ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555



เมื่อความคิดแผกแยกเป็นฝ่าย
ในจุดหมายแตกต่างปลายทางฝัน
ที่เคยรวมร่วมสร้างทางด้วยกัน
กลับทิ่มตำห้ำหั่นเข้าบั่นทอน


เคยเคียงคู่สู้เคียงข้างกลางสนาม

เปิดสงครามเสรีที่เร่าร้อน
ท้องถนนบนทางเท้าในนาคร
เป็นที่นอนที่กินร่วมกันมา


โค่นอำมาตย์ทรราชอันชั่วร้าย

ด้วยจุดหมายจะไม่ค้อมยอมเป็นข้า
จะหยุดพ้นจากไพร่ใต้บาทา
จึงพร่ำเพรียกเรียกหาประชาธิปไตย


วันเป็นเดือน เดือนเป็นปีที่ต่อสู้

ยืนเคียงคู่ไม่ครั่นคร้ามความเคลื่อนไหว
มหาชนบนแคว้นถิ่นแดนไทย
รวมทั้งโลกกว้างใหญ่ได้ร่วมแรง


เราก็เหมือนเพื่อนสนิทมิตรสหาย

ร่วมท้าทายฝ่ายอำมาตย์อำนาจแฝง
เป็นนิยามนามใหม่ว่าไพร่แดง
ประกายแสงสุกสว่างกลางผืนดิน


ทั้งวันคืนยืนอยู่สู้ไม่ถอย

ร่วมรอคอยด้วยความหวังยังไม่สิ้น
ถึงจุดเดือดเลือดไพร่ต้องไหลริน
ต้องกัดกินก้อนเลือดแลน้ำตา


บ้างบาดเจ็บบ้างล้มตายหลายชีวิต
บ้างก็ติดคุมขังดั่งหมูหมา
ได้รู้เช่นเห็นชาติอมาตยา
อุดมการณ์ยิ่งแก่กล้ายิ่งท้าทาย


ถึงวันนี้ที่คิดต่างแยกทางฝัน

วางขีดคั่นแยกความเห็นเป็นฝักฝ่าย
จะหักโหมโจมตีกันถึงตาย
หากจะพ่ายเพราะมึง-กู สู้กันเอง

วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

โฆษณา



กาลเวลาล่วงเลยเผยสิ่งเร้น

สิ่งที่เห็นมิได้เป็นเช่นคำกล่าว
ภาพที่เห็นมิได้เป็นเช่นทุกคราว
ทุกเรื่องราวเป็นลิเกย์แลละคอน


โฆษณาพาใจให้คาดหวัง
ว่าคนยังคลั่งไคล้ไม่ถ่ายถอน
โฆษณาแต่เช้าจวบเข้านอน
เอื้ออาทรทุกวันทุกชั้นชน


ถูกปลูกฝังตั้งแต่เกิดจนแก่เฒ่า
เมืองไทยเราแสนดีมีสุขล้น
แม้นทุกข์ยากลำบากนักจักต้องทน
ต้องเจียมตนเจียมตัวไปตามกรรม


ทุกโรงเรียนเพียรสอนแต่อ้อนออก
ไม่ต้องคิดคุณครูบอกแลตอกย้ำ
ให้เด็กน้อยพยักหน้าตาดำดำ
เชื่อฟังคำคุณครูทุกถ้อยความ


อนุบาลผ่านประถมก็รู้ทั่ว
เหมือนควาย งัว คิดสงสัย อย่าได้ถาม
สักการะเคารพยิ่งสิ่งดีงาม
ทุกโมงยามย้ำเตือนตลอดมา


มัธยมยังยัดเยียดนิยายฝัน
เป็นเรื่องราวพิลึกพิลั่นอันเก่งกล้า
ประวัติศาสตร์สุโขทัย-อยุธยา
แล้วข้ามมาธนบุรี-จักรีวงศ์


มีมหาวิทยาลัยแห่งไหนสอน
เกินกว่าบทละคอนอันสูงส่ง
ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์แลเผ่าพงศ์
ระเริงหลงเป็นลิเกย์เทวดา


โฆษณาพาใจให้เคลิ้มฝัน
สมองตีบสมองตันกันทั่วหน้า
ต้องตอกย้ำด้วยถ้อยคำโฆษณา
เหมือนหนึ่งว่า ข้า ทาส ไพร่ ไร้ความคิด.........

หนึ่งหนึ่งสอง



หนึ่งหนึ่งสอง
ท่วงทำนองที่แน่นหนักในรัก-หลง
เกิดคำถามตามมาว่าดำรง-
ความมั่นคงของชาติ?-ประชาชน?

หนึ่งหนึ่งสอง
ความปรองดองวูบดับด้วยสับสน
เมื่อคุณค่าของนิยามความเป็นคน
ยังเวียนวนเวียนว่ายใต้หมอกควัน

หนึ่งหนึ่งสอง
จึงร่ำร้องร่ำไรในความฝัน
เมื่อความคิดเห็นห่างแยกทางกัน
แล้วโรมรันรุกเร้าเข้าต่อตี

หนึ่งหนึ่งสอง
จะปกปัองปกปักด้วยรักนี้
คำนิยมจากนิยามความภักดี
จึงพร้อมใจใส่สีแลสุมไฟ

หนึ่งหนึ่งสอง
บ้างว่าต้องเปลี่ยนแปรแล้วแก้ไข
บ้างว่าต้องร้างราเลิกกันไป
บ้างก็ว่าเก็บไว้ให้เหมือนเดิม

หนึ่งหนึ่งสอง
ที่อาจมองเบื้องหน้าว่าส่งเสริม
มองเบื้องหลังเห็นเงื่อนงำว่าซ้ำเติม
ยิ่งจะเพิ่มรอยแยกแตกกระจาย

หนึ่งหนึ่งสอง
ใส่ทำนองดนตรีแห่งผีร้าย
รำเริงรำรุมกระหน่ำซ้ำให้ตาย
ถึงที่สุดแห่งจุดหมายในการเมือง

หนึ่งหนึ่งสอง
จะรับรองความหรูและฟูเฟื่อง
ประชาชนปรนปรุงความรุ่งเรือง
อันสยามนามประเทืองว่าเมืองทอง

............เจ็บ............


มันเจ็บลึกปวดร้าวช่างหนาวนัก
เคยมีคนคอยรักแลกราบไหว้
เหลียวแลดูผู้คนอยู่หนใด
ทั้งมองใกล้มองไกลไม่เห็นมี

คนเคยรักกลับชังช่างเหลือเชื่อ
เคยเอื้อเฟื้อกลับฟูมฟายแล้วหน่ายหนี
โอ้ละหนอลิเกย์เก่าเฒ่ากาลี
มิเคยสร้างความดีแก่แผ่นดิน

ต้องยักแย่ยักยันสวรรค์แกล้ง
ดารดาษด้วยสีแดงกันหมดสิ้น
แดงเจิดจ้าน้ำตาร่วงน้ำตาริน
ต้องกัดกินก้อนข้าวเคล้าน้ำตา

สำรวจความนิยมก็จมหาย
ปราสาททรายสลายลงตรงเบื้องหน้า
จะยื้อยุดก็สุดฝืนคืนกลับมา
เฒ่าชแรแก่ชราทุกข์ระทม

หมดเรี่ยวแรงจะแข็งขืนยืนไม่ไหว
แม้นเจ็บช้ำระกำใจต้องจำข่ม
ปรารถนาความรักเป็นอารมณ์
ความทุกข์ถมท่วมทับเท่าทวี

ยังร้องเรียกเพรียกหาคำว่ารัก
มิอาจหักห้ามจิตชีวิตนี้
รวมทรัพย์สินเงินทองของที่มี
มิอาจซื้อความดีมาใส่ตน

แม้นปักป้ายป่าวประกาศทั้งประเทศ
ถ้วนทุกเขตประกาศไปให้ท่วมท้น
ทั่วสถานทุกหมู่บ้านทุกตำบล
เสี้ยวความรักจากผู้คนมิกลับคืน

ใช้พระเดชดึงดันสนั่นก้อง
ไพร่ทั้งผองต้องตรมแลขมขื่น
ต้องคำสาปด้วยหอกดาบแลมีดปืน
สุดจะฝืนจิตฝืนใจให้ยอมรัก

อุปสรรค


อุปสรรคขวากหนามนั้นงามล้ำ
จึงต้องจำจดไว้ให้แม่นมั่น
แม้นลำบากหากน้ำใจให้แก่กัน
ต้องมีวันเคียงคู่สู่เส้นชัย

กระชับพื้นที่ธรรมศาสตร์




เมื่ออธรรมนำไทยจึงไร้ผล
มหาชนมองรู้แลดูเห็น
ประสบการณ์ผ่านชีวิตจึงคิดเป็น
เปิดประเด็นป้องสิทธิ์อันเสรี


เกิดคำถามความเป็นคนใยหล่นหาย
จึงมุ่งหมายมาเรียกร้องป้องศักดิ์ศรี
พบเศษเสี้ยวสิทธิ์ลางเลือน..เหมือนไม่มี
เป็นควายงัวชั่วชีวีที่เกิดมา


นิติราษฎร์ป่าวร้องดังก้องชัด
นิติรัฐถูกจำกัดแลขัดขา
ที่จารจดกฎหมายหลายมาตรา
เป็นยิ่งกว่าคำสั่งฆ่าประชาชน


ก่อกฎหมาพากฎหมู่ขู่อาฆาต
คณะนิติราษฎร์ต้องถอยร่น
สู่เส้นทางสายใหม่ไม่อับจน
ให้ผู้คนได้คิดแลติดตาม


เสรีภาพวิชาการถูกต้านหนัก
เป็นความรักแบบนักเลงให้เกรงขาม
ทุกเล่ห์กลก็ค้นคิดเพื่อคุกคาม
เป็นนิยาม “ความดีมีคุณธรรม”


สั่งกระชับพื้นที่ธรรมศาสตร์
เสรีนิติราษฎร์ถูกรุกล้ำ
แสร้งว่าดำเป็นขาวขาวเป็นดำ
แล้วเรียงถ้อยร้อยคำกำมะลอ

เหนื่อยหนัก...พักหน่อย..........




ส่งคำถามถึงทรามวัยในไซเบ้อร์
ว่าตัวเธอที่เห็นเป็นจริงหรือ
ทั้งรูปร่างหน้าตา นะ..อื้อฮือ!
ยินเสียงลือเล่าอ้างกลางเอฟบี

พิศดูภาพพริ้งเพราพิไลโฉม
ทั้งเนินโนมเนื้อหนั่นดันเต็มที่
โฟโต้ฉ็อพตอบสนองเนตรนารี
ต่างทัชอั้พเต็มที่ดีเหลือเกิน

หลงรอยยิ้มพิมพ์ใจให้วาบหวาม
รูปก็งามนามก็เพราะ...พี่นึกเขิน
ที่ถูกตาต้องใจใช่บังเอิญ
อยากเชื้อเชิญกลัวช้ำชอกเธอบอกลา

จนถ้อยคำทำให้จนใจยิ่ง
ถ้วนทุกสิ่งที่เห็นเป็นปริศนา
สะท้านทรวงสะท้อนโศกโลกมายา
เพราะรู้ว่าเธอนั้นหรือคือซีจี.....

อย่าซีเรียส!

คอยคำตอบตาตั้งยังไม่เห็น
คอยแต่เช้าจรดเย็นจนย่ำค่ำ
อยากจะส่งข้อความสองสามคำ
กลัวจะซ้ำที่ส่งไปคงไม่ดี

จากย่ำค่ำจนดึกนึกสงสัย
ตัดสินใจให้รู้กันในวันนี้
ยี่สิบสามนาฬิกาสิบห้านาที
ต้องเร็วรี่รีบถามไปไม่รีรอ

เรียงอักษรเป็นบทกลอนแล้วอ้อนถาม
ว่าคนงามทรามวัยกินไรหนอ
จึงสะสวยสง่าล้ำเกินคำยอ
รุ้งทาบทอท้องฟ้าไกลไม่เทียมทัน

เมื่อถึงคราวสาวซีจีมีคำตอบ
ว่าหล่อนชอบที่จะเป็นเช่นภาพฝัน
หนุ่มใหญ่น้อยคอยคลิกพัลวัน
คลิกตรงนี้ตรงนั้นสนั่นจอ

ยุติธรรมตอแหล



ยุติธรรมคำนี้มีข้อแม้
มอบให้แด่คนดีที่คัดสรร
นั่นของเขา-นี่ของเรา ไม่เท่ากัน
แยกชนชั้นชาติกำเนิดแห่งรูปนาม


ยุติธรรมคำนี้ที่กังขา
เป็นปัญหาคาใจในข้อห้าม
ต้องเคารพนบน้อมต้องยอมตาม
ต้องอย่าถามอย่าทักถึงหลักใด


ยุติธรรมคำนี้ที่ยกเว้น

ข้อกำหนดกฎเกณฑ์อันก่อไว้
นำเสนอเพื่อสนองคนของใคร
โทษน้อยใหญ่เพื่อรับใช้หรือเชิดชู


ยุติธรรมคำนี้มีข้อห้าม

ยุติความเป็นไทไร้ทางสู้
ยุติความคิดฝันอันพรั่งพรู
ยุติความใคร่รู้...อยู่ดักดาน


ยุติความตามคดีที่สับสน

ยุติความอับจนบนหลักฐาน
ยุติความตระหนักในหลักการ
ยุติความร้าวฉานด้วยตะราง


ยุติความตามโจทย์ที่จัดตั้ง

ยุติความตามสั่งทั้งสองข้าง
ยุติความตามใจไร้ทิศทาง
ยุติความตามอย่างอันแยบคาย


ยุติธรรมคำนี้มีปัญหา

กี่มาตรามากำหนดเป็นกฎหมาย
ทั้งพยานแลหลักฐานที่เรียงราย
ตัดสินความเป็น-ตาย ตามคดี


ยุติธรรมคำนี้มีคำถาม

เป็นนิยามของใครในแดนนี้
สนองชาติชั้นชนคนมั่งมี
เป็นนรกอเวจีแด่คนจน


ภาพประกอบจาก

http://puffy715.deviantart.com/art/And-Justice-for-All-142757356

การเดินทางของความตอแหล




ความตอแหลแผ่ไปในขอบเขต
ความทุเรศทุรังดังสนั่น
ความมืดบอดก็บงการเข้ากีดกัน
ความอิจฉาพาความฝันพลันมลาย

ความตอแหลเลี้ยวลดเข้ากดขี่
ความบัดสีส่งสารผ่านเครือข่าย
ความดึงดื้อถือดีไม่มีอาย
ความเป็นตายเข้าย่างกรายไม่รั้งรอ

ความตอแหลแผ่ไปในวงกว้าง
ความบาดหมางมุ่งมั่นดึงดันต่อ
ความละโมบโลภหลงคงไม่พอ
ความเจ็บช้ำค้ำคอด้วยพอเพียง

ความตอแหลแผ่ไปในโลกหล้า
ความเมตตาก็ตายไปไร้สิ้นเสียง
ความเคืองแค้นคับข้องเข้ามองเมียง
ความตอแหลจึงหล่อเลี้ยงความรุ่งเรือง

ความตอแหลแผ่ไปในอากาศ
ความอุบาทว์เข้าบังคับนานนับเนื่อง
ความวิบัติเข้ากัดสิ้นสังคมเมือง
ความฟุ้งเฟื่องเป็นฟอนไฟเผาใจคน

ความตอแหลยังรุกล้ำบนธรรมาสน์
ความวิปริตวิปลาสประกาศปล้น
ความตอแหลแผ่เมตตาสาธุชน
ความขัดสนเข้าซัดสาดประกาศชัย