ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ยังจำได้ไหม ถึงใครคนหนึ่ง

ยังจำได้ไหม ถึงใครคนหนึ่ง

ซึ่งเราเคยบอกว่า รัก รัก รักเท่าฟ้า..........

คนเหนือคนเปี่ยมล้น...กรุณา

นิยามว่าเกินกว่าความปราณี



ยังจำได้ไหม

ภาพยิ่งใหญ่ใสสว่างสลับสี

จำกัดความงดงามและความดี

ไม่อาจมีใดเทียบฤาเปรียบปาน



ยังจำได้ไหม

อธิปไตยใต้ร่มเงาที่เล่าขาน

สิทธิ์-เสรี ที่เรียกหามาเนิ่นนาน

ก็ได้รับ ประทานความระทม



ยังจำได้ไหม

เป็นครั้งที่เท่าไหร่ที่ถูกต้ม

ที่หลงเชื่อวาจาหลงคารม

ที่เขาสั่งให้สะสมความงมงาย



ยังจำได้ไหม

เรายินยอมพร้อมใจ ด้วยใจง่าย

สละเลือด สละร่าง สละกาย

เป็นเครื่องหมายความจงรักความภักดี



ยังจำได้ไหม

จำว่าใครทำร้ายเราวันนี้

แย่งความหวัง วันเก่าเราเคยมี

ความหวังที่เราตามไปใกล้ความจริง



ยังจำได้ไหม

คนย่ำยีหัวใจ ทั้งชายหญิง

ที่สูบเลือดเราเป็นเป็น เช่นทากปลิง

ที่สั่งยิงสั่งฆ่าประชาชน



ยังจำได้ไหม

ที่คนไทยคิดเติบใหญ่ ใครสั่งปล้น

ยึดอำนาจไปกี่ครั้ง ยังอดทน

เราเลือกคน เขาไล่คน ให้เราดู



ยังจำได้ไหม

ตุลาฯถูกหลอกใช้ ไม่เรียนรู้

อีกตุลาฯ เลือด-น้ำตา ก็พร่างพรู

พฤษภาฯ คิดว่าสู้ อยู่กับโจร



ถึงวันนี้

คงรู้ดีว่าใครใส่หัวโขน

เป็นพ่อพระห่มกิเลสไฟลุกโชน

เลวแต่ปลายยันโคน คนนั้นไง



จำได้หรือยัง

คนที่สั่ง สั่งฆ่า เห็นหน้าไหม

ทุกคนคงจดจำ จำฝังใจ

อยากเป็นไพร่ หรือเป็นไท ให้เลือกเอา

สาปส่งวันเกิด

แสบกระสันวันเกิดนะคนแก่
จงทดท้อป้อแป้.....แย่....ไอ้หยา
เป็นเคราะห์หามยามซวยด้วยเวลา
จึ่งแย่งแมวชิงหมา มาเป็นคน

แสบกระสันวันเกิดนะคนเก่า
เห็นเย่อหยิ่งอิงเจ้าก็หลายหน
วิปริตวิตถารพิการพิกล
ทั้งหน้าด้านหน้าทนไร้เทียมทาน

แสบกระสันวันเกิดนะคนแก่
จงพ่ายแพ้ผุพังละสังขาร
ได้เสพสุขทรัพย์สินศฤงคาร
กระทั่งบ้านไม่ซื้อหามันน่าอาย

แสบกระสันวันเกิดนะคนเก่า
ให้เนื้อหนังเปื่อยเน่าเสื่อมสลาย
ให้เคราะห์เบียดภัยเบียนจนเจียนตาย
ให้โรคร้ายรุมเร้าจวบเข้าโลง

ไม่มีชื่อ

จงขีดเขียนความงามอันโง่เง่า
จงละเว้นความเศร้าความเหงาหงอย
จงสรรเสริญความประเสริฐให้เลิศลอย
จงสำนึกความต่ำต้อยแห่งตัวตน


จงอย่าเขียนความงมงายอันงมโง่
จงอย่าถามความโทโสกิเลสล้น
จงอย่าร้องเรียกหาปัญญาชน
จงอย่าบ่น ยุติธรรมถูกรังแก


เขียนกี่บทกี่ความ ก็ตามเถอะ !
เมืองนี้มันเปื้อนเปรอะด้วยเงื่อนแง่
เสรีภาพแห่งไพร่ถูกลอยแพ
ไล่ฟ้องพ่อ-ฟ้องแม่กันล้นเมือง


อยากออกเสียงเพียงป้อง ปากกระซิบ
อยากเหลือบแลแค่ขยิบ ต้องยักเยื้อง
อยากเปิดหูยินปัญญามาประเทือง
อยากเปิดใจให้รับเรื่องทุกสิ่งสรร


เรียนวิชาอ่านตำราเป็นหน้าที่
บางสิ่งกลับลับลี้ สู่สวรรค์
เทวดากับคนอย่าปนกัน
จะอ้างนี่อ้างนั่น.....มันไม่ฟัง


นิดก็หมิ่นน้อยก็หมิ่นดั่งสิ้นคิด
ใต้มายาวิปริตเป็นบ้าคลั่ง
ขยายเล็กจนใหญ่ให้โด่งดัง
กดตาชั่งตราชูให้อยู่มือ


ก็งามหน้า.....ที่รักษามานานเนิ่น
ภาพที่เห็นเด่นเกิน กว่า นับถือ
ใต้ซากของความฝันนั้นก็คือ
เถ้ากระดูกคนดื้อโดยสันดาน

พักโฆษณา

โฆษณาเข้าไปให้ลือเลื่อง
ทั้งในเมืองนอกเมืองเป็นเป้าหมาย
ถ้วนทุกคนประชาชนหญิงและชาย
กระเทยงัวกระเทยควายก็ไม่เว้น

ทั้งทอมดี้ตี๋หมวยหรือแต๋วแตก
จะรุ่นแรกรุ่นหลัง รุ่นดังเด่น
รวมดารานักร้องรุ่นท็อปเท็น
สมัครเป็นพรีเซ็นเต้อร์ตามๆกัน

หนังสือพิมพ์พาดหัวตัวเท่าหม้อ
เพื่อร้องขอนิทานสมานฉันท์
ความสงบความสง่ากลับมาพลัน
ความสงัดเงียบงันจนงวยงง

วิทยุ ทีวี ช่วยตีข่าว
สมานความแตกร้าวช่วยไล่ส่ง
ต่างสำรากมุทะลุแล้วยุยง
สยามคงยิ้มได้ไม่อายใคร

เป็นรอยยิ้มสีเหลืองอันร้ายกาจ
วิปริตวิปลาสประโคมให้
แก่สังคมด้วยสังคังกำลังใจ
ความขัดข้องอันใดก็ไม่มี

โฆษณาเข้าไปให้ลือลั่น
ตลอดคืนตลอดวันมันเต็มที่
ตลอดวันตลอดเดือนตลอดปี
ทุกอย่างฟรีไม่มีอั้นไม่มีอาย

โฆษณาทั่วดินฟ้ามหาสมุทร
อย่าได้หยุดอย่าได้ยั้งทั่นทั้งหลาย
ให้บรรดาไพร่ฟ้า แลงัวควาย
จงมอบใจมอบกายมาตายแทน

แล้วสอบผลนับคนให้ถ้วนทั่ว
รวมทั้งงัวทั้งควายอีกหลายแสน
เรื่องที่โปรปะกันด้ามาทั่วแดน
ตอแหลแลนด์ยังมอบรักปักหัวจายยยยยย

พระเพลิง

พระเพลิงที่แผดเผา
จะเร่งเร้าสิทธิเสรี
ทวงคืนซึ่งความดี
อันถูกเบียดถูกบดบัง



หนึ่งไฟหนึ่งใจหาญ
เข้ารอนรานด้วยชิงชัง
จิตร่ำใจร้องสั่ง
ความโสโครกสลายลง



พระเพลิงที่แผดเผา
จะบรรเทาความลุ่มหลง
ความมานะทระนง
ที่เหยียบย่ำอยู่ร่ำไป



หนึ่งไฟหนึ่งใจหาญ
มิกราบกรานอำนาจใด
เขาร่ำลือ กูคือไพร่
ขอมอบไฟ ดัวยใจรัก



พระเพลิงที่แผดเผา
ละความเศร้าที่จมปลัก
แผ่นดินที่พำนัก
เคยแตกร้าวจักรื่นรมย์



ร้อยไฟล้านใจหาญ
จักเผาผลาญจึ่งสาสม
ปลดทุกข์เปลื้องระทม
อันเคียนคาดไพร่ทาส.....เทอญ.....

ในบรรยากาศ

แดดจ้าจนตาเจ็บ
กลับหนาวเหน็บอยู่ภายใน
เวิ้งว้างวุ่นวายใจ
นะครวญคร่ำคะนึงหา

เมฆบังหยุดยั้งแสง
ยังอ่อนแรงแลอ่อนล้า
ผิเลือดหลั่งทั้งกายา
สิจะผ่อนไป่นอนพัก

หนทางยังทอดไกล
จะร่ำไรนะเหนื่อยหนัก
เดินถามถึงความรัก
มิรู้เห็นว่าเหือดหาย

แดดจ้าจนตาเจ็บ
ยิ่งหนาวเหน็บยิ่งเดียวดาย
จะพักร้อนฤาผ่อนคลาย
มิอาจยั้งด้วยลมเย็น

ร้อนเร่าเข้าในอก
เดินคอตกเหงื่อกระเซ็น
แลไปก็ไม่เห็น
รึปลายทางถูกปิดแล้ว

บอกบุญ

เชิญร่วมบุญสุนทานงานยิ่งใหญ่
เราเกิดใน ตอแหลแลนด์ แดนสยาม
ต้องรักกัน ทุกหมู่ ทุกผู้ ทุกนาม
เอาเหอะน่า! พยายาม ก็แล้วกัน

ใครมีน้อย ทำน้อย ได้บุญน้อย
บุญจะค่อย งอกงาม ตามความฝัน
บุญเจ้าข้า อย่ายื้อแย่ง จงแบ่งปัน
ทำสองวันเว้นสามวันเท่านั้นพอ

ใครมีมาก ทำมาก ได้บุญมาก
จะกระดาก เหนียมไป ทำไมหนอ
บุญมากมาย มีเท่าไหร่ ไม่เพียงพอ
ว่าจะขอ ตัดต่อ แค่พอเพียง

ใครไม่มี ไม่ต้องทำ ก็เท่านั้น
โมทนา แก่กัน อ่านออกเสียง
เปล่งสาธุ สาธุ ตามสำเนียง
บุญมาใกล้มาเคียงก็อิ่มใจ

โทระสับมาบอกบุญ กันบานเบอะ
ก็ช่างเหอะ รับไม่ทัน มันไม่ไหว
ก็บุญนี้ เป็นของฟรี ซะเมื่อไร
ต้องโอนตังค์ ไปให้ จึงได้มา

ตั้งราคาตามขนาด เล็ก กลาง ใหญ่
โพรโมเชิ่น ไฉไล จริงๆจ้า
อย่ารีรอ เดี๋ยวก็อด หมดเวลา
ต้องรอไป ปีหน้า นะจ๊ะ....เธอว์

ข้าพเจ้าเคยเป็นควาย

บนกรอบไม้แกะลายหรูวิจิตร
ทองแต้มติดลงรักฉลักเฉลา
ประกายทองส่องแจ้งเล่นแสงเงา
ลายก้านเถากอดรัดระบัดใบ

เป็นภาพฝันวันเก่าที่เราฝัน
ในภาพนั้นนานเนาเราจำได้
เป็นภาพที่เรามีอยู่ในใจ
เป็นภาพอันยิ่งใหญ่…อลังการ…

ผืนผ้าใบบอกเล่าหลายร้อยเรื่อง
ทั้งบ้านนอกในเมืองมหาศาล
ทะเล..แม่น้ำ..ห้วย..หนอง..คลอง..ลำธาร..
ถิ่นทุรกันดาร ถึงแดนฟ้า

เป็นนิทานปรัมปรามาแต่ไหน
ทั้งบ่าวไพร่ในประเทศไม่ถามหา
ร้อยเรื่องชวนพิศวง...ไม่สงกา
ต่างซาบซึ้งตรึงอุรามิลืมเลือน

ตรุษสงกรานต์ก็ประจงปัดหยากไย่
ปัดฝุ่นผงที่ลงไปให้แปดเปื้อน
ญาติโก โหติกาต่างมาเยือน
ตลอดเดือนดื่มด่ำ..ทำบุญทำทาน

ประนมมือภาวนาเบื้องหน้าภาพ
ศิโรราบก้มกราบใจซาบซ่าน
อุทิศบุญแบ่งปันช่วยบันดาล
ให้ผ่านพ้นภัยพาลมารมลาย

เมื่อคืนวันผันไปได้รับรู้
ได้แลดูสรรพสิ่งเสื่อมสลาย
มายาภาพเคยพิศชม อย่างงมงาย
จึ่งรับรู้.....เราเป็นควาย..มิใช่คน

บนกรอบไม้แกะลายหรูวิจิตร
ได้ครวญคิด สิ้นทุกสิ่ง ความสับสน
ความซาบซึ้งสิ้นไป ในบัดดล
สว่างแล้ว เสรีชน พ้นโซ่ตรวน

เปลี่ยนภาพใหม่ไฉไลใสสว่าง
เป็นรูปนางอวบอัดทุกสัดส่วน
ยิ้มชม้ายชายตาพายั่วยวน
ควรมิควรก็ต้องควร คนครับ...คน

วันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Listen Good, What You See is not What You See.

สิ่งที่เห็นไม่เป็นเช่นที่คิด
กำแพงปิดป้องไว้ไม่ให้เห็น
เพียงภาพหลอกบอกความตามจำเป็น
แล้วซ่อนเร้นความลวงโลกมายา

ที่ต่อเติมเสริมแต่งตำนานไว้
เป็นประชาธิปไตยอันไร้ค่า
ได้ล่อหลอกเล่าขานเนิ่นนานมา
ข้าวในนาปลาในน้ำตามนิยาย

สิ่งที่เห็นไม่เป็นเช่นที่หวัง
เพราะ “คำสอน” “คำสั่ง” "ทั่น" ทั้งหลาย
“โคสะนา” “ปะชาสำพัน” กันมากมาย
ทั้งติดป้าย "โป๊ดสะเต้อ" กันเกร่อเมือง

สิ่งที่เห็นไม่ได้เป็นเช่นที่ฝัน
สมานเธอ สมานฉัน กันฟูเฟื่อง
ร้องบรรเลงเพลงชาติไว้ให้รุ่งเรือง
อันสยามนามประเทืองเทพประทาน

อิสระ เสรี เป็นที่สุด
จึงต้องมุดแต่ในรูอยู่ในบ้าน
ตั้งแต่เล็กจนโตโง่ดักดาน
เกิดปัญญา วิชาการ วิชาเกิน

"ทั่น" ให้รู้ ให้ดู และให้เห็น
ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ "ทั่น" สรรเสริญ
"ทั่น" ก่อสร้างทางไว้ให้เราเดิน
เราก็เพลินเจริญใจ “ให้ซาบซึ้ง”

สิ่งที่เห็นไม่ได้เป็นเช่นที่หวัง
ออกคำสั่ง “โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง”
เพราะเราไม่รักกัน "ทั่น" นั้นจึง-
ต้องลากดึงเราไว้ใต้อุ้งตีน

สมาน...อ่านว่า...สะ-หมาน...แปลว่า...สมาน

สมานฉัน-มาร่วมกัน-สมานแผล
ทั้งพ่อแม่พี่น้องต้องเชื่อมั่น
เมื่อเดินตามความตอแหลถึงทางตัน
ขอแบ่งปันน้ำใจมิตรไมตรี

สมานผม-สมานคุณ-กันเถิดครับ
สังวาสกับ ปรองดอง นะน้องพี่
สมานจิต-สมานใจ ใฝ่ความดี
ศีลเรามี ห้าข้อ แค่พอเพียง

สมานมึง-สมานกู อยู่ร่วมโลก
จะทุกข์โศกไปใย มันไม่เที่ยง
สมานสอน-สมานสั่ง ตาชั่งเอียง
เพื่อหล่อเลี้ยงกองกิเลส แก่เปรตชน

สมานเอ็ง-สมานข้า อย่าใจน้อย
อย่าให้คอยเรียกไปหลายๆหน
สมานแม่ง-สมานพ่อง-ต้องอดทน
เราอยู่บนแผ่นดินเพียงผืนเดียว

สมานอั๊วะ-สมานลื้อ ไม่ลำบาก
สมานครก-สมานสาก-ชักหวาดเสียว
จะทำบื้อ ตบมืออยู่ข้างเดียว
จะหงอยเหงาเปล่าเปลี่ยวในบั้นปลาย

สมานดิน-สมานดาว-สมานฟ้า
มาคุกเข่าเจรจา จงว่าง่าย
ค่อยค่อยคลาน สมานงัว-สมานควาย
สมานเป็น-สมานตาย ต้องบอกมา

สมานฉัน-สมานเธอ อย่าโหลยโทย
ทำมึงวาพาโวยไม่เข้าท่า
สมานเป็ด-สมานไก่-สมานกา
สมานดี-สมานบ้า-สมานบอ

สมานแล้ว-สมานเลย ไม่ลาลับ
ไอ้ที่จับขังไปให้ขังต่อ
ไอ้ที่เจ็บ เจ็บไป ให้เพียงพอ
ไอ้ที่ตายไปก็ ให้พอเพียง

จากใจ

จากหัวใจมอบให้แด่ไพร่ทาส
จากดวงจิตพิศวาสในทาสไพร่
จงรับรู้เรารักมากจากจิตใจ
จงรับไว้ รับไว้ รับให้ดี

มีมากมายหลายขนาดไม่กำหนด
จะได้จำได้จดในชาตินี้
จวบชาติหน้าเปนปุญญาปารมี
ว่าสิ่งที่เราให้มา ค่าเกินเมือง

จงเลือกสรรกันไปใหญ่หรือเล็ก
ไม่ว่าเด็กแลผู้ใหญ่ให้นับเนื่อง
ทั้งเพศหญิงเพศชายเพศประเทือง
อย่าติฉินว่าสิ้นเปลือง นะเปล่าเลย

มีมากมายไม่ถ้วนจำนวนนับ
ขอให้รับ รับจริงอย่านิ่งเฉย
อย่าทำงง ประเดี๋ยวคงจะคุ้นเคย
ไพร่ทาสเอยอย่าอิดเอื้อนอย่าเชือนแช

มาไวไวทาสไพร่ไทยทั้งผอง
อย่าคิดข้องรับรองเป็นของแท้
เรารักกัน รักกันไม่ผันแปร
รักไม่มีข้อแม้แต่อย่างใด

จากหัวใจมอบให้แด่ไพร่ทาส
จากดวงจิตพิศวาสในทาสไพร่
จงรับรู้เรารักมากจากทรวงใน
จากหัวใจมอบให้ไปคือ
“ลูกปืน”