ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

หลายคำถาม ไร้คำตอบ


อีกกี่ร่างจะร่วงหล่นบนแดนนี้
อีกกี่ร้อยชีวีที่สูญสิ้น
อีกกี่ศพกี่ซากฝังฝากดิน
ประชาชนจะยลยินยุติธรรม

อีกกี่ทุกข์ทับถมจมกองเถ้า

อีกกี่เศร้ากี่โศกวิโยคซ้ำ
อีกกี่เจ็บกี่ใจไหม้ระกำ
ปวงไพร่ฟ้าตาดำดำจึงได้ดี

อีกกี่หวังวาดไว้ในความฝัน

อีกกี่รอรอวันนั้นจวบวันนี้
อีกกี่ภาพให้พึ่งพิงสิ่งที่มี
อีกกี่ปี อีกกี่เดือน อีกกี่วัน

อีกกี่คำซ้ำซ้ำย้ำความคิด

อีกกี่ถูกอีกกี่ผิดที่ปิดกั้น
อีกกี่รักจึ่งมากล้นพ้นรำพัน
อีกกี่ฝันต้องฝังไว้ฝุ่นใต้ตีน
มหาละคอนแห่งลิเกย์




บทลิเกย์ละคอนอันร้อนร่าน
บนหลักการแห่งหลักกูคู่แดนฟ้า
ออกคำสั่งหลังม่านตระการตา
เผยเพียงภาพมายาอันยั่วยวน


มโหรีเล้าโลมประโคมลั่น
ฆ้อง ปี่ พาทย์ ระนาดพลัน ซร้องกำศรวล
ฉาบ ฉิ่ง ซอ ขลุ่ย ตะเข้ เข้าตีตรวน
ด้วยกระบวนอันโหดร้ายและรุนแรง


ทุกบทตอนสอนสั่งให้สยบ
ต้องน้อมนบในความดีที่สาดแสง
บนเวทีที่เทพไท้ได้แสดง
ทุกบทแฝงภาพฝันจรรโลงใจ


เสรีภาพฉาบน้ำตาลที่หวานหอม
ต้องสมยอมยกย่องต้องกราบไหว้
เสรีภาพเพียงแผ่วบางอยู่ข้างใน
มิอาจให้ใครรู้เห็นเป็นโทษทัณฑ์


ไพร่ก็เพียงเป็นผู้ชมต้องชื่นชอบ
ตามระบอบระเบียบที่เหยียบหยัน
ต่างสำแดงแสร้งว่าสุขทุกคืนวัน
คุณเอนกนับอนันต์นะเมตตา


บทลิเกย์ละคอนยังร้อนรุ่ม
ดั่งไฟสุมก้อนเส้าเผาไพร่ฟ้า
ให้สุกปลั่งมลังเมลืองเมืองมายา
นามมหาละคอนแห่งลิเกย์

วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2555

And Justice For All


ยุติธรรมคำนี้มีข้อแม้
มอบให้แด่คนดีที่คัดสรร
คนของเขา-คนของเรา ไม่เท่ากัน
แยกชนชั้นชาติกำเนิดแห่งรูปนาม

ยุติธรรมคำนี้ที่กังขา
เป็นปัญหาคาใจในข้อห้าม
ต้องเคารพนบน้อมต้องยอมตาม
ต้องอย่าถามอย่าทักถึงหลักใด

ยุติธรรมคำนี้ที่ยกเว้น
ข้อกำหนดกฎเกณฑ์อันก่อไว้
นำเสนอเพื่อสนองคนของใคร
โทษน้อยใหญ่เพื่อรับใช้หรือเชิดชู

ยุติธรรมคำนี้มีข้อห้าม
ยุติความเป็นไทไร้ทางสู้
ยุติความคิดฝันอันพรั่งพรู
ยุติความใคร่รู้...อยู่ดักดาน

ยุติความตามคดีที่สับสน
ยุติความอับจนบนหลักฐาน
ยุติความตระหนักในหลักการ
ยุติความร้าวฉานด้วยตะราง

ยุติความตามโจทย์ที่จัดตั้ง
ยุติความตามสั่งทั้งสองข้าง
ยุติความตามใจไร้ทิศทาง
ยุติความตามอย่างอันแยบคาย

ยุติธรรมคำนี้มีปัญหา
กี่มาตรามากำหนดเป็นกฎหมาย
ทั้งพยานแลหลักฐานที่เรียงราย
ตัดสินความเป็น-ตาย ตามคดี

ยุติธรรมคำนี้มีคำถาม
เป็นนิยามของใครในแดนนี้
สนองชาติชั้นชนคนมั่งมี
เป็นนรกอเวจีแด่คนจน

คำตัดสินนั้นสิ้นสุดซึ่งสงสัย














ข้าแต่ศานพะนะท่านที่เคารพ
ขอน้อมนบจบฝ่ามือแลหมอบไหว้
ท่านสูงส่งซื่อตรงตามแต่ใจ
เลือกทางไหนไม่พลาดพลั้งสักครั้งเดียว

จะเลือกซ้ายเลือกขวาต้องว่าถูก
จะเลือกแก้แลเลือกผูกถูกทุกเที่ยว
ท่านทำถูกทุกสิ่งจริงจริงเชียว
ท่านจริงใจไม่ข้องเกี่ยวกับเล่ห์กล

ข้าแต่ศานพะนะท่านที่นับถือ
ร้อยเรื่องราวเล่าลือก็ไร้ผล
ใครประจานว่าหน้าด้านแลหน้าทน
ฤาจะหม่นหมองใจไม่มีวัน

ท่านตัดสินว่าสิ้นสุดซึ่งสงสัย
จะมีใครไปยุแย้งฤาเยาะหยัน
ด้วยภูมิรู้หมู่ไพร่ไม่เทียมทัน
สารขัณฑ์อันสูงส่งด้วยธงนำ

ด้วยอำนาจแห่งอำมาตย์มิอาจเสี่ยง
ไม่พอเพียงเลี้ยงชุบอุปถัมภ์
แลจานเจือเกื้อหนุนคุณธรรม
สร้างความจำ จะจงรักแลภักดี

ข้าแต่ศานพะนะท่านที่รักยิ่ง
ทุกทุกสิ่งที่ทำไปในวันนี้
เกิดอภิมหาอนุสาวรีย์
ให้เป็นที่เชิดชูและบูชา

วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555



เมื่อความคิดแผกแยกเป็นฝ่าย
ในจุดหมายแตกต่างปลายทางฝัน
ที่เคยรวมร่วมสร้างทางด้วยกัน
กลับทิ่มตำห้ำหั่นเข้าบั่นทอน


เคยเคียงคู่สู้เคียงข้างกลางสนาม

เปิดสงครามเสรีที่เร่าร้อน
ท้องถนนบนทางเท้าในนาคร
เป็นที่นอนที่กินร่วมกันมา


โค่นอำมาตย์ทรราชอันชั่วร้าย

ด้วยจุดหมายจะไม่ค้อมยอมเป็นข้า
จะหยุดพ้นจากไพร่ใต้บาทา
จึงพร่ำเพรียกเรียกหาประชาธิปไตย


วันเป็นเดือน เดือนเป็นปีที่ต่อสู้

ยืนเคียงคู่ไม่ครั่นคร้ามความเคลื่อนไหว
มหาชนบนแคว้นถิ่นแดนไทย
รวมทั้งโลกกว้างใหญ่ได้ร่วมแรง


เราก็เหมือนเพื่อนสนิทมิตรสหาย

ร่วมท้าทายฝ่ายอำมาตย์อำนาจแฝง
เป็นนิยามนามใหม่ว่าไพร่แดง
ประกายแสงสุกสว่างกลางผืนดิน


ทั้งวันคืนยืนอยู่สู้ไม่ถอย

ร่วมรอคอยด้วยความหวังยังไม่สิ้น
ถึงจุดเดือดเลือดไพร่ต้องไหลริน
ต้องกัดกินก้อนเลือดแลน้ำตา


บ้างบาดเจ็บบ้างล้มตายหลายชีวิต
บ้างก็ติดคุมขังดั่งหมูหมา
ได้รู้เช่นเห็นชาติอมาตยา
อุดมการณ์ยิ่งแก่กล้ายิ่งท้าทาย


ถึงวันนี้ที่คิดต่างแยกทางฝัน

วางขีดคั่นแยกความเห็นเป็นฝักฝ่าย
จะหักโหมโจมตีกันถึงตาย
หากจะพ่ายเพราะมึง-กู สู้กันเอง

วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

โฆษณา



กาลเวลาล่วงเลยเผยสิ่งเร้น

สิ่งที่เห็นมิได้เป็นเช่นคำกล่าว
ภาพที่เห็นมิได้เป็นเช่นทุกคราว
ทุกเรื่องราวเป็นลิเกย์แลละคอน


โฆษณาพาใจให้คาดหวัง
ว่าคนยังคลั่งไคล้ไม่ถ่ายถอน
โฆษณาแต่เช้าจวบเข้านอน
เอื้ออาทรทุกวันทุกชั้นชน


ถูกปลูกฝังตั้งแต่เกิดจนแก่เฒ่า
เมืองไทยเราแสนดีมีสุขล้น
แม้นทุกข์ยากลำบากนักจักต้องทน
ต้องเจียมตนเจียมตัวไปตามกรรม


ทุกโรงเรียนเพียรสอนแต่อ้อนออก
ไม่ต้องคิดคุณครูบอกแลตอกย้ำ
ให้เด็กน้อยพยักหน้าตาดำดำ
เชื่อฟังคำคุณครูทุกถ้อยความ


อนุบาลผ่านประถมก็รู้ทั่ว
เหมือนควาย งัว คิดสงสัย อย่าได้ถาม
สักการะเคารพยิ่งสิ่งดีงาม
ทุกโมงยามย้ำเตือนตลอดมา


มัธยมยังยัดเยียดนิยายฝัน
เป็นเรื่องราวพิลึกพิลั่นอันเก่งกล้า
ประวัติศาสตร์สุโขทัย-อยุธยา
แล้วข้ามมาธนบุรี-จักรีวงศ์


มีมหาวิทยาลัยแห่งไหนสอน
เกินกว่าบทละคอนอันสูงส่ง
ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์แลเผ่าพงศ์
ระเริงหลงเป็นลิเกย์เทวดา


โฆษณาพาใจให้เคลิ้มฝัน
สมองตีบสมองตันกันทั่วหน้า
ต้องตอกย้ำด้วยถ้อยคำโฆษณา
เหมือนหนึ่งว่า ข้า ทาส ไพร่ ไร้ความคิด.........

หนึ่งหนึ่งสอง



หนึ่งหนึ่งสอง
ท่วงทำนองที่แน่นหนักในรัก-หลง
เกิดคำถามตามมาว่าดำรง-
ความมั่นคงของชาติ?-ประชาชน?

หนึ่งหนึ่งสอง
ความปรองดองวูบดับด้วยสับสน
เมื่อคุณค่าของนิยามความเป็นคน
ยังเวียนวนเวียนว่ายใต้หมอกควัน

หนึ่งหนึ่งสอง
จึงร่ำร้องร่ำไรในความฝัน
เมื่อความคิดเห็นห่างแยกทางกัน
แล้วโรมรันรุกเร้าเข้าต่อตี

หนึ่งหนึ่งสอง
จะปกปัองปกปักด้วยรักนี้
คำนิยมจากนิยามความภักดี
จึงพร้อมใจใส่สีแลสุมไฟ

หนึ่งหนึ่งสอง
บ้างว่าต้องเปลี่ยนแปรแล้วแก้ไข
บ้างว่าต้องร้างราเลิกกันไป
บ้างก็ว่าเก็บไว้ให้เหมือนเดิม

หนึ่งหนึ่งสอง
ที่อาจมองเบื้องหน้าว่าส่งเสริม
มองเบื้องหลังเห็นเงื่อนงำว่าซ้ำเติม
ยิ่งจะเพิ่มรอยแยกแตกกระจาย

หนึ่งหนึ่งสอง
ใส่ทำนองดนตรีแห่งผีร้าย
รำเริงรำรุมกระหน่ำซ้ำให้ตาย
ถึงที่สุดแห่งจุดหมายในการเมือง

หนึ่งหนึ่งสอง
จะรับรองความหรูและฟูเฟื่อง
ประชาชนปรนปรุงความรุ่งเรือง
อันสยามนามประเทืองว่าเมืองทอง

............เจ็บ............


มันเจ็บลึกปวดร้าวช่างหนาวนัก
เคยมีคนคอยรักแลกราบไหว้
เหลียวแลดูผู้คนอยู่หนใด
ทั้งมองใกล้มองไกลไม่เห็นมี

คนเคยรักกลับชังช่างเหลือเชื่อ
เคยเอื้อเฟื้อกลับฟูมฟายแล้วหน่ายหนี
โอ้ละหนอลิเกย์เก่าเฒ่ากาลี
มิเคยสร้างความดีแก่แผ่นดิน

ต้องยักแย่ยักยันสวรรค์แกล้ง
ดารดาษด้วยสีแดงกันหมดสิ้น
แดงเจิดจ้าน้ำตาร่วงน้ำตาริน
ต้องกัดกินก้อนข้าวเคล้าน้ำตา

สำรวจความนิยมก็จมหาย
ปราสาททรายสลายลงตรงเบื้องหน้า
จะยื้อยุดก็สุดฝืนคืนกลับมา
เฒ่าชแรแก่ชราทุกข์ระทม

หมดเรี่ยวแรงจะแข็งขืนยืนไม่ไหว
แม้นเจ็บช้ำระกำใจต้องจำข่ม
ปรารถนาความรักเป็นอารมณ์
ความทุกข์ถมท่วมทับเท่าทวี

ยังร้องเรียกเพรียกหาคำว่ารัก
มิอาจหักห้ามจิตชีวิตนี้
รวมทรัพย์สินเงินทองของที่มี
มิอาจซื้อความดีมาใส่ตน

แม้นปักป้ายป่าวประกาศทั้งประเทศ
ถ้วนทุกเขตประกาศไปให้ท่วมท้น
ทั่วสถานทุกหมู่บ้านทุกตำบล
เสี้ยวความรักจากผู้คนมิกลับคืน

ใช้พระเดชดึงดันสนั่นก้อง
ไพร่ทั้งผองต้องตรมแลขมขื่น
ต้องคำสาปด้วยหอกดาบแลมีดปืน
สุดจะฝืนจิตฝืนใจให้ยอมรัก

อุปสรรค


อุปสรรคขวากหนามนั้นงามล้ำ
จึงต้องจำจดไว้ให้แม่นมั่น
แม้นลำบากหากน้ำใจให้แก่กัน
ต้องมีวันเคียงคู่สู่เส้นชัย

กระชับพื้นที่ธรรมศาสตร์




เมื่ออธรรมนำไทยจึงไร้ผล
มหาชนมองรู้แลดูเห็น
ประสบการณ์ผ่านชีวิตจึงคิดเป็น
เปิดประเด็นป้องสิทธิ์อันเสรี


เกิดคำถามความเป็นคนใยหล่นหาย
จึงมุ่งหมายมาเรียกร้องป้องศักดิ์ศรี
พบเศษเสี้ยวสิทธิ์ลางเลือน..เหมือนไม่มี
เป็นควายงัวชั่วชีวีที่เกิดมา


นิติราษฎร์ป่าวร้องดังก้องชัด
นิติรัฐถูกจำกัดแลขัดขา
ที่จารจดกฎหมายหลายมาตรา
เป็นยิ่งกว่าคำสั่งฆ่าประชาชน


ก่อกฎหมาพากฎหมู่ขู่อาฆาต
คณะนิติราษฎร์ต้องถอยร่น
สู่เส้นทางสายใหม่ไม่อับจน
ให้ผู้คนได้คิดแลติดตาม


เสรีภาพวิชาการถูกต้านหนัก
เป็นความรักแบบนักเลงให้เกรงขาม
ทุกเล่ห์กลก็ค้นคิดเพื่อคุกคาม
เป็นนิยาม “ความดีมีคุณธรรม”


สั่งกระชับพื้นที่ธรรมศาสตร์
เสรีนิติราษฎร์ถูกรุกล้ำ
แสร้งว่าดำเป็นขาวขาวเป็นดำ
แล้วเรียงถ้อยร้อยคำกำมะลอ

เหนื่อยหนัก...พักหน่อย..........




ส่งคำถามถึงทรามวัยในไซเบ้อร์
ว่าตัวเธอที่เห็นเป็นจริงหรือ
ทั้งรูปร่างหน้าตา นะ..อื้อฮือ!
ยินเสียงลือเล่าอ้างกลางเอฟบี

พิศดูภาพพริ้งเพราพิไลโฉม
ทั้งเนินโนมเนื้อหนั่นดันเต็มที่
โฟโต้ฉ็อพตอบสนองเนตรนารี
ต่างทัชอั้พเต็มที่ดีเหลือเกิน

หลงรอยยิ้มพิมพ์ใจให้วาบหวาม
รูปก็งามนามก็เพราะ...พี่นึกเขิน
ที่ถูกตาต้องใจใช่บังเอิญ
อยากเชื้อเชิญกลัวช้ำชอกเธอบอกลา

จนถ้อยคำทำให้จนใจยิ่ง
ถ้วนทุกสิ่งที่เห็นเป็นปริศนา
สะท้านทรวงสะท้อนโศกโลกมายา
เพราะรู้ว่าเธอนั้นหรือคือซีจี.....

อย่าซีเรียส!

คอยคำตอบตาตั้งยังไม่เห็น
คอยแต่เช้าจรดเย็นจนย่ำค่ำ
อยากจะส่งข้อความสองสามคำ
กลัวจะซ้ำที่ส่งไปคงไม่ดี

จากย่ำค่ำจนดึกนึกสงสัย
ตัดสินใจให้รู้กันในวันนี้
ยี่สิบสามนาฬิกาสิบห้านาที
ต้องเร็วรี่รีบถามไปไม่รีรอ

เรียงอักษรเป็นบทกลอนแล้วอ้อนถาม
ว่าคนงามทรามวัยกินไรหนอ
จึงสะสวยสง่าล้ำเกินคำยอ
รุ้งทาบทอท้องฟ้าไกลไม่เทียมทัน

เมื่อถึงคราวสาวซีจีมีคำตอบ
ว่าหล่อนชอบที่จะเป็นเช่นภาพฝัน
หนุ่มใหญ่น้อยคอยคลิกพัลวัน
คลิกตรงนี้ตรงนั้นสนั่นจอ

ยุติธรรมตอแหล



ยุติธรรมคำนี้มีข้อแม้
มอบให้แด่คนดีที่คัดสรร
นั่นของเขา-นี่ของเรา ไม่เท่ากัน
แยกชนชั้นชาติกำเนิดแห่งรูปนาม


ยุติธรรมคำนี้ที่กังขา
เป็นปัญหาคาใจในข้อห้าม
ต้องเคารพนบน้อมต้องยอมตาม
ต้องอย่าถามอย่าทักถึงหลักใด


ยุติธรรมคำนี้ที่ยกเว้น

ข้อกำหนดกฎเกณฑ์อันก่อไว้
นำเสนอเพื่อสนองคนของใคร
โทษน้อยใหญ่เพื่อรับใช้หรือเชิดชู


ยุติธรรมคำนี้มีข้อห้าม

ยุติความเป็นไทไร้ทางสู้
ยุติความคิดฝันอันพรั่งพรู
ยุติความใคร่รู้...อยู่ดักดาน


ยุติความตามคดีที่สับสน

ยุติความอับจนบนหลักฐาน
ยุติความตระหนักในหลักการ
ยุติความร้าวฉานด้วยตะราง


ยุติความตามโจทย์ที่จัดตั้ง

ยุติความตามสั่งทั้งสองข้าง
ยุติความตามใจไร้ทิศทาง
ยุติความตามอย่างอันแยบคาย


ยุติธรรมคำนี้มีปัญหา

กี่มาตรามากำหนดเป็นกฎหมาย
ทั้งพยานแลหลักฐานที่เรียงราย
ตัดสินความเป็น-ตาย ตามคดี


ยุติธรรมคำนี้มีคำถาม

เป็นนิยามของใครในแดนนี้
สนองชาติชั้นชนคนมั่งมี
เป็นนรกอเวจีแด่คนจน


ภาพประกอบจาก

http://puffy715.deviantart.com/art/And-Justice-for-All-142757356

การเดินทางของความตอแหล




ความตอแหลแผ่ไปในขอบเขต
ความทุเรศทุรังดังสนั่น
ความมืดบอดก็บงการเข้ากีดกัน
ความอิจฉาพาความฝันพลันมลาย

ความตอแหลเลี้ยวลดเข้ากดขี่
ความบัดสีส่งสารผ่านเครือข่าย
ความดึงดื้อถือดีไม่มีอาย
ความเป็นตายเข้าย่างกรายไม่รั้งรอ

ความตอแหลแผ่ไปในวงกว้าง
ความบาดหมางมุ่งมั่นดึงดันต่อ
ความละโมบโลภหลงคงไม่พอ
ความเจ็บช้ำค้ำคอด้วยพอเพียง

ความตอแหลแผ่ไปในโลกหล้า
ความเมตตาก็ตายไปไร้สิ้นเสียง
ความเคืองแค้นคับข้องเข้ามองเมียง
ความตอแหลจึงหล่อเลี้ยงความรุ่งเรือง

ความตอแหลแผ่ไปในอากาศ
ความอุบาทว์เข้าบังคับนานนับเนื่อง
ความวิบัติเข้ากัดสิ้นสังคมเมือง
ความฟุ้งเฟื่องเป็นฟอนไฟเผาใจคน

ความตอแหลยังรุกล้ำบนธรรมาสน์
ความวิปริตวิปลาสประกาศปล้น
ความตอแหลแผ่เมตตาสาธุชน
ความขัดสนเข้าซัดสาดประกาศชัย

วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555

๑๑๒ พวกมึงอย่าอาจเอื้อมนะเว้ย!


นั่นไม่เหมาะโน่นไม่ดีนี่ไม่ได้
โน่นเป็นเทศนี่เป็นไทยใช่ทาสเขา
นั่นไม่สวยโน่นไม่งามตามแบบเรา
นั่นก็โง่โน่นก็เขลาจงคิดดู

นั่นไม่เหมาะเพราะไม่ต้องตามประสงค์
โน่นไม่ได้เพราะไทยคงไม่ควรคู่
นั่นไม่ดีเพราะไม่มีใครเชิดชู
โน่นไม่งามตามความรู้ที่เรียนมา

โน่นฝรั่งจะลอกเลียนคงรกโลก
นี่เป็นไทยได้ด้วยโชควาสนา
โน่นฝรั่งมันตั้งใจจะตบตา
นี่เป็นไทยให้คุณค่ากว่าเพชรพลอย

นั่นไม่ดีไม่งามตามคำบอก
โน่นก็หลอกสร้างคำลวงมาเรียงถ้อย
นั่นไม่จริงสิ่งเสมือนดูเลื่อนลอย
โน่นก็ด้อยด้วยคุณค่าสังคมไทย

ที่ว่าดีที่ว่างามตามวิถี
ไหนว่าดีไหนว่างามขอถามไถ่
อันว่าดีว่างามตามเหตุใด
ดีตรงไหนงามตรงไหนอย่างไรกัน

เมื่อติดตามถามหาซึ่งเหตุผล
ปัญญาชนใต้ความชังยังดื้อรั้น
กากความคิดอวิชชามาฟาดฟัน
ถึงทางตันก็ตอบโต้ท้าต่อยตี.....

วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555

.....ใจคน-1.....2.....3.....4.....5.....

.....ใจคน-1....,ด้วยรักและบูชา.....
มอบชีวิตจิตวิญญาณคลานไปกราบ
ยอมนบนอบหมอบราบด้วยซาบซึ้ง
แต่น้อยเนิ่นนานมายังตราตรึง
ระลึกถึงซึ่งคุณงามและความดี

.....ใจคน-2.....ด้วยศรัทราบนความเชื่อ.....
ขายชีวิตจิตวิญญาณคลานไปกราบ
จงนบนอบหมอบราบด้วยซาบซึ้ง
คำสั่งสอนอ้นป้อนไว้ให้ตราตรึง
ผู้เป็นหนึ่งในนิยามคุณความดี

.....ใจคน-3.....ด้วยความรักและหลงใหล.....
ขายชีวิตจิตวิญญาณคลานไปกราบ
จงนบนอบหมอบราบด้วยซาบซึ้ง
ทุกข้อความโฆษณาติดตราตรึง
เป็นที่พึ่งพักพิงทุกเพลา

.....ใจคน-4.....ด้วยความนัยซ่อนเร้น.....
ขายชีวิตจิตวิญญาณคลานไปกราบ
ยอมนบนอบหมอบราบแกล้งซาบซึ้ง
คำสั่งสอนพรใดๆไม่คำนึง
เพียงหวังพึ่งพักพิงพวกของกู

.....ใจคน-5.....ด้วยเสรี.....
มิอาจขายจิตวิญญาณคลานไปกราบ
มิอาจยอมหมอบราบแกล้งซาบซึ้ง
ด้วยศักดิ์ศรีสอนใจให้ดื้อดึง
ไม่หวังพึ่งฟ้าฝนดลบันดาล

๖ ตุลาคม ๒๕๑๙

เมื่อความเลวระยำถึงกำหนด
ร่วมกันปลดกำหนัดความบัดสี
ทั้งส่ำสัตว์ทุกสายพันธุ์บรรดามี
รวมภูตผีปีศาจอันเลวทราม

มารวมหมู่มุ่งหมายทำลายล้าง
บนหนทางในแดนดินถิ่นสยาม
ละโมบเกียรติละโมบกินละโมบกาม
ในนิยามชั้นชนคนระยํา

บรรเลงเพลงแห่งพรายอันร้ายกาจ
เสียงดนตรีปีศาจซัดกระหน่ำ
เพรียกผีห่าภูตพรายมาร่ายรำ
ประกายแสงสีดำขับทำนอง

ปวงประดาสาวกยินแว่วเสียง
ต่างพร้อมเพรียงพร่ำเพรียกเรียกพวกพ้อง
ระริกร่านเริงระบำอันเรืองรอง
อึกทึกกึกก้องแดนโลกันต์

วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555

ยุติ-ธรรม >>> ธรรม-ยุติ

เมืี่อหมู่มารจารกฎหมู่เป็นกฎหมาย
แล้วทำลายสิทธิเสรีที่มีอยู่
เป็นหน้าที่ของใครต้องไปดู
ทุกมาตราต้องรู้แลเข้าใจ

เขียนกฎหมู่ กฎหมา มากดขี่
ยุติ-ธรรม ย่ำยีแลยัดไส้
สร้างมาตราว่านี้คือความเป็นไทย
เอกลักษณ์หลงใหลในละคอน

พิจารณาว่าความตามหนังสือ
ด้วยยึดถือคุณธรรมอันสำส่อน
พื้นความคิดผิดหลักหลายวรรคตอน
แล้วิเยียดความยอกย้อนเกินบรรยาย

กอดที่รักผลักที่เกลียดแล้วเสียดสี
เส้นระหว่างทางดีแลทางร้าย
สะพานข้ามความเป็นแลความตาย
ใต้กำหนดกดหมายกำมะลอ

ยุติ-ธรรม ตอกย้ำ ธรรม-ยุติ
ยังเหลือเพียงเสียงตำหนิแลตัดพ้อ
สวนกระแสสรรเสริญแลเยินยอ
เสียงก่นว่าด่าทอดังทั่วเมือง

วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555

อวยวันละนิดจิตแจ่มใส

ได้โปรดช่วยอวยกันวันละนิด
บำรุงจิตบำรุงใจใสสว่าง
ลบเงามืดมัวหม่นบนหนทาง
เพื่อเสริมสร้างปุญญาปารมี

ได้โปรดช่วยอวยกันวันละหน่อย
เรายังคอยความหวังในวันนี้
มาร่วมอวยด้วยกันจะได้ดี
ชวนเพื่อนพ้องน้องพี่พร้อมเพรียงกัน

ได้โปรดช่วยอวยกันวันละนิด
เติมความคิดตามจิตใจที่ใฝ่ฝัน
ร่วมกันอวยด้วยความสุขทุกคืนวัน
แลแบ่งปันสรรสร้างหนทางอวย

ได้โปรดช่วยอวยกันวันละหน่อย
มาเรียงถ้อยร้อยวจีที่สุดสวย
ทุกเวลาทุกนาทีที่อำนวย
จะรุ่มรวยด้วยรักนิรันดร

“วิชากู”

๏มีเพื่อนนักวิชาการผ่านมาเยี่ยม
ความรู้เทียมเท่าฟ้านภาใส
ผู้ปราดเปรื่องปัญญามากจากแดนไกล
มหาลัยต่างยกยอว่ายอดคน

๏แต่หลงผิดติดในชื่อแถมดื้อรั้น
อุดมการณ์แสนสั้นนั้นสับสน
ล้นระดับที่เรียกว่าปัญญาชน
ได้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์มานานปี

๏"วิชา" ใหม่ได้ฟังเพื่อนสั่งสอน
แต่กาลก่อนไม่เคยเห็นเป็นเช่นนี้
ความหลงใหลในศรัทธาบารมี
เป็นเสาหลักแลศักดิ์ศรีแห่งสังคม

๏เป็น"วิชา" แก้ความถูกให้เป็นผิด
เติมความคิดลงไปให้เหมาะสม
ความถูกต้องที่ทั้งผองชนชื่นชม
ต้องเลิกล้มรวนไปในพริบตา

๏เป็น"วิชา" แก้ความผิดให้เป็นถูก
ที่เพาะปลูกลงไปในเนื้อหา
ความถูกต้อง เติบโตขึ้นทันตา
ให้เห็นว่านั่นแลถูก ที่ปลูกไว้

๏เป็น"วิชา" บ้าใบ้ให้คนหลง
ให้ศิษย์งง ง่วงงุน ต้องคุณไสย
เป็นสีขาว เทา ดำ ได้ดั่งใจ
สำเร็จไปเป็นทาสไพร่ในแผ่นดิน

๏เป็น"วิชา" ปกป้องเหล่าผองเพื่อน
เป็นเสมือนเกราะแก้วกำบังสิ้น
มิตรสหาย บริสุทธิ์ดุจองค์อินทร์
รอยมลทินไม่แต้มติดสักนิดเดียว

๏เป็น"วิชา" ช่วยเหลือเพื่อเพื่อนพ้อง
เพราะเพื่อนต้ององอาจฉลาดเฉลียว
เพื่อนจะผิดได้อย่างไรไม่ได้เชียว
จะแก้เกี้ยวกู้หน้าไปไม่อับจน

๏เป็น "วิชา" แก้ตัวมั่วไปได้
มาท่าไหนไปทุกท่าน่าฉงน
จะแก้ผ้าเอาหน้ารอดร่านทุรน
ความหน้าด้านหน้าทน ไร้เทียมทาน

๏เพียงได้ฟัง ยังอดสู ดูบัดสี
"วิชา" นี้ ที่สดับฟังขับขาน
จากปากคำของ “นักวิชาการ”
ใส่วิญญาณผีห่า “วิชากู”

วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2555

สัตว์สังคมตอแหล




สัตว์สังคมตอแหลและรุ่มร้อน
จะกินนอนก็มิได้ดั่งใจหวัง
ระริกร่านร้อนทุรนดันทุรัง
จึงคลุ้มคลั่งคับแค้นแลขัดเคือง

เอาความคิดริษยามาตอแหล
รวมหนุ่มสาวเฒ่าแก่มาก่อเรื่อง
เกิดสลิ่มมากล้นชุมชนเมือง
เป็นนิยามความรุ่งเรืองสัตว์สังคม

ยามร้อนแรงแสงแดดเริ่มแผดเผา
สลิ่มใหม่สลิ่มเก่าเข้าผสม
ขุดความคิดริษยาเป็นอารมณ์
แล้วร้องไห้ร้องห่มใต้ร่มเงา

โอ้อกอนิจจาสลิ่มเอ๋ย
ไฉนเลยอาละวาดด้วยขลาดเขลา
สร้างสายธารการศึกษาปัญญาเบา
ด้วยมัวเมาหลงเหล่าแลเผ่าพันธุ์

ประชาชนบนสิทธิขั้นพื้นฐาน
จะพิจารณ์การคิดต่างอย่างสร้างสรร
สลิ่มดื้อกลับถือดีเข้าดึงดัน
แล้วคาดคั้นถือความเก่าเข้าต่อกร

เพราะไม่ใช้ปัญญามาพินิจ
จึงยึดติดตอกย้ำคำสั่งสอน
แล้วโอดโอยโหยไห้ใจอาวรณ์
จะขาดรอนด้วยรักแลดักดาน

ไม่ยั้งคิดพิจารณาดั่งบ้าใบ้
ความเป็นไปไร้รากแลหลักฐาน
นั่งคุดคู้ดูเอเอสทีวีผู้จัดการ
แล้วก็อ่านไทยไพสท์ไปวันวัน

เป็นคนดีมีความรู้ดูแนวหน้า
ตื่นขึ้นมา หาลิเกย์เดอะเนชั่น
เปิดโซเชี่ยลมีเดี่ยด้วยเมามัน
ตอบสนองความกระสัน.....ก็สุขแล้ว


วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

คนสั่งฆ่าประชาชนยังคงอยู่

วาทกรรมซ้ำๆย้ำสมอง
แล้วแหนแห่แซ่ซร้องสรรเสริญ
เริ่มกริ่งเกรงด้วยขลาดกลัวเขาเก่งเกิน
จึ่งขัดขวางทางเจริญให้อับจน

ประจงสร้างภูตผีและปีศาจ
ว่ามีฤทธิ์ร้ายกาจเลวเหลือล้น
เข้าโกงกินทรัพย์สินแห่งปวงชน
แลยักยอกหลอกปล้นปวงประชา

แท้ภูตผีที่เห็นที่เป็นอยู่
ห่มอาภรณ์งามหรูระเริงร่า
เสียงปืนไฟส่องไพร่ดับเห็นกับตา
ชีวิตไพร่มันไร้ค่ากว่าอาคาร

ตุลาการวิบัติก็ขัดข้อง
พลเมืองชั้นสอง-คำสั่งศาล
ก่อการร้ายภายใต้กฎหมายมาร
กำกับโดยเผด็จการทหารไทย

คนสั่งฆ่าประชาชนยังคงอยู่
ยังชมชอบชื่นชูหรือไฉน
ต้องบาดเจ็บล้มตายอีกเท่าใด
ฤาล้างไพร่ให้สิ้นแผ่นดินทอง

คนสั่งฆ่าประชาชนยังคงอยู่
ทั่วทั้งโลกรับรู้ใครเกี่ยวข้อง
ฤาดิ้นรนพ้นกรรมตามครรลอง
สิทธิ์ครองครองก็แค่เถ้าธุลีดิน

คนสั่งฆ่าประชาชนยังคงอยู่
ทั้งโลกจ้องมองดูก็รู้สิ้น
ฆาตกรมือเปื้อนเลือดยังรินๆ
จะผกผินพลัดพรากจากนาคร

คนสั่งฆ่าประชาชน

คนสั่งฆ่าประชาชนยังเชิดหน้า
ถ้อยวาจาเจ็บแสบแลเสียดสี
กำหนดเป็นนิยามแห่งความดี
ด้วยคุณค่าบารมีพญามาร

คนสั่งฆ่าประชาชนยังแช่มชื่น
ทุกวันคืนคิดคำเพื่อขับขาน
ซากโสมมห่มธรรมตามตำนาน
ที่เกาะกุมเผด็จการด้วยเล่ห์กล

คนสั่งฆ่าประชาชนยังเชือดเฉือน
กาลผ่านเดือนผ่านปีมีสุขล้น
ด้วยสวรรค์บันดาลจากเบื้องบน
ไม่รู้จนไม่รู้เจ็บไม่รู้จำ

คนสั่งฆ่าประชาชนยังเชิดหน้า
ซ่อนดวงจิตริษยาอันลึกล้ำ
ยังหลบหลีกเร้นกายใต้เงาดำ
เรียบเรียงร้อยถ้อยคำอ้างบุญคุณ

คนสั่งฆ่าประชาชนยังแช่มชื่น
อำนาจปืนและอาญามาเกื้อหนุน
ครองสถาน การทุกแห่งเป็นแหล่งทุน
ที่เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันมานาน

คนสั่งฆ่าประชาชนคนในชาติ
ป่าวประกาศจะปองรักสมัครสมาน
จงปรองดองเปลื้องทุกข์สุขสราญ
ให้จงรัก.....ดักดาน.....นิรันดร...........

รัฐประหาร

รัฐประหาร
โดยสันดานอำมาตย์อันยิ่งใหญ่
เคยครอบครองทั่วท้องถิ่นแดนไทย
เห็นทาสไพร่เปลี่ยนไปจะได้ดี

ยึดอำนาจ
ข้าไพร่ทาสทุรยศเคยกดขี่
อธิปไตยแห่งไพร่ทาสไม่อาจมี
ปฐพีผืนนี้ต้องธำรง

อำมาตย์ มหาอำนาจแห่งกฎหมู่
รัฐธรรมนูญสวยหรูแลสูงส่ง
อำนาจอธิปไตยทำลายความมั่นคง
จำจะต้องปลดปลงและเปลี่ยนแปลง

ลากตั้ง
ด้วยความหวังเพื่อสร้างอำนาจแฝง
ทำลายล้างให้สิ้นไปพวกไพร่แดง
จึ่งยุแย้งแตกแยกจนยับเยิน

กฎหมาย กฎหมา กฎหมู่
ทั้งกดขี่ข่มขู่ไม่ขัดเขิน
ตรากฎหมายทำลายล้างทั่วทางเดิน
อำนาจอันล้นเกินเจริญใจ

ยึดอำนาจ
ป่าวประกาศปลดรัฐบาลไพร่
ใช้อาญา-หมาหมู่ กู้ชาติไทย
กำเนิดรัฐจังไรใต้ร่มธง

คำสั่งให้สังหาร
ยุทธการจากผ่านฟ้ามาราชประสงค์
กระสุนจริงยิงไพร่ให้ปลิดปลง
จะล้มลงเท่าไหร่ไม่สำคัญ

คนสั่งฆ่ายังลอยนวล
หัวเราะร่วนเริงรื่นชื่นสุขสันต์
ตุลาการวิบัติเบี้ยวบิดพลัน
แล้วยืนยันกฎหมา มาคุ้มครอง

สังคมที่เคารพ

สังคมที่เคารพ
จงสงบเสงี่ยมเจียมตัวไว้
กราบซากอารยะธรรมด้วยจำใจ
ต้องนบน้อมยอมกราบไหว้ นั่นผู้ใหญ่นะมึง!

ผู้ใหญ่
จะเลวชั่วปานใด ไม่ต้องพูดถึง
ความเหี้ยมมหาโหดโดดเด่น ดังลั่นน่าพรั่นพรึง
อย่าคิด อย่าพูด อย่าคำนึง มันผิดประเพณี

สังคมที่เคารพรัก
จงตระหนักว่าในตอแหลแลนด์ดินแดนนี้
เต็มไปด้วยทุกสิ่งอย่าง ที่เขาสั่งว่าดี
อย่างี่เง่าเซ้าซี้ให้รำคาญ

คนดีๆ
เพราะเขาบอกว่าดี มึงอย่าเสือกคัดค้าน
ใครบอกพวกมึงว่าเขาเป็นเผด็จการ
เขาเพียงรักษ์บ้านแลเหล่าวงศ์วานว่านเครือ

สังคมที่เคารพรัก
จงตระหนักในนิยามของความเชื่อ
ด้วยศรัทรามากล้นจนเหลือเฟือ
จงเป็นสุขทุกเมื่อสังคมเมือง

ตามก้นฝรั่งทำไม

ตามก้นฝรั่งทำไมมันดีแค่ไหน.....ประเทศไทยสูงยิ่งเป็นยอดแล้ว
จีนแขกพม่าลาวเขมรแกว.....ต้องงอนง้อต่อแถวมาทำตาม

บ้านก็ขีดเขียนสร้างเลียนแบบฝรั่ง.....แล้วใครมั่งมีเรือนไทยใคร่ขอถาม
เครื่องเรือนอันหมดจดแลงดงาม.....ทุกสิ่งตามอย่างฝรั่งช่างรื่นรมย์

เสื้อกางเกงกระโปรงชั้นในชั้นนอก.....ทุกสิ่งบอกนิยามความเหมาะสม
มองทางไหนใครๆชื่นใครๆชม....,ตามสมัยนิยมอย่างสากล

ทั้งข้าวปลาอาหารอันเลิศรส.....รับกันหมดไม่แบ่งแยกทำหน้าย่น
ไทยจีนแขกฝรั่งญี่ปุ่นญวนลาวปน.....เอร็ดล้ำอร่อยล้นนะคนไทย

แม้นเจ็บไข้ได้ป่วยไปหาหมอ.....ต้องไปง้อนั่งรอแพทย์แผนใหม่
ตำรับตำราวิชาหยูกยามาจากแดนไกล.....สมุนไพรอยู่ที่ไหนไม่เหลียวแล

ยานยนต์ที่ทุกคนใช้ขับเคลื่อน.....ดูไม่เหมือนดูไม่ใช่ของไทยแท้
แลเห็นเกวียนเก่าๆเจ้าเชือนแช.....โอละแม่โอละพ่อขอบอกลา

อนุบาลประถมมัธยมมหาวิทยาลัยในประเทศ.....ล้วนวิเศษยิ่งใหญ่ในโลกหล้า
หลักสูตรครูอาจารย์ตำรับตำรา.....เดินทางมาจากแคว้นแดนฉิมพลี

แว่นตานาฬิกาปากกากระเป๋า.....โทรศัพท์แช็ทเม้าท์เครดิตคาร์ดมันนี่
คอมพิวเต้อร์วิทยุเครื่องเสียงและทีวี.....ไฟแช็คบุหรี่หมากฝรั่งลูกอม

กล้องวิดีโอกล้องถ่ายรูปอันรุ่มร่าม.....จะเดินตามฝรั่งไปไม่เหมาะสม
เป็นไทแท้ก็แค่ได้ใส่อารมณ์.....เพียงแค่ข่มคนอื่นก็ชื่นใจ

ทั้งศาสตราอาวุธอันวิเศษ…..เข่นฆ่าไพร่ในประเทศท่านรู้ไหม
ยานเกราะรถถังปืนไฟ…..จะมีความเป็นไทยที่ไหนกัน

และเรือบินเรือเหาะอันหดเหี่ยว…..เครื่องตรวจระเบิดบิดเบี้ยวแท่งหฤหรรษ์
ลูกระเบิดสังหารแกสน้ำตาระเบิดควัน…..ของฝรั่งทั้งนั้นจัดสรรกันมา

เรือรบเรือลาดตระเวนทั้งเล็กใหญ่…..แล่นบนน่านน้ำไทยไปทั่วหล้า
ระเบิดน้ำตอร์ปิโดปืนจรวดรวดเร็วทันตา…..ฤาผลิตโดยเทวดาจากป่าหิมพานต์

ภูมิอกภูมิใจในวัฒนธรรมอันล้ำเลิศ.....ที่ก่อเกิดจากรากเหง้าดังเล่าขาน
จากอัลไตสุโขทัยลพบุรีอยุธยามาแสนนาน.....ธนบุรีรัตนโกสินทร์สถานพิมานแมน

หลายหลากมากชาติเชื้อร้อยชนเผ่า.....รวมกันเข้าเป็นไทวิไลแสน
ขนบธรรมเนียมประเพณีในดินแดน.....รวมหลากแคว้นหลายเหล่าร้อยเผ่าพันธุ์

เฮ้ย! พวกมึงเป็นคนไทยหรือปล่าววววว?.....ตะโกนร้องอย่างปวดร้าวแลกระสัน
ด้วยความดื้อถือดีและดึงดัน.....เห็นต่างกันก็ต้องไล่ให้พ้นแดน

วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

"ไม่รัก"

ความ "ไม่รัก" เป็นเรื่อง ให้เคืองขัด
ความกำหนัดกำหนดให้ ได้ทุกสิ่ง
ความเห่อเหิมเติมแต่งแต้มความจริง
ความย่ามใจลากให้ดิ่ง สู่หลุมดำ

ความดึงดื้อถือดี ว่ามีศักดิ์
คน "ไม่รัก" ก็ทำร้ายทำลายซ้ำ
ก็เพราะเห็นว่ามันเป็น "คนระยำ"
จึงเหยียบย่ำด้วยอำนาจอันเหลือล้น

ความละโมบโลภมาก ไม่สิ้นสุด
ไม่เคยหยุดไม่คิดยั้ง ยังหวังผล
ทำลายคน "ไม่รัก" สักกี่คน
เห็นไพร่ฟ้าประชาชนเช่นสัตว์เลี้ยง

ความโหดร้ายเลือดเย็นได้เห็นสิ้น
ทั่วแผ่นดินกู่ก้องร้องสุดเสียง
ไพร่แค่ขอความหวังในวังเวียง
ได้รับเพียง "คนระยำ" เพราะ "ไม่รัก"

เทวดาพยายาม

เทวดาพยายาม...จะตามสมัย
สร้างเว็บไซ้ท์แล้วสุมกันสรรเสริญ
ช่วยยกยอปอปั้นกันเหลือเกิน
เทพก็เพลินจำเริญใจในคำยอ

ทำแต่น้อยพูดแต่มากไม่อยากเถียง
แจ้วจำเรียงเสียงแจ๋ว แจ๋วจอจ้อ
ชีวิตไพร่ตั้งแต่ไหนไม่เพียงพอ
ทั้งชาตินี้มีไหมหนอจะพอเพียง

ทั้งเทวาเทวีมีอิทธิฤทธิ์
บันดาลผิดเป็นถูกแล้วห้ามเถียง
บันดาลถูกเป็นผิดเพราะลำเอียง
มิสนใจในเสียงแห่งไพร่ฟ้า

เมื่อศรัทราเสื่อมถอยถึงที่สุด
ยังไม่หยุดสร้างเรื่องร้ายคล้ายคนบ้า
นี่ละหรือคือเทวีและเทวา
เริ่มหมดท่าเพราะศรัทรานั้นเสื่อมลง

ในน้ำมีปลา-ในนามีข้าว-ไพร่ฟ้าหน้าใส-อุกาฟ้าเหลือง-ในเมืองมีปืน

ในน้ำมีปลา
เสียงตาอิน-ตานา ทะเลาะลั่น
มิอาจยอมพร้อมใจจะแบ่งปัน
พุงมันๆ
ตาอยู่อมสมอุรา

ในนามีข้าว
เป็นเรื่องราวโบราณนานหนักหนา
เป็นตำนานเล่าขานกันสืบมา
ว่า ข้าว-ปลา อุดมสมบูรณ์ดี

ไพร่ฟ้าหน้าใส
เป็นสุขในขวานทองของเรานี้
ก็พออยู่ พอได้ ไม่มั่งมี
มิได้เป็นเศรษฐีกันทุกคน

อุกาฟ้าเหลือง
ผีห่ากินสิ้นเปลืองยิ่งกว่าปล้น
ผู้ปกครองคอยกำกับด้วยเล่ห์กล
แบ่งโภคผล เพื่อพวกพ้อง เกินพอเพียง

ในเมืองมีปืน
ไพร่ขัดขืนก็ฆ่าไพร่ไม่ต้องเลี้ยง
กำปะนาทเสียงปืนดังทั่ววังเวียง
อธิปไตยร่วมเตียงกับความตาย

ประชาธิปไตย
ซุกอยู่ในซอกหลืบความเลวร้าย
แล้วคุยโอ่อวดอ้างช่างน่าอาย
โง่ประสมความงมงายสัตว์กลายพันธุ์

เสรีภาพ
ถูกล้อมปราบ ปืนเล็ก-ใหญ่ ปืนยาว-สั้น
สรรพาวุธนานามารวมกัน
เพื่อชนชั้นศักดินา มหาโจร

ราชประสงค์

ความจริงที่พานพบ
เชิญทุกท่านเคารพความคลื่นไส้
มหานครวิปริตแล้วจิตใจ
บันทึกไว้ประจานแดง จลาจล

บัณฑิต มหาบัณฑิต ดุษฎีบัณฑิต เพียงชื่อ
สิ้นคิดฤาสมองหก หายตกหล่น
สารพัดสีสัน พิสดาร พิการพิกล
กำหนดค่าความเป็นคนด้วย อาคาร

เหวยเหวยนักรบผู้กล้า
เพียงเสื้อผ้า โฆษณา กูทหาร
ประทับปืนกระชับพื้นที่กระทำการ
ไพร่ราษฎร์คือผู้รุกราน จราจร

เฮ้ย!...รถติดนะโว้ย!...
เสียงโอดโอยชนชั้นนำผู้สำส่อน
ปฏิบัติการทวงคืน มหานคร
ราชประสงค์กวาดต้อนด้วย ความตาย

.....................................................

91 ศพ
กับหลายร้อยชีวิตข้างหลัง
2000 ผู้บาดเจ็บ
กับหลายล้านความหวังในเสรีภาพ

ไปราชประสงค์ เพื่อให้การเป็นไป ตามชื่อสี่แยก
มีคำถามต่อมาว่า "ประสงค์อะไร"
คำตอบคงไม่ใช่ "ประสงค์ หน้าแหลมฟันดำคนนั้น"

Year end.....

Think again
I've got some small blessing for friends
My wishes may never will be true
But I will make a wish for you

Before New Year
You have to stop your pain right here
Your suffering stay put along the path
You'll keep your hope with bravest heart

New Year coming now
Year have to come some way some how
The brightest light may seems so far
We'll see it clearly from ajar

Best wishes to you all
We'll wait and see the Tyrant fall
Your wisdom shine over this land
Democracy be in our hands

...................................................................
Year end 31-12-2553
May the force be with you always
(Master Yoda)
...................................................................

Year end .....


Year end
We've learned some lessons comrade n friends
Our hunger for freedom will always be
Won't let the murderers walk free

Another day
This bloody year will pass away
The coming year shorten our lives
For our children we'll sacrifice


Year end


For those who lived their lives in pain.
I wish they'll have a chance to start
The coming year with their braved hearts.

Long ago
Our freedom stuck inside black hole
Dim light sometimes are coming through
The hope still grow for me and you

This year
Our wisdom guided us with no fear
The coming light are growing bright
We Prais are know what is our Rights.

Lesson we've learned
Rewarded the most precious we've earn
Illusion picture painted in the sky
The truth is nothing just some wry

New Year
The passing days we'll going near
Our explicit goal become more bold
Away from "things" what we've been told

New Hope for us all
Happened here, now, when freedom called
The faked one someday may died
But not the freedom that we've tied

Friends
The tyrant going to the end
Will pass away with all those sin
No more next one, no heir, no kin

อุทกภัยตามใบสั่ง

เกิดอุทกภัยตามใบสั่ง
จากความคิดคลุ้มคลั่งและเคืองแค้น
เมื่ออุกาฟ้าเหลือง ณ เมืองแมน
เคยยิ่งใหญ่ในดินแดนเทวดา

ครั้นอำนาจอันเคยมีไม่จำกัด
เริ่มถูกวัดด้วยใจไททั้งหล้า
คำสอนสั่งที่ปลูกฝังครั้งนานมา
เกิดคำถามตามปัญญาประชาชน

เมื่อสิทธิเสรีที่เคยได้
ถูกจอมมารจัญไรใช้มาปล้น
ไม่เคยคิดคุณค่าความเป็นคน
จึ่งพลิกลิ้นสร้างเล่ห์กลบนความตาย

กี่ร้อยพันชีวิตจึงคิดออก
กี่สิบร้อยลวงหลอกด้วยเล่ห์ร้าย
กี่ร้อยพันหลุมพรางไร้ยางอาย
อีกกี่สิบความฉิบหายให้เจ็บจำ

เมื่อสามัญสำนึกในดวงจิต
เกิดความคิดครวญใคร่ได้ตอกย้ำ
แยกเลว-ดี ที่ผลงานการกระทำ
แยกสูง-ต่ำ ตามที่เห็นที่เป็นจริง

เกิดอุทกภัยตามใบสั่ง
จะเม้มมิดปิดบังยังยากยิ่ง
เพียงเสียงเพรียกเรียกไพร่ฟ้ามาพึ่งพิง
จึงทำลายทุกสิ่งที่สร้างมา

ไพร่ทรยศ

สถิตสถานพิมานเมฆอันมืดมิด
เฝ้าครวญคร่ำครุ่นคิดด้วยคับแค้น
แต่ก่อนมา ข้าทาสไพร่ ในดินแดน
เฝ้าแห่แหนห้อมล้อมและบูชา

มิต้องบีบบังคับให้เคารพ
ก็ยินยอมน้อมนบกันทั่วหน้า
ทุกสถานตลอดกาลเนิ่นนานมา
ถึงเวลาสิ้นลงแล้วหรือไร

ผู้หาญกล้าท้าทายจะหมายแข่ง
มายื้อแย่งแบ่งรักหรือไฉน
ก็ผูกมัดรัดห่วงทุกดวงใจ
ข้าทาสไพร่ในแว่นแคว้นทั่วแดนดิน

จะไร้คนเคารพรักแล้วละหรือ
ความยอมรับนับถือฤาจะสิ้น
ที่นอบน้อมยอมถวาย กาย-ชีวิน
จะโบยบินบ่ายหน้าไปหาใคร

ให้เจ็บแค้นแน่นอกนรกสาป
พ้นรำพันพิลาปร่ำร้องไห้
หยาดน้ำตาคาค้างระหว่างใจ
ข้าทาสไพร่ทรยศหมดแผ่นดิน

จำรัก

ที่ลวงหลอกให้รักสลักจิต
มอบชีวิตมอบกายหลงตายเปล่า
ที่ปลูกรักปักไว้แต่วัยเยาว์
จนนานเนาวรู้ว่าเขานั้นหลอกลวง

จึ่งถอนจิตคิดใหม่จะไปจาก
แสนลำบากลำเค็ญด้วยเป็นห่วง
ชีวิตนี้ของเรา แต่เขาทวง
เอาเชือกบ่วงโซ่ตรวนมาตรึงไว้

ความที่คนเคยรักแล้วหักเห
ต้องรวนเรเซทรุดมิหยุดได้
ถูกห้ามปลงห้ามแปลงห้ามเปลี่ยนใจ
จงรักให้จวบจนตายสลายลง

จำต้องรักต่อไปในชาตินี้
หรือจะมีชาติหน้าอย่าลืมหลง
บังคับรักต่อไปให้มั่นคง
เสมือนธงแห่งรักปักวิญญาณ

สวรรค์จอมปลอม

ยามเย็นลมระรวยรื่นระลึกถึง
ครุ่นคำนึงความฝันอันสดใส
เป็นเด็กน้อยคอยเฝ้ามองฟ้าไกล
ทำอย่างไรจึงจะได้จับต้องฟ้า

ฟังคำสอนว่าสวรรค์นั้นอยู่สูง
นกยางยูงบินอย่างไรไม่เกินกว่า
เมฆใหญ่น้อยล่องลอยละลิ่วมา
คิดบังอาจปรารถนามาเชยชม

เมื่อเมฆอยู่ใต้ฟ้าพาฉงน
คิดเวียนวนหวังจะไป แต่ไม่สม
ผู้ใหญ่ก็ต่อว่าเราเขลาโง่งม
ปรารถนาเอาอารมณ์อันดื้อรั้น

ปีนเขาสูงเสียดเมฆมิครั่นคร้าม
ได้เดินตามถามผู้ใหญ่ในวันนั้น
หากนำทางปีนป่ายไปด้วยกัน
จะถึงทางสู่สวรรค์หรืออย่างไร

ผู้ใหญ่ยิ้มเยาะเย้ยเอ๋ยเด็กน้อย
สวรรค์สูงเกินสอยเกินสิ่งไหน
จักต้องมีคุณธรรมนำทางไป
บุญส่งให้เมื่อตัวตายวายชีวา

เถียงผู้ใหญ่ว่าตายไปคงไม่เห็น
สวรรค์เป็นอย่างไรก็ไร้ค่า
เมื่อคนตายสนิทต้องปิดตา
จะเห็นฟ้าเห็นสวรรค์กันอย่างไร

จากวันนั้นจวบวันนี้หลายปีผ่าน
ได้พานพบประสบการณ์โลกกว้างใหญ่
ได้มองโลกได้รู้เห็นความเป็นไป
ได้เรียนรู้ได้เข้าใจในความจริง

ได้มองดูได้รับรู้เรื่องหลายหลาก
ผ่านความสุขผ่านทุกข์ยากลำบากยิ่ง
รู้ว่าไพร่มีน้ำใจให้พักพิง
และทุกสิ่งบนสวรรค์นั้นจอมปลอม

ข้าแต่ศาล 4

ทั้งศาลสูงศาลต่ำทำศาลแตก
ตุลาแยกแหลกสะบั้นในวันนี้
ใช้สมองสองข้างสร้างวิธี
จะหลบลี้หนีความผิดที่คิดคบ

ยินเสียงดังฟังชัดยิ่งขัดหู
ใช้ความรู้มามาเล่นเพราะเจนจบ
เวทนา ข้าแต่ศาลที่เคารพ
เป็นซากศพนิติธรรมท่านย้ำคิด

ใช้ศาลเตี้ยใจต่ำในศาลสูง
มาชักจูงใช้กลยุทธทุจริต
ตุลาเกินเพลินในอิทธิฤทธิ์
วิปริตอำนาจนั้นขันชะเนาะ

ตุลาการวิบัติบรรลัยแล้ว
เป็นดั่งแก้วแข็งแกร่งแต่ก็เปราะ
จงเล่นพรรคพวกพ้องโดยจะเพาะ
อัญเชิญเกาะบัลลังก์ฝังชีวิต

ข้าแต่ศาล 3

ข้าแต่ศาลที่เคารพคบไม่ได้
ประเทศใครฤามิใช่ประเทศฉัน
ที่ก่อร่างสร้างแต่ดึกดำบรรพ์
ศาลที่เคยรู้กันนั้นเที่ยงตรง

ข้าแต่ศาลที่เคารพท่านสำราก
ไม่กระดากปากพาไปให้ลืมหลง
เคยท่องจำยุติธรรมต้องดำรง
แท้ก็ความมั่นคงของพวกกู

ข้าแต่ศาล 2

ข้าแต่ศาลที่รักและเคารพ
ข้าฯขอนบ นอบน้อมยอมกราบไหว้
สรรเสริญเยินยอขอเอาใจ
ท่านยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่ไร้เทียมทาน

ขอจุดธูปร้อยดอกมาบอกกล่าว
จานหวานคาวน้ำท่ากระยาหาร
จงเสวยให้เกษมสุขสำราญ
ให้ข้าทาสบริวารร่วมร้องรำ

ทั้งโขลงช้างฝูงม้าหามาให้
เพื่อเอาใจผู้ประเสริฐแสนเลิศล้ำ
ขอเมตตาข้าฯนี้ผู้มีกรรม
ผู้ต้อยต่ำเกิดใต้ผืนแผ่นดินทอง

มิได้เป็นราชการงานอำมาตย์
เสวยชาติข้างถนนให้หม่นหมอง
ยังหาเช้ากินค่ำตามทำนอง
อยู่บนสองมาตรฐานศาลริมทาง

ทั้งศาลเล็กศาลใหญ่ไม่ลบหลู่
แม้นไม่มีหัวหมูมาเคียงข้าง
จัดสำรับเข้าถวายไม่วายวาง
ไม่เอ่ยอ้างเอาบุญเอาคุณใด

ไม่คิดว่าไหว้ศาลก็มีเส้น
กระทั่งเห็นกับตาพวกขาใหญ่
มามือเปล่าเร่งเร้าเอาแต่ใจ
แต่กลับได้ความเมตตาศาลปรานี

ข้าแต่ศาล 1

ข้าแต่ศาลที่เคารพนบกราบไหว้
ประเทศไทยจะไปทางไหนท่าน
ทุกวันนี้เรามีเชื้อเผด็จการ
เข้ามาผลาญแผ่นดินถิ่นไทยงาม

ศาลท่านคิดอะไรไยนิ่งเฉย
ท่านละเลยหรือกลัวกริ่งเกรงขาม
หรือท่านพลั้งเผลอไปไม่ติดตาม
จึงมองข้ามความคับข้องของปวงชน

ก็ถวายธูปเทียนเวียนเซ่นไหว้
ทั้งข้าวตอกดอกไม้ไม่ขัดสน
เหล่าม้าช้างนางรำประจำตน
ทั้งไพร่พลคนรับใช้ไม่ขาดแคลน

ทั้งปราสาทอันสวยหรูดูวิจิตร
เนรมิตให้อยู่คู่ถิ่นแคว้น
ดั่งปราสาทบนสวรรค์วิมานแมน
ทั่วดินแดนท้าได้ใครเทียบทัน

แล้วท่านไยไม่คำนึงถึงพวกข้าฯ
อเนจอนาถอนาถาแทบอาสัญ
ทุกข์เทวษไร้แสงเดือนแสงตะวัน
ท่านรับใช้พวกมันได้อย่างไร

ท่านรองรับกับอำนาจเผด็จการ
เหล่าอำมาตย์สามานย์ท่านยอมได้
ท่านเคยเป็นเช่นเสาหลักประเทศไทย
มารับใช้พวกทำลายประชาชน

เป็นตรายางประทับรับระบอบ
ท่านคงชอบห้อยโหนกับโจรปล้น
ยุติธรรมจากศาลพิการพิกล
ไล่ให้พ้นจากบ้านศาลพระภูมิ

แดนตอแหลที่ควายหลง

เมื่อความคิดติดชนักปักไว้แน่น
ทั่วดินแดนตอแหลที่ควายหลง
ความคลุ้มคลั่งทั้งชีวิตไม่ปลิดปลง
ว่าอยู่ยั้งยืนยงอีกยาวนาน

เมื่อความรักปักกิเลสอันร้อนเร่า
กลางความเขลาความบ้าน่าสงสาร
เกิดความกลุ้มเกาะกุมตลอดกาล
เป็นภาพจินตนาการว่า กูดี

โลกทั้งโลกล่วงรู้ความลวงหลอก
เมื่อเปลือกนอกผุพังไปไร้ราศี
ที่หลอกหลอน-สอน-สั่ง ทั้งชีวี
ก็แค่ผีห่มผ้าเหลืองมาร่ายรำ

เวลาผ่านกาลผันถึงวันหน้า
เวทนาทุกข์บาปจะสาปซ้ำ
ก็เก็บไว้ให้พอที่ก่อกรรม
เรื่องทั้งหมดจะจดจำไว้ในใจ

เมื่อความรักหักหลบพบรักใหม่
เพราะเปิดตาเปิดใจให้สว่าง
ความรักเก่ายังเกาะไว้ไม่ปล่อยวาง
แล้วขุดล่อหลุมพรางสร้างนิยาย

ว่าแสนดี ล้านดี เป็นที่สุด
เกินมนุษย์ ปุถุชนคนทั้งหลาย
ยิ่งกว่าเทพ เทวดาปรากฏกาย
ซ่อนความเลวความร้ายใต้ผ้าคลุม

ยังละเมอเพ้ออยู่ว่ากูแน่
แดนตอแหลรุนแรงแลร้อนรุ่ม
รับไม่ได้ใครเดินหน้ามาชุมนุม
ต้องไล่ขับจับกุมจนฆ่าแกง

ก็ได้รู้ได้เห็นเป็นประจักษ์
ว่าความรักกลลวงเพียงลมแล้ง
มิรู้หรือสีเลือดก็สีแดง
คอยติดตามความเปลี่ยนแปลงกันต่อไป

ภาพยี่เก

ภาพยี่เกเร่ขายมาหลายสมัย
ประดับพวงมาลัยไว้ข้างฝา
โรยกากเพชรพราวพริ้งพรรณนา
ปิดทองเปลวปูชามานานปี

คอยเช็ดถูดูแลแต่วัยรุ่น
มิให้ฝุ่นจับต้องจนหมองศรี
ทั้งหยากเยื่อหยากไย่มิให้มี
มอบถวายชีวีแด่ยี่เก

จำเนียรกาลผ่านไปจนใกล้เฒ่า
กากเพชรก็ดูเก่าไม่โก้เก๋
ทั้งกรอบทองก็เริ่มโย้ดูโยเย
รำลึกแล้วก็รวนเรในเรื่องราว

ว่ายี่เกก่อนนี้ที่เคยหลง
ว่าสูงส่งสุกสว่างอยู่กลางหาว
เป็นยี่เกกลางฟ้าเหนือกว่าดาว
ปีติสุขทุกคราวเมื่อแหงนมอง

เมื่อปีผ่านนานไปก็ได้รู้
ที่ชมชื่นเชิดชูอยู่เต็มห้อง-
แห่งหัวใจโดยไม่ได้ตริตรอง
ไม่คิดข้องหมองใจแต่ไรมา

ถึงวันนี้ยี่เกก็คนเก่า
คนที่เราเคยรักเป็นหนักหนา
ทุกทุกสิ่งที่ซ่อนเร้นตลอดมา
ก็ได้เห็นเต็มตาเต็มหัวใจ

ทั้งลุงป้าน้าอามาไต่ถาม
ที่ฟังความมานั้นแน่ไฉน
ประวัติศาสตร์วาดเส้นความเป็นไป
จะอำพรางอย่างไรก็ไม่มิด

มองยี่เกภาพเก่าที่เรารัก
พบแววตาก็ตระหนักในดวงจิต
หลงกราบไหว้อ้อนวอน กว่าค่อนชีวิต
ได้รับรู้เราหลงผิดมานานแล้ว

สวัสดีคนไทยไม่เป็นไท

สวัสดีคนไทยไม่เป็นไท
อยู่แบบไหนก็แบบนั้นนะเจ้าค่า
ให้พี่น้องท่องจำตามตำรา
ร้องขอความเมตตาไปวันๆ

สวัสดีคนไทยไม่เป็นไท
ชีวิตเก่าชีวิตใหม่มันก็สั้น
แสวงหาอธิปไตยทำไมกัน
ก็อยู่ไปอย่างนั้นนั่นแหละดี

สวัสดีคนไทยไม่เป็นไท
อนาคตจะสดใสก็ใช่ที่
รู้ว่าเราเพียงเถ้าฝุ่นธุลี
อยากจะมีสิทธิเสรีนี้ไม่ควร

สวัสดีคนไทยไม่เป็นไท
ได้ประชาธิปไตยแบกแดกด่วน
ลากตั้งมาเห็นๆเป็นขบวน
จะรบกวนเสียงไพร่เกรงไม่พอ

สวัสดีคนไทยไม่เป็นไท
ดำรงชีพอยู่ในความทดท้อ
ท่องคาถาภาวนาว่าจงรอ
คอยความตายเถิดหนอจงพอเพียง

สวัสดีคนไทยและคนไท

สวัสดีคนไทยและคนไท
ความหวังเคยกรายใกล้ในวันก่อน
มีผู้นำที่ห่วงหาเอื้ออาทร
ราษฎรมีกำลังเริ่มสร้างตัว

สวัสดีคนไทยและคนไท
ฟ้าก็เย้ยไยไพแลยิ้มหัว
เสกเป่ามนต์ "ความจน" ต้อง อยู่ติดตัว
แสงฟ้าเริ่มสลัว สอนบทเรียน

สวัสดีคนไทยและคนไท
จนอย่างไรจนอย่างนั้นไม่ผันเปลี่ยน
ทนทุกข์ยากหนักหนาแทบอาเจียน
ก็วนเวียนวกวน จนเท่าเดิม

สวัสดีคนไทยและคนไท
ผู้ยิ่งใหญ่มิได้ส่งมิได้เสริม
มองดูเคราะห์ดูกรรมที่ซ้ำเติม
ท่านจึงเพิ่ม ภาระประชาชน

สวัสดีคนไทยและคนไท
อธิปไตยอยู่ที่ไหนไม่เห็นหน
เสรีภาพ และ สิทธิมนุษยชน
คงหายหกตกหล่นบนฟากฟ้า

สวัสดีคนไทยและคนไท
ยิ้มที่ขาดหายไปจากใบหน้า
เหลือเพียงคราบเขียวคล้ำปนน้ำตา
ทุกสิ่งเกินไขว่คว้า...พยายาม

สวัสดีคนไทยและคนไท
ยังอยู่สุขสบายไหมไม่กล้าถาม
เหลือเพียงทุกข์เทวษทั่วเขตคาม
ยิ้มสยามในความฝันอันลางเลือน

สมานฉันท์ 4

นิยามใหม่ของคำว่า "สมานฉันท์"
ราชบัณฑิต แล ราชบัณเฑาะว์ คงยังหาข้อสรุปไม่ได้
ด้วยนิยามใหม่นั้นขัดแย้งกับนิยามเก่าอย่างรุนแรง
เรียกว่า หากฆ่าได้ก็ต้องฆ่า

เสียงส่วนใหญ่เห็นว่า นิยามเก่าของคำว่า "สมานฉันท์" นั้น ผิด

การที่จะให้มวลมหาประชาไพร่ได้เข้าใจลึกซึ้งถึงคำว่า "สมานฉันท์"
ผู้หลัก ผู้ใหญ่ ผู้มีอำนาจ ผู้ปกครองประเทศ ต้องทำให้ดูเป็นแบบอย่าง

ดูแล้วจำใส่กระโหลกไว้นะ "ไพร่ฟ้าประชาชน"

สมานฉันสมานเธอสมานแผล
สมานข้าสมานแกสมานไหม
สมานกูสมานมึงสมานใคร
สมานไพร่สมานอำมาตย์ชาติจะดี

สมานอั๊วะสมานลื้อสมานหลอก
สมานนอกสมานใน อะไรกันนี่?
สมานผมสมานคุณ คงหลายปี
สมานเปรตสมานผีสมานพราย


ข้าพเจ้าไม่รู้จริงๆว่า เรื่องสมานฉันท์ นี่
เกิดก่อนที่ข้าพเจ้าจะบ้า หรือเกิดหลังจากที่ข้าพเจ้าบ้าไปแล้ว

สมานฉันท์ 3

สมานฉันท์กันเสียทีจะดีไหม
ทำอย่างไรที่เรียกขานสมานฉันท์
แบ่งฝักฝ่ายพวกใครก็พวกมัน
แบ่งแยกชั้นแยกรุ่นกันวุ่นวาย

รุ่นเตรียมห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ
ทั้งรุ่นแก่ไกลลิบทำชิบบหายย
รุ่นที่หลุดจากขั้วตัวอันตราย
ทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่รุ่นลายคราม

สมานฉันท์กันเถิดหนอข้าขอร้อง
อย่าเมียงมองถ้าสงสัยให้สอบถาม
จะปูผ้าหมอบราบกราบงามงาม
คดีความเหลืองยกฟ้องมิต้องกลัว

สมานฉันท์กันเถิดทั้งประเทศ
ไม่แบ่งเกรด รุ่น ชั้น มันเวียนหัว
เงินพร้อมสรรพรับรองว่าของชัวร์
แบ่งกันไปให้ถ้วนทั่วทุกตัวคน

มาขยับจับมือถือให้มั่น
สมานฉันท์กันเถิดจะเกิดผล
อย่าใส่ใจมดปลวกพวกคนจน
คลื่นใต้น้ำเวียนวนก็ช่างมัน

สมานฉันท์แต่เราเข้าใจไหม?
คนอยู่ไกลอย่ามาสมานฉันท์
มาโฉบเฉี่ยวเกี่ยวข้องต้องฟาดฟัน
ต้องยืนยันกันว่าอย่ามาเมืองไทย

อย่าเอ่ยชื่ออย่าออกนามอย่าถามถึง
รวมเป็นหนึ่งเฉพาะเราเข้าใจไหม
ปล่อยพวกบ้าเรียกหาประชาธิปไตย
ไม่เป็นไรเพราะเราคือผู้ถือปืน

สมานฉันท์ 2

จะบ่นว่าด่าทอก็เท่านั้น
เพราะพวกมัน ด้านแล้ว นะรู้ไหม
จะคัดค้านต่อต้านกันอย่างไร
มันก็แถทำกันไปไม่ใยดี

สมานฉันท์มันเรื่องเล่าหลอกหลอก
เห็นหางงออก ออกมาน่าบัดสี
ตะกละตะกราม ละโมบล้นจนอ้วนพี
ทรัพย์แผ่นดินที่มีคงหมดไป

สมานฉันท์กันเถิดเปิดขุมทรัพย์
มาช่วยนับจับแยกจำแนกไว้
แบ่งให้ดีนี่ของเธอหรือของใคร
แบ่งกันให้ยุติธรรมตามตำรา

ว่าด้วยสูตรเผด็จการตะหานเก่า
เมื่อหลงเข้าสู่อำนาจวาสนา
ใครคิดขวางอย่างไรไม่นำพา
เอาเค้กมาแบ่งกันให้บรรลัย

สมานฉันท์กันให้ดีนะพี่น้อง
พวกเราต้องปกปิดให้มิดไว้
ก็เพราะเรารักชาติจนขาดใจ
จึงต้องใช้งบประมาณบานบุรี

สมานฉันท์กันไปให้อิ่มหนำ
ช่วยกันทำช่วยกันกินทุกถิ่นที่
แม้จะเห็นทุกอย่างสร้างมาดี
ช่วยกันติช่วยกันตี ให้มันตาย

สมานฉันท์วันนี้ดีหนักหนา
ก็เพราะว่างบประมาณนั้นมากหลาย
มาช่วยกันจัดการให้กระจาย
เป็นคำตอบสุดท้ายเผด็จการ

สมานฉันท์ 1

สมานฉันท์กันเถิดหนาอย่าหลบหนี
สมานฉันซะดีดีนะพี่น้อง
สมานฉันกันตามกรรมตามทำนอง
สมานฉันปรองดองอย่างดุดัน

สมานฉันท์แล้วกระชับรุกขับไล่
สมานฉันท์กันเข้าไปให้สร้างสรร
สมานฉันท์ระเบิดไฟระเบิดควัน
สมานฉันท์สไนเป้อร์ปลอบประโลม

สมานฉันท์แล้วชักชวนให้เชื่องเชื่อง
สมานฉันท์สร้างเรื่องบรรลัยโหม
สมานฉันท์แล้วสร้างข่าวเล่าประโคม
สมานฉันท์แล้วจู่โจมจับจำเลย

สมานฉันท์แล้วก็ยันมันเข้าคุก
สมานฉันท์แล้วสนุกนะแม่เอ๋ย
สมานฉันท์มันเขี้ยวเหมือนอย่างเคย
สมานฉันท์กับกระเทยเฒ่ากาลี

สมานฉันท์กับอำมาตย์ที่ชาติชั่ว
สมานฉันท์ไม่ต้องกลัวเกรงศักดิ์ศรี
สมานฉันท์กันต่อหน้าแม่ธรณี
สมานฉันท์แล้วสาดสีตีให้ตาย

สมานฉันท์กับการข่าวแลกร้าวลึก
สมานฉันท์แล้วสร้างศึกบนเครือข่าย
สมานฉันท์บนไซเบอร์เบียดกระจาย
สมานฉันท์เว็บโวยวายทุกวี่วัน

สมานฉันท์กันเถิดจะเกิดเหตุ
สมานฉันท์ทุกประเทศทั่วเขตขันธ์
สมานฉันท์ชักลากคนมาลงทัณฑ์
สมานฉันท์เพื่อชนชั้นอันชั่วช้า

สมานฉันท์โลกจะพลันสุกสว่าง
สมานฉันท์ท่ามกลางความมุสา
สมานฉันท์สวรรค์ส่งความลงมา
สมานฉันท์เถิดไพร่ฟ้า............เป็นขี้ข้าตลอดกาลนานเทอญ

วิบากแห่งสังคมบ้า 4

วิบากแห่งสังคมบ้า
ไพร่ทนทุกขเวทนาฟ้าทอดทิ้ง
ก็ดีใจที่ได้รู้ความจริง
ทุกๆสิ่งที่เคยเห็นเป็นภาพลวง

นับแต่นี้
คงไม่มีฟ้าไหนๆให้ไพร่ห่วง
ความมุ่งมาดคาดหวังในทั้งปวง
จะพ้นบ่วงที่บีบรัดเต็มอัตรา

ทาสไพร่
ที่รวมใจให้ลูกหลานกาลข้างหน้า
นับถอยหลังใกล้แล้ววันเวลา
จะสิ้นสุดศักดินายุคสุดท้าย

มีความหวัง
การณ์ที่เห็นจะเป็นดั่งตั้งใจหมาย
ต่อลูกหลานผู้เรียกร้องต้องตกตาย
ยุติธรรมทั้งหลายได้กลับคืน

วิบากแห่งสังคมบ้า 3

วิบากแห่งสังคมบ้า
ปรารถนาอำนาจอันใหญ่ยิ่ง
ละเลยสิ้น ความผิด-ถูก-เท็จ-จริง
ด้วยอารมณ์จึงถ่มทิ้งยุติธรรม

เอาชนะเพียงคน จึ่งปล้นประเทศ
อ้างสาเหตุความฉิบหายจะกรายกล้ำ
คัดเลือกมาล้วนคนบ้า ร้าย ระยำ
พาตกต่ำทำอย่างไรก็ไม่ฟื้น

ความดึงดื้อถือดีว่ามีฤทธิ์
จึงดื้อทำดื้อคิดและแค่นฝืน
ตุลาการเหลวไหลไปกอดปืน
พกอาญามาข่มขืนประชาชน

วิบากแห่งสังคมบ้า
ปรารถนาราคะฤามากล้น
กระทำไป มิได้เห็นความเป็นคน
ราคาของคนจนจึงถูกลง

วิบากแห่งสังคมบ้า
ใช้วาจาพาใจจิตให้คิดหลง
วาทกรรมนำชาติดูอาจอง
เขาสร้างความมั่นคงด้วยน้ำลาย

กับพวกมึงไม้อ่อนออมชอมช่วย
แม้นเคราะห์หามยามซวยก็ไม่สาย
มึงเริ่มคิดบิดลิ้นก็สิ้นชาย
จงอุ้มกอดกันให้ตายไปข้างนึง

กับพวกกูไม้แข็งโทษแรงเหลือ
ทั้งตายเจ็บกันเป็นเบือกูซาบซึ้ง
ติดคุกกี่ร้อยคนบ่นอื้ออึง
จะตราตรึงติดใจไปชั่วกาล

วิบากแห่งสังคมบ้า
ใช้ปืนจริงไล่ยิง ไล่ฆ่า เหวยทหาร
ญาติผู้ใหญ่มึงอยู่ไปอีกไม่นาน
กูสั่งลูกสั่งหลานประจานมึง

วิบากแห่งสังคมบ้า 2

วิบากแห่งสังคมบ้า
สงบนิ่งอหิงสาก็ถูกสอย
จะร้องเรียกสิทธิเสรีที่รอคอย
ห่ากระสุนใหญ่น้อยให้จำนน

ธรรมนูญเสริมกำหนัดกำหนดไว้
สร้างคุณค่าประชาธิปไตยให้ท่วมท้น
ทั้งเลือกตั้ง ลากตั้ง อลวน
เกิดดวงตรามหาชนช่วยประทับ

ใช้สภาเป็นซ่องแสนทุเรศ
ทั้งภูต พราย ผี เปรต ไม้ประดับ
ปลูกฝักถั่วเป็นทิวแถวในที่ลับ
เห็นด้วยค่ะ เห็นด้วยครับ ดูสิ้นคิด

ใช้รถถังมาสังวาสกับสื่อเสี้ยม
ตุลาการก็ตระเตรียมคอยตามติด
ใช้อาญามาข่มให้จมมิด
ใช้อาวุธหยุดชีวิต “นิติรัฐ”

จงเลือกเป้าเอาเถิด...ทหาญกล้า…
ชาวประชาที่ท่านเห็นเป็นเยี่ยงสัตว์
เสรีภาพ อธิปไตย อัตคัด
พฤติกรรมย้ำชัดแยกชนชั้น

วิบากแห่งสังคมบ้า
ใต้อำนาจวาสนาเบื้องบนนั้น
เป็นเบ้าหลอมปวงกิเลสนับร้อยพัน
ดัชนีความกระสันนั้นแตกแล้ว

วิบากแห่งสังคมบ้า 1

วิบากแห่งสังคมบ้า
บนอัตตาท้าทายทำลายสิ้น
ความดื้อรั้นจึ่งเดิมพันเอาแผ่นดิน
ตวัดลิ้นพ่นลมแห่งความลวง

สำเร็จแล้วฤาความใคร่ได้เสพสม
บนความทุกข์ระทมที่ใหญ่หลวง
แห่งมหาประชาชนคนทั้งปวง
ที่ติดบ่วงในหลุมดำด้วยจำเป็น

แม้นปีนป่ายตะเกียกตะกายกันสุดฤทธิ์
บ่วงโซ่รัดแน่นสนิทนับร้อยเส้น
ชีวิตใต้หลุมดำ ช้ำ ลำเค็ญ
ได้รู้เห็น ก็ใจหาย แทบวายวาง

แหงนมองฟ้าแสงเจิดจ้าตาแสบร้อน
จะอ้อนวอนเวทนาจากฟ้าบ้าง
ฟ้าก็หม่นมืดมิดปิดหนทาง
แสงอันสุกใสสว่างจางหายไป

แม้นกริ่งเกรงก็มิอาจจะก้มหน้า
แหงนมองฟ้าบางคราฟ้าสดใส
ดูเหมือนว่าฟ้าจะปลอบประโลมใจ
เกิดความหวังครั้งใหม่ไม่สงกา

แหงนมองฟ้าเวลาสางฟ้าอ่อนแสง
สีส้มแดงดุจสวรรค์เหนือชั้นฟ้า
ภาพที่เห็นเช่นลำแสงแห่งเมตตา
เปี่ยมล้นกรุณาเกินกว่าใคร

จึ่งวางจิตวางใจให้กับฟ้า
เมฆใหญ่น้อยลอยมาเหมือนอยู่ใกล้
ครั้นเอื้อมมือไขว่คว้า...รู้ว่าไกล
ฟ้าอยู่ในภาพสวรรค์อันเรืองรอง

แหงนมองฟ้าหม่นมัวก็ตัวสั่น
ฟ้าพิโรธเลื่อนลั่นสนั่นก้อง
เมฆทะมึนมืดดำสร้างทำนอง
สายฟ้าฟาดตวาดร้องเริงระบำ

ฤาสำเร็จความใคร่ในธารเลือด
แผ่นดินเดือดท่านก็ด่าฟ้าผ่าซ้ำ
แผ่นดินไหม้ฟ้าใยช่างใจดำ
สร้างนิยามความระยำอันยอกย้อน

วิบากแห่งสังคมบ้า
ปรารถนาในอำนาจอันสำส่อน
ข้าทาสไพร่ฤามิใช่ราษฎร
รับสนองแก่นาครด้วยความตาย