม่ว่ากัน



*****สุนัขเมือง*****
ไม่ได้หรอกเอ็งต้องออกจากการเมือง
ทุกทุกเรื่องทำมาอย่าทำขัน
ต้องลาออกต้องออกไปให้เร็วพลัน
มิฉะนั้นต้องขับไล่ให้อายคน



. *****หัวหน้าแกะ*****
. แต่ข้าเป็นคนไทยในประเทศ
. เอ็งอยากเฉดหัวข้าไปให้พ้นพ้น
. ก็นี่ข้าเป็นนายกของปวงชน
. จะขับไล่ไม่ได้ผลคนอาบปี

. เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่คนรัก
. มีสอสอร่วมพรรคมีศักดิ์ศรี
. ถึงเวลาประชาชนไม่ใยดี
. เป็นวันที่พ่ายแพ้แก่การเมือง


*****สุนัขเมือง*****
เอ็งต้องเสียสละเพื่อประเทศ
ข้ามีเจตจำนงให้ไทยฟุ้งเฟื่อง
ไทยจะพบแต่ความงามความรุ่งเรือง
จะย่างเยื้องไปทางใดไร้กังวล

รัฐบาลข้าจะขอจาก ม.7
สูตรสำเร็จตั้งต้นใหม่ให้เกิดผล
เอ็งต้องยอมเสียสละเพื่อประชาชน
หลีกไม่พ้นการปะทะจะเสียที



. *****หัวหน้าแกะ*****
. ถ้างั้นพวกเอ็งก็รอเลือกตั้ง
. เอ็งต้องฟังเสียงชาวไทยให้ถ้วนถี่
. ข้าชนะจะกลับมาอยู่สี่ปี
. ถ้าจะแพ้ก็อยู่ที่พี่น้องไทย



*****สุนัขเมือง*****
เฮ่ยไม่ได้ไม่มีใครไปลงแข่ง
พรรคของเอ็งนั้นแข็งแรงแข่งไม่ได้
ถ้าลงแล้วไม่แคล้วแพ้ข้าแน่ใจ
ก็แล้วใครจะไปลงจงคิดดู

เอ็งต้องไปด้วยเอ็งขาดจริยธรรม
ถ้าเอ็งอยู่มายืนค้ำให้อดสู
พวกข้าคงเหมือนตัวตุ่นอยู่ในรู
ไม่มีทางได้เชิดชูสู้หน้าใคร

ลงแข่งไปข้าฟ้องให้เป็นโมฆะ
แม้เอ็งจะได้รับเลือกกลับมาใหม่
กอกกอตอก็ต้องออกให้พ้นไป
ให้พวกข้าเป็นใหญ่สมัยหนึ่ง



. *****หัวหน้าแกะ*****
. ข้าได้ฟังความยะแย้งตะแบงเถือก
. แถแถไปไร้ทางเลือกเป็นที่พึ่ง
. คนทั่วไทยฟังโกหกตกตะลึง
. ว่าเหตุใดนายกจึงโกงแผ่นดิน

. จนบัดนี้หาคดียังไม่ได้
. พูดทุกวันคนจานไรไล่ทักษิณ
. พี่น้องไทยที่ขายค้ามุ่งหากิน
. ทั่วทุกถิ่นทุกทิศทางต่างช้ำตรม

. กอกอตอเก่าหรือใหม่ไม่เดือดร้อน
. จะผันผ่อนเลื่อนวันไปให้เหมาะสม
. จะตุลา พฤศจิกา ธันวาคม
. พร้อมสู้ไปไม่มีล้มต้มคนดู

. ก็ต้องรอเลือกตั้งใหม่ให้พิสูจน์
. เพียงคำพูดนอกกติกาอย่าสู่รู้
. ปลุกปั่นให้คนเห็นรัฐเป็นศัตรู
. ให้คอยดูประชาชนตัดสินใจ


*****สุนัขเมือง*****
อย่าจำกัดสิทธิของคนแค่เลือกตั้ง
เลือกสอสอเข้ามานั่งยังสงสัย
จะซื้อเสียงโกงเข้ามาหรืออย่างไร
ประชาธิปไตยมีความหมายมากกว่านั้น

จะลากตั้งให้สอสอก็ทำได้
ประชาชนไม่ใช่เสียงสวรรค์
ต้องพวกข้าใหญ่กว่ามาชนกัน
ข้าไม่หวั่นเลือดใครจะไหลนอง



. *****หัวหน้าแกะ*****
. ถึงอย่างไรก็ต้องมีการเลือกตั้ง
. เอ็งมาสั่งข้าได้ไงไอ้จองหอง
. ข้าไม่อยากประมือถือประลอง
. ให้พี่น้องชาวไทยเลือดไหลริน

. จะประท้วง ด่าอย่างไร ทำไปเถิด
. อย่าให้เกิดความวุ่นวายให้ติฉิน
. ให้พี่น้อง ได้ทำมา ค้าขายกิน
. อย่าให้สิ้น หนทาง มันไม่งาม

. ทำอะไร ทำได้ ในขอบเขต
. ต่างประเทศ จะหมิ่นได้ ไม่เกรงขาม
. ให้ผู้คน ทั้งหล้า มาประณาม
. มาเหยียดหยามไทยฆ่าไทย ไทยด้วยกัน

ต้นประชาธิปไตย

1) อัปลักษณ์ ต้นประชา ธิปไตย
เพาะปลูกใหม่ ตามใจ ของใครหวา
เมล็ดพันธุ์ จากไหน ใครเลือกมา
ดูหน้าตา พิสดาร พิการพิกล

2) จงใจเพาะ บนดินแยก แตกระแหง
บนความแล้ง ทั่วไทย ไร้เมฆฝน
จะเพาะปลูก ประชาธิปไตย ให้ผู้คน
ฤาหวังผล อันใด ให้ใครกัน

3) พูนดินแห้ง เกรอะกรัง ลูกรังหยาบ
แลเหม็นสาบ บาปเวร เห็นไหมนั่น
ขุดฝังลูก อัปลักษณ์ เมล็ดพันธุ์
หวังให้มัน งอกงาม ขึ้นตามใจ

4) แล้วราดน้ำ ฉ่ำชุ่ม อุ้มกิเลส
ปวงผีเปรต ปกปัก รักษาไว้
เกณฑ์ผีบ้าน ผีเรือน แลผีไพร
คอยขับไล่ ประชาชน คนเดินดิน

5) แล้วปักป้าย ลายมือเขียน คราบน้ำตา
ต้นประชา ธิปไตย อย่าได้หมิ่น
หากดูแคลน ฤาแม้นบ่น ให้ยลยิน
จักสูญสิ้น ชีวา อย่าท้าทาย

6) ทหารยืน วางปืนกล วนล้อมรอบ
เรียงบังเกอร์ เป็นกรอบ เกรงจะพ่าย
สั่งทหาร ตรึงกำลัง ยังกลัวตาย
ยังเสียดาย อำนาจ มิอาจวาง

7) ประชาชน ทนได้ ใจคับข้อง
แต่จำต้อง จำใจ อยู่ใต้ล่าง
แสงเสรี ที่ดูเหมือน จะเลือนลาง
คงสว่าง ขึ้นมา ถ้ารวมใจ

8) ต้นประชา ธิปไตย แตกใบอ่อน
แผ่นดินร้อน พลุ่งพล่าน ดั่งเพลิงไหม้
ส่งกลิ่นคาว คละคลุ้ง พุ่งไปไกล
ถึงป่าดง พงไพร หิมพานต์

9) เมื่อลำต้น เติบใหญ่ ใบแน่นหนา
ถึงเวลา ผลิดอกผล ล้นกิ่งก้าน
เป็นผลพวง แห่งผู้ เผด็จการ
เสียงคัดค้าน ขาดหายไป ในควันปืน

10) แล้วเมฆฝน เคลื่อนมา ฟ้าพิโรธ
สะเทื้อนโสต อัสนีบาต มิอาจฝืน
ประชาชน ทนช้ำ สุดกล้ำกลืน
มาทวงคืน สิทธิเสรี พี่น้องไทย

11) ทั้งเหล่าพราย ภูตผี ต่างหนีหน้า
ทหารกล้า ก็ทัดทาน ต้านไม่ไหว
ที่รักษา ต้นประชา ธิปไตย
ก็กลับใจ กลับมาหา ประชาชน

12) ต้นประชา ธิปไตย อัปลักษณ์
กิ่งก้านหัก ไร้ใบ ไร้ดอกผล
แรงพายุ พัดผ่าน สุดทานทน
แล้วลำต้น แตกสลาย กลายเป็นดิน

13) อาทิตย์ส่อง แสงจ้า ฟ้าสว่าง
เงาเลือนลาง ต่างมลาย หายไปสิ้น
ประชาชน ทั่วหล้า น้ำตาริน
ต่างรับขวัญ คืนถิ่น ทั่วแดนไทย

14) ไทยหล่อหลอม รวมพลัง หวังใจว่า
ถึงเวลา ประชาชน ปลูกต้นใหม่
ถึงเวลา ต้นประชา ธิปไตย
ประชาชน คนไทย ได้ดูแล

คิดถึง “ควาย” จริงๆ

๏คนกับควาย ไปทำนา ก่อนฟ้าสาง
เดินตามทาง แสงระเรื่อ เมื่อไก่ขัน
ต้องเตรียมตัว ตื่นนอน ก่อนตะวัน
คันไถ แอก แบกไว้มั่น พลันเดินไป

๏พบทักทาย สหาย เหล่าชาวนา
คลี่ใบตอง มวนยา รับวันใหม่
แสงวูบวาบ ส้มแดง เห็นแสงไฟ
สูบยาเส้น เดินไป ในท้องนา

๏บ้างจูงควาย บ้างขี่ไป ไม่หยุดพัก
งานเหนื่อยหนัก ยังคอย อยู่ข้างหน้า
รีบรุดเร่ง เดินจ้ำ ทำเวลา
ตะวันมา จะรุมร้อน ให้อ่อนแรง

๏พอถึงที่ ก็เทียมแอก เชือกผูกข้าง
คันไถวาง ยึดไว้ ไม่ให้แกว่ง
กดผานไถ แทงทิ่ม ที่ริมแปลง
ทำงานแข่ง กับเวลา ทุกนาที

๏ควายเดินนำ คนตามหลัง ตั้งใจมั่น
ทุกทุกวัน ทำงานหนัก มีศักดิ์ศรี
ฝากข้าวไว้ แก่พระแม่ ธรณี
ได้ปราณี รักษา อย่าเชือนแช

๏ควายกับคน รู้ทาง เดินข้างหน้า
คนรู้ว่า ควายจะไป ทางไหนแน่
ควายก็คิด ควายก็รู้ คนดูแล
เลี้ยงตั้งแต่ เป็นลูกควาย ยังวัยเยาว์

๏เมื่อควายอยู่ กับคน คนก็รัก
คอยฟูมฟัก แต่น้อย คนคอยเฝ้า
ยุงริ้นรุม ก็สุมไฟ ให้บรรเทา
ดูแลเจ้า ให้เติบโต จนเต็มกาย

๏ควายกับคน ไม่บ่นพร่ำ ทำงานหนัก
คนหยุดพัก นอนกินลม ใต้ร่มไม้
ควายหยุดพัก เล็มหญ้า ประสาควาย
เวลาบ่าย คลายร้อน ถึงตอนเย็น
………………………...................

๏เสร็จงานไถ ควายลากเกวียน ใส่ต้นกล้า
คนดำนา ควายพักผ่อน ลงนอนเล่น
คนช่วยกัน ดำนาไป จนใกล้เพล
เสียงพระเณร ย่ำระฆัง ดังกังวาน

๏เก็บกิ่งไม้ บนลานใหญ่ ใต้ตะแบก
กับข้าวแจก นั่งล้อมวง ส่งอาหาร
ไม่พึ่งพา ตะเกียบช้อน ชามถ้วยจาน
ห่อใบตาล ใบตอง ของใกล้ตัว

๏ได้เวลา ควายเคี้ยวเอื้อง คนเคี้ยวหมาก
ยาใบจาก ใบตองล้วน ชวนกันทั่ว
เอกเขนก สูบยา ตาพร่ามัว
ไม้หนุนหัว ลงนอน ได้ผ่อนคลาย

๏งานเหนื่อยนัก พักหน่อย ค่อยสดชื่น
ไม่ต้องฝืน หลับตานอน ตื่นตอนบ่าย
หากชีวิต ไม่หมกมุ่น ไม่วุ่นวาย
ความเป็นอยู่ เรียบง่าย ควายกับคน

๏ตกบ่ายลง ดำนา ต้นกล้าใหม่
อีกหลายไร่ รีบลงไว้ ให้ทันฝน
ต้องขยัน ดั่งมด ต้องอดทน
พอผ่านพ้น ดำนาไป ได้พักนาน
......................................

๏บ้างเข้ากรุง มุ่งมาด ปรารถนา
เข้าไปหา งานทำได้ ไม่เกียจคร้าน
ไม่อดอยาก เพื่อปากท้อง ต้องทำงาน
คนทางบ้าน ก็ห่วงใย ไร้หนทาง

๏ได้ยินยล คนกรุงเทพ ชอบเสพสื่อ
ทั้งยึดถือ ความยิ่งใหญ่ ใครอย่าขวาง
ตั้งเป็นกลุ่ม พันธมิตร คิดล้มล้าง
เป็นตัวอย่าง ขบวนการ ผลาญชาติไทย

๏เขาตะคอก ไมโครโฟน ตะโกนด่า
พูดถึงเรา คนรากหญ้า ว่าเหลวไหล
โง่ เซ่อ บ้า อีเดียท เชียท จานไร
พวกรากหญ้า เป็นใคร มิใช่คน?

๏หยามว่าเรา สมองโบ๋ โง่บัดซบ
เพราะเคารพ คุณความดี มีเหตุผล
นายกอยู่ ด้วยศรัทธา ประชาชน
ทุกแห่งหน คนทั่วไทย ให้คะแนน

๏ไม่หลงลม จอมปลุกปั่น พันธมิตร
เรามีสิทธิ ที่เรา เฝ้าหวงแหน
เสียงของเรา ก็ยิ่งใหญ่ ในดินแดน
เลือกผู้แทน เข้าสภา มาหลายปี

...................................................

๏พวกมันบอก เราถูกหลอก เพราะเราโง่
ให้โมโห ว่าคนไทย ไร้ศักดิ์ศรี
อ้ายโกตั้บ กลับลำ ทำอวดดี
อ้ายพวกผี พันธมาร ป่วนบ้านเมือง

๏พวกมันไล่ ให้คนไทย ไปกินหญ้า
อ้ายพวกบ้า ไม่เคยดู ไม่รู้เรื่อง
ไม่รู้จัก ใช้ปัญญา มาประเทือง
ไทยรุ่งเรือง อยู่ทุกวัน นั่นเพราะใคร

๏พวกมันเปรียบ เราเป็นควาย โธ่อ้ายห้า
ไม่รู้ค่า ว่าควายนี้ ดีแค่ไหน
ถ้ายกควาย เทีบบชั้น คนจานไร
ควายนั้นไซร้ ย่อมดีกว่า พวกบ้าบอ

๏ควายมีคุณ มานานช้า กว่าชีวิต
สุจริต มิคิดร้าย ใครเลยหนอ
รับผิดชอบ งานเล็กใหญ่ ไม่รั้งรอ
ไม่เคยก่อ ความวุ่นวาย ควายแสนดี

๏ควายนั้นเป็น เช่นคนซื่อ บริสุทธิ์
เปรียบประดุจ ผู้ครองธรรม นำศักดิ์ศรี
จะวัดใจ ควายสูงกว่า พวกกาลี
ควายไม่มี ทรยศ คดโกงใคร

๏ควายกับคน ปนอยู่ใน ประวัติศาสตร์
ควายช่วยรัก-ษาชาติ อันยิ่งใหญ่
บางระจัน นั้นเลื่องลือ ชื่อควายไทย
ขี่ควายไป สู้ศึก สอนศัตรู

.................................................

๏ทุกวันนี้ ชาวนาใช้ ควายพยนต์
ก็ต้องทน ค่าน้ำมัน นั้นแพงอยู่
ควายพยนต์ คนก็ยัง นั่งเลี้ยงดู
ต้องขัดถู ซ่อมแซม แถมสิ้นเปลือง

๏มีเกิดแก่ เจ็บตาย คล้ายควายเนื้อ
ต้องช่วยเหลือ ยามเจ็บไข้ ไม่รู้เรื่อง
อาการหนัก ต้องชักลาก เข้าในเมือง
ให้หมอเครื่อง ตรวจรักษา ราคาแพง

๏ควายพยนต์ ยามแก่เฒ่า เข้าใจยาก
ใช้ลำบาก เหลือใจ ไปทุกแห่ง
บางคราไถ ไม่ถึง สักครึ่งแปลง
หมดเรี่ยวแรง ติดดับ ขยับเดิน

๏จะดูแล รักษา ก็ลำบาก
ดูแลยาก ชาวนารู้ อยู่ผิวเผิน
จะรักษา ต่อไป ต้องใช้เงิน
เป็นส่วนเกิน จะเก็บไว้ ไม่ได้ดี

๏ควายพยนต์ ตายแล้ว ก็ตายจาก
ทิ้งเศษซาก ฝากไว้ ให้บัดสี
เนื้อไม่ได้ หนังกระดูก เขาไม่มี
สิ้นชีวี เหลือสิ่งใด ไว้ผูกพัน

.................................................

๏ทุกวันนี้ ใช่ว่าคน จะทิ้งควาย
อ้ายชี้บหาย ดูถูกได้ กระไรนั่น
อ้ายชาติหม่า ไม่เห็นค่า ไทยด้วยกัน
เสือกแบ่งชั้น แยกชน อ้ายคนกรุง

๏ถึงแม้ว่าข้า จะเป็น คนบ้านนอก
แต่ขอบอก ว่าจิตใจ ข้าใฝ่สูง
พวกเอ๋งใย ให้คนบ้า มาชักจูง
ข้าลูกทุ่ง มีความคิด วินิจฉัย

๏ข้าไม่ต้อง ไปเรียนเมือง มะริกา
มีวิชา พอรู้ สู้เอ็งได้
ท่านสมภาร วัดบ้านนา ท่านว่าไว้
อยู่ที่ใจ ตั้งจิต ให้คิดดี

๏เมื่อคิดดี วาจาดี เป็นศรีปาก
ไม่พูดมาก พูดบัดซบ พูดบัดสี
มธุรส วาจา ตามบาลี
ส่งผลที่ การกระทำ จำขึ้นใจ

๏เกิดเป็นคน ใช้วิชา เพียงเท่านี้
ความคิดดี มีสมอง ที่ผ่องใส
พูดจาดี คนเชื่อถือ กันทั่วไป
กระทำดี คนไว้ใจ ให้ทำงาน

๏พวกเอ็งนั้น มิอาจ มาเทียมข้า
คิดบ้าบ้า คิดอะไร ไร้แก่นสาร
ทั้งพูดจา หมาหมา ด่าระราน
ทั้งทำความ รำคาญ แก่บ้านเมือง

.................................................

๏จะบอกให้ ว่าควาย ไม่ยุแหย่
เมื่อควายแก่ ก็ไม่บ้า โพกผ้าเหลือง
ไม่ได้กิน ไม่ได้ ใช้ให้สิ้นเปลือง
ไม่ฟุ้งเฟื่อง จนล่มจม ล้มละลาย

๏จะบอกให้ ว่าควาย ไม่อวดอ้าง
เป็นแบบอย่าง ผู้ทรงศีล กินผักไม้
ควายกินหญ้า ละเนื้อสัตว์ อัศจรรย์ใจ
ตัวโตใหญ่ ใจใหญ่กว่า คนบ้าบอ

๏จะบอกให้ ว่าควาย ไม่อวดเก่ง
ทำนักเลง ปิดถนน คนเหลือขอ
ควายไม่ใช้ ผรุสวาจา เที่ยวด่าทอ
ควายไม่ก่อ ความวุ่นวาย ให้ปวงชน

๏จะบอกให้ ว่าควายไม่กลิ้งกลอก
วันวานบอก ว่าความดี ท่านท่วมท้น
เมื่อถึงครา ขอไม่ได้ ดั่งใจตน
วันนี้ด่า ท่านเป็นคน สารเลว

๏จะบอกให้ ว่าควาย ไม่สู่รู้
เหมือนกับพวก วิชากู พาสู่เหว
ควายนั้นเป็น ทองแท้ ใช่ทองเปลว
พวกล้มเหลวไม่เข้าท่าอย่าอวดดี

๏จะบอกให้ ว่าควาย ไม่แบ่งชั้น
ควายเหมือนกัน ไม่เหมือนกัน นั้นใช่ที่
คนก็ต่าง เกิดมา สร้างบารมี
สามัคคี ในหมู่ชน จึงพ้นภัย

............................................

๏เรื่องเอ็งด่า รากหญ้า ข้าฟังรู้
ควายนั้นอยู่ คู่กับคน แต่หนไหน
รัฐบาล ผ่านมา ก็ผ่านไป
เคยมีใคร ใส่ใจเรา เท่านายก

๏รัฐบาล ผ่านมา ข้าจำได้
ต่างมาพูด เอาใจล้วนโกหก
ชาวรากหญ้า หลงคำ พร่ำเพ้อพก
แล้วก็ตก ที่นั่งเก่า เศร้าแสบทรวง

๏รัฐบาล มาใหม่ ยังไม่เข็ด
มามดเท็จ จะฟูมฟัก รักแหนหวง
เป็นกระดูก ผุพัง พวกหลอกลวง
ไม่เคยห่วง ไม่จริงใจ ไม่มีเลย

๏ทุกวันนี้ รากหญ้า ต่างหน้าใส
ความมั่นใจ ทำกินได้ ไม่นิ่งเฉย
ทำสินค้า มีทุน คนคุ้นเคย
ไม่ต้องเอ่ย อ้อนนายเงิน เดินตัวเบา

๏จะรักษา พยาบาล แต่กาลก่อน
ต้องอ้อนวอน พ่อหมอ ขอร้องเขา
ไร้ศักดิ์ศรี ชีวิตใคร ใช่ของเรา
ป่วยเจ็บเน่า หน้าโรงหมอ รอวันตาย

๏วันนี้มี สามสิบบาท องอาจยิ่ง
เป็นทุกสิ่ง ไปรอหมอ ก็ไม่สาย
อาการหนัก ได้นอนห้อง ไม่ต้องอาย
รักษาหาย ได้กลับบ้าน สำราญใจ

๏เอ็งจะว่า อย่างไร ข้าไม่เชื่อ
พวกหน้าเนื้อ ทองเปลว พูดเหลวไหล
เที่ยวปั้นน้ำ เป็นตัว อยู่ทั่วไป
ทุกทุกวัน ตั้งใจ สร้างศัตรู

๏นี่พวกเอ็ง คิดจะสร้าง ประวัติศาสตร์
ขบวนการ กู้ชาติ มาดสวยหรู
กระจายพิษ ให้คนติด ตามไปดู
คนไม่รู้ ไม่ไตร่ตรอง ต้องหลงกล

๏ชาติไม่ล่ม แล้วไฉน ไปกู้ชาติ
มีความคิด อุบาทว์ ให้สับสน
เกิดปัญหา จราจร จลาจล
พาผู้คน ทำลายต้น ประชาธิปไตย

..............................................

๏ถ้าเปรียบควาย ตามประสา พวกเอ็งแล้ว
ก็ไม่แคล้ว เป็นพวกเอ็ง หรือไฉน
เปรียบดังลิง ได้แหวน นั่นประไร
หรือเปรียบได้ เหมือนดังไก่ ไปเจอพลอย

๏คนส่วนใหญ่ ในประเทศ เขาเลือกท่าน
พวกเอ็งนั้น เป็นเพียง เสียงข้างน้อย
เหตุคับข้อง หมองใจ อย่าได้คอย
มาเที่ยวด่า ลอยลอย ข้าเป็นงง

๏มีเรื่องราว อันใด ดูไม่เหมาะ
เพลงไม่เพราะ พ้องตาม ความประสงค์
รักจะเล่น ก็ต้องเล่น กันตรงตรง
ทำคดีส่ง ฟ้องผ่าน ศาลอาญา

๏มีหลายศาล อยู่ที่การ เลือกศาลไหน
ทำไวไว อย่าให้ ใครกังขา
รีบฟ้องไป อย่าได้ เสียเวลา
ถ้ามีหลัก หนักแน่นพอ ก็จบกัน

๏ถ้านายก โกงเห็นเห็น เช่นเอ็งว่า
พิพากษา ลงความว่า ผิดตามนั้น
ก็ต้องส่ง ลงอาญา ว่าตามทัณฑ์
เชื่อศาลทั่น พิจารณา ว่าตามจริง

๏วางใจศาล ท่านสั่งความ ตามกฎหมาย
ที่จัดการ คนร้าย ได้ดียิ่ง
มีอุทธรณ์ ฎีกา ถ้าท้วงติง
พิพากษา แล้วทุกสิ่ง สิ้นกันไป

..............................................

๏ควายกับคน เคยดิ้นรน อยู่ในโลก
เคยร่วมสุข เคยทุกข์โศก ยังทนไหว
ต่างก็มี หน้าที่ ต้องทำไป
ยังพึ่งพา อาศัย วางใจกัน

๏มิตรภาพ คงมั่น ไม่ผันแปร
ควายแท้แท้ มีความดี ที่ขยัน
คนกับควาย คอยช่วยเหลือ เกื้อกูลมั่น
วิถีอัน งามล้น คนรักควาย

๏ควายพยนต์ ทดแทน ช่วยทำนา
ขายควายให้ โรงฆ่า น่าใจหาย
ที่มีอยู่ ก็เลี้ยงดู อยู่กลายกลาย
คนไม่ได้ ดูแลควาย เหมือนวันวาน

๏ควายกับคน ทนอยู่ คู่ไร่นา
ควายคิดว่า คนเลี้ยงไว้ เป็นอาหาร
เอาไว้ฆ่า ในเวลา ที่มีงาน
คิดฟุ้งซ่าน หมดทางสู้ ทนอยู่ไป

๏คนกับควาย ดูคล้าย คนแปลกหน้า
ไม่คบหา กันแล้ว หรือไฉน
เคยสนิท ชิดเชื้อ เคยเชื่อใจ
มิตรภาพ ขาดแล้วใย ใจอาวรณ์

๏เออหนอคน กับควาย มากลายห่าง
ไม่มีทาง วางใจกัน เหมือนวันก่อน
อันน้ำใจ เคยมีให้ มาตัดรอน
เคยอาทร ต่อกัน พลันมลาย

๏ควายน้อยใจ คนใช้ควาย เป็นคำด่า
คนเห็นว่า ควายไร้ค่า ด่าเสียหาย
คนกับคน ก่นด่า ว่าไอ้ควายยยยยย
ควายด่าควาย ก่นด่า ว่าไอ้คนนนนนน๏