ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Love me you must
Hate me you don’t
Respect me you will
Insult me you won’t

Believe me you have to
Against me you’re not
Obey me you do
Satisfied what you’ve got

Freedom all I gave
You’re nothing but slaves
Born to be you are
Dare not wish for star

Love me you must
Don’t betray my trust
Respect me you have to
Hid inside what’s in you

The spooky old tree

.
"You lived in my shade,
Built your nest on by branch,
You catch the wood worm from me to feed your child ,
Your whole family lives depend on me, without me you're all die.
You must learn to respect me."
.
Said the spooky old tree to the little bird.
.
.
.
"Respect ! How? Asked the little birds.
.
.
.
"Then thanks me for every worm you've catches,
Praise me every night before you go to sleep
And make me clean,
Don’t piss or shit on me"
.
The spooky old tree reply.
.
.
.
"I sing a song for you every morning,
That’s the way I praised you.
I catch the wood worm that disturbing your health,
That’s the way I treat you and tend you,
Besides,
My piss and shit also good manure for you."
.
"We lived our lives together for a long time,
If you don't like the way I treat you, I'll go."
.
One little bird reply with a little feeling hurt.
.
.
.
"Then I have no song in the morning,
The wood worm will disturbing me and made me ill,
.
And I won't have good manure anymore,
.
Please stay."
.
The spooky old tree just knew the way of life.
And the way of love.
.
.
.

คนระยำ

แผ่นดินทองประเทศนี้ดีหนักหนา
ร่ำลือว่าเทวดามาเสกสร้าง
มีธารน้ำน้อยใหญ่ไหลผ่านกลาง
นักเดินทางร่อนเร่พเนจร
.

ต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งใบในทุ่งร้าง
คนเดินทางได้ร่มพอคลายร้อน
เกินเหนื่อยล้าระบมล้มตัวนอน

เพียงอาศัยได้พักผ่อนก่อนจากลา

.

ครั้นนานไปต้นไม้ใหญ่ก็เย่อหยิ่ง
กระแต กระรอก ค่าง ลิง เริ่มแก่กล้า
อีกทั้ง งู หนู ค้างคาว และ นก กา
ใต้ร่มไม้ชายคา ปารมี

.

เข้าถือครองเป็นเจ้าของต้นไม้ใหญ่
แล้วเอาอกเอาใจกันเต็มที่
ปากว่าพร้อมยอมตายถวายชีวี
ประหนึ่งเป็นหน้าที่ต้องทดแทน

.

จึ่งร่วมกันล้อมรั้วไว้รายรอบ
เพื่อให้เห็นเป็นขอบแห่งแว่นแคว้น
นอกร่มเงาต้นไม้คือชายแดน
อ้างความเป็นปึกแผ่นบนผืนดิน

.

สร้างกฎเกณฑ์กีดกันตามกำหนัด
ปกครองใต้นิติรัฐบนปลายลิ้น
เพื่อยึดครองร่มไม้ไว้หากิน
เกิดมายาจนชาชินสิ้นความอาย

.

ปิดกั้นคนเดินทางที่ริมรั้ว
แล้วออกตั๋วร่มเงาเอามาขาย
นอกร่มเงาแดดร้อนแทบละลาย
อยากพักผ่อนนอนสบาย จ่ายทรัพย์มา

.

ทั้งลิง ค่าง บ่าง ชะนี ที่อาศัย
อยู่ภายใต้กิ่งใบแผ่สาขา
ต่างยกยอปอปั้นพรรณนา
หลั่งน้ำตาตื้นตันกับต้นไม้

.

นักเดินทางทักท้วงตามวิถี
แยกนิยามความดีอยู่ที่ไหน
ว่าร่มเงาปกป้องเหตุผองภัย
แก่สัตว์น้อยสัตว์ใหญ่อาศัยนอน

.

ถือเป็นคุณควรค่าการเคารพ
ไม่จำเป็นต้องประจบหรือปลิ้นปล้อน
หรือจะต้องสอพลอเพื่อขอพร
หรือจะต้องอ้อนวอนขอเมตตา

.

เมื่ออาศัยใต้ร่มไม้คลายร้อนหนาว
แม้นใช่บ่าวฤาไพร่ไม่ถือสา
ก็ทำนุบำรุงตามอัตรา
ถือได้ว่าแทนคุณตามกำลัง

.

เพียงแค่กราบแค่ไหว้ไร้คุณค่า
จะผลิดอกออกผลมาอย่าพึงหวัง
อำนวยพรฤาอ้อนวอนเซ่นเวียงวัง
ให้ฝนหลั่งลงมาอย่าพึงคิด

.

ประดาสัตว์ที่อาศัยอยู่ใต้ร่ม
ต่างก็จมในโลภะโมหะจริต
แต่งต้นไม้ให้มีอิทธิฤทธิ์
ยืนบนความหลงผิดมานานนัก

.

ทั้งบังคับขู่เข็ญจงเซ่นไหว้
และขืนใจด้วยพาลเข้าหาญหัก
จะต้องรัก ต้องรัก จำต้องรัก
จึงจมปลักดักดานใจมืดดำ

.

คนเดินทางทดท้อขอลาจาก
กลับถูกฉุดกระชากจนล้มคว่ำ
ต้องโทษทัณฑ์ในสิ่งที่กระทำ
กลายเป็นคนระยำเพราะ “ไม่รัก”

.

วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Wet Dream...เว็จ.ในฝัน

.
.
ด้วยสามัญสำนึกแห่งกำหนัด
จึงรวบรัดตัดทางกลางวิถี
สนองตอบตัณหาประดามี
เลือดชโลมธรณีอีกกี่คน
.
.

ด้วยสำนึกสัตว์เลี้ยงจอมลวงโลก
บนแผ่นดินวิปโยคยังไม่พ้น
ยังย่ำยีบีฑาประชาน
ยังสร้างเหตุหาผลเพื่อตนเอง

.

.

แผ่นดินร้อนรุมเร้าเหล่าทวยราษฎร์
นิติรัฐบนกระดาษอันครัดเคร่ง
เพื่อพวกตนพวกตัวไม่กลัวเกรง
นิติรัฐก็ละเลงโทษละลาย

.

.

จะร้องทุกข์ถึงใครก็ไร้ผล
ประชาชนสิ้นเยื่อใย..ใจสลาย
คงเหลือเพียงนิยามแห่งความตาย
มัจจุราชจะเยี่ยมกรายถึงใครกัน

.

.

ประชาชนหรือผู้เผด็จการ
คงไม่ช้าไม่นานถึงวันนั้น
แลกชีวิตกับชีวิตเป็นเดิมพัน
อายุยาวอายุสั้นต้องสิ้นลง

.

.

ธรณีนี่นี้เป็นพยาน
รัฐประหารไปตามความโลภหลง
กี่ร้อยพันชีวิตต้องปลิดปลง
ครานี้คงอยู่ได้อีกไม่นาน

.

.

แม้นศาสตราอาวุธอันวิเศษ
ปิดประเทศปล้นฆ่าอย่าฝันหวาน
ถึงอดีตที่ยิ่งใหญ่ในวันวาน
เป็นอดีตกาลนานมาแล้ว

.

.