ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ได้เวลา....................ฉลอง!

ฉลองเถิดให้เลิศล้ำไปทั่วหล้า
ปวงประชามาหลอมรวมร่วมฉลอง
ช่างเถิดความชอกช้ำจากน้ำนอง
มาร่วมร้องเพลงรักด้วยภักดี

ได้เวลามาฉลองระเริงรื่น
ถึงวันคืนชื่นสนุกแลสุขี
ความหม่นหมองคับข้องอันเคยมี
เปลี่ยนเป็นความเปรมปรีดิ์พี่น้องเอย

จงติดป้ายปักธงให้ถ้วนทั่ว
จะหม่นมัวปานใดอย่าได้เผย
ร่วมฉลองต้องตามวันอันคุ้นเคย
มาเถิดมาอย่าละเลยมาร่วมกัน

ฝนจะตกฟ้าจะร้อง.....ฉลองเถิด
แม้นจะเกิดเภทภัยอย่าได้หวั่น
น้ำท่วมขังแค่ไหนไม่สำคัญ
จงมุ่งมั่นมาฉลองตามเวลา

จะยากดีมีจนอย่าบนเบื่อ
ดำเนินตามความเชื่อแล้วเชิดหน้า
ที่ "สอนสั่ง" "สั่งสอน" แต่ก่อนมา
ด้วยสีสันจรรยาเมตตาธรรม

ฉลองเถิดให้แพริศแพร้วพิภพโลก
ความทุกโศกโรคภัยอย่ากรายกล้ำ
สร้างกุศลบันดาลดลชนชั้นนำ
จงจำจด จงจดจำ จงทำดี

กาลเวลามาถึง เสียงตังตึงอึงมี่
เกณฑ์ไพร่ฟ้าประชาชี มาภักดีโดยพลัน

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ได้เวลา.....กราบ.............................!


สร้างนิยายให้นิยามความศักดิ์สิทธิ์
ผู้ทรงฤทธิ์ฤาชามาช่วยเหลือ
อ้างบุญคุณว่าเกื้อหนุนแลจุนเจือ
ว่าทำเพื่อไพร่ฟ้ามาแสนนาน

สร้างภาพใหญ่ให้สดสวยด้วยสีสัน
มหัศจรรย์ขจรไกลแผ่ไพศาล
เป็นจอมเทพเทวามาปราบมาร
สร้างอภินิหารแห่งวิทู

ข้อกำหนดจดไว้ให้ท่องบ่น
ทุกผู้คนต้องพากเพียรต้องเรียนรู้
จากอ้อมอกพ่อแม่มาถึงครู
เดินไปสู่ประตูแห่งปัญญา

ให้ท่องจำซ้ำๆจนซาบซึ้ง
สมมุติเทพที่หนึ่งในโลกหล้า
ที่งดงามด้วยความดีมีเมตตา
ถือธงธรรมนำหน้ามาสู่เรา

กรอบความคิดคับแคบที่คุมขัง
คนที่ยังฝังใจในวันเก่า
เป็นความโง่ฤาฉลาดสุดคาดเดา
ที่รับเอาเทวดามาเดินดิน

ที่สอนสั่งกี่สิบครั้งยังซ้ำซาก
ให้ซาบซึ้งถึงรากจากปลายลิ้น
ความภักดีมีไว้ให้ดื่มกิน
บทนิยายหวานปลายลิ้นด้วยลมลวง

กราบ...................................

วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ได้เวลาเฉลิมฉลอง

เฉลิมฉลองให้กึกก้องกันทั่วหล้า
จากพื้นดินจรดฟ้านภาพร่าง
ประกาศเกียรติขจรไกลความไร้ยาง
แอบอำพรางด้วยแพรพรรณอันวับวาม

เฉลิมฉลองให้ก้องกึกพิลึกโลก
ห่มคลุมความวิปโยคแลหยันหยาม
เป็นภูตผีที่เร้นกายใต้ความงาม
ซ่อนใจทรามต่ำช้าด้วยชำนาญ

เฉลิมฉลองให้ก้องหล้านภากาศ
วิปลาสอันลือเลื่องระเริงร่าน
สรรพชีวิตน้อยใหญ่ในจักรวาล
สนุกสนานสนิทสนมสามัคคี

เฉลิมฉลองแลชมชื่นในความชั่ว
ความหวาดกลัวเกลียดชังดังอึงมี่
เพียงประสงค์ให้จงรักแลภักดี
พรากชีวีไพร่ฟ้าประชาชน

เฉลิมฉลองร้องรำระบำฟ้อน
เสวยสุขใต้คำสอนอันเปี่ยมล้น
แผ่บุญญาธิการอันพิกล
สร้างกุศลบนกองเลือดแลน้ำตา

เฉลิมฉลองอันฉาบฉวยด้วยกิเลส
คลุมประเทศด้วยละครสอนสั่งว่า
ประเทศเรา ต้องฉลอง ต้องบูชา
เทวดาผู้เมตตาจักไม่ตาย..............นะ.

สัตวาจารย์

ใต้สำนักตักศิลาอันร้อนรุ่ม
เขียนประกาศที่ประชุมประโคมก้อง
ด้วยสิทธิเสรีมีครรลอง
ต้องไตร่ตรองตามคิดพิจารณา

จะคัดค้านเผด็จการที่กำเนิด
ป่าวประกาศว่าประเสริฐประโลมหล้า
ต้องคัดค้านเผด็จการรัฐสภา
ปวงประชาสรรมาอย่าดูดาย

สอนหนังสือถือคัมภีร์ที่คร่ำคร่า
ในวิชากฎหมาฤากฎหมาย
ไร้ข้อแม้ตั้งแต่เกิดจนแก่ตาย
ใช้กฎควายกฎคนปะปนกัน

เมื่อส่ำสัตวาจารย์ประสานเสียง
เป็นต้นอ้อโอนเอียงเพียงกระสัน
วิชากูวิชามึงถึงเทวัญ
ขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้ามหาพรหม

ตฤณชาติขาดน้ำถูกย่ำเหยียบ
จนราบเรียบแหลกราญละลายล้ม
กระทืบซ้ำมิหนำใจเหยียบให้จม
จึ่งสาสมใจสัตว์ส่อสันดาน

เข้าผสมกลมเกลียวลอดเลี้ยวลด
ร่วมขบถบูชาคนหน้าด้าน
ปลุกระดมผสมเสร็จเผด็จการ
ขุนทหารทะ.เ.หี้.ย.ห่าได้ร่าเริง

น้ำลายท่วม

น้ำลายท่วมรัฐสภาเวลาเช้า
รัดถะมนตีเงาเฝ้าถ่มถุย
เกิดยุบหนอพองหนอพ่อสั่งลุย
เป็นควายทุยกรุยทางกลางสภา

น้ำลายท่วมรัฐสภาเวลาสาย
ชุลมุนวุ่นวายพระเจ้าข้า
ทั้งน้ำมูกน้ำลายแลน้ำตา
ปรัชญา ปรัชญวน ชวนวกวน

น้ำลายท่วมรัฐสภาเวลาเที่ยง
ต่างส่งเสียงอื้ออึงถึงฟ้าฝน
ผู้ทรงเกือกเสือกด่าประชาชน
น้ำมูกท่วมน้ำลายท้นดั่งต้นธาร

น้ำลายท่วมรัฐสภาเวลาบ่าย
หน้าไม่อายชายน้อยหนีทหาร
ยังฝักใฝ่ในเว็จเผด็จการ
ว่ายังหวานยังหอมอยากหวนคืน

น้ำลายท่วมรัฐสภาเวลาค่ำ
ยังพูดซ้ำพูดซากสำรากรื่น
ขอเป็นใหญ่ใต้เกือกบู๊ทกระบอกปืน
จะปิดผืนแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือ

น้ำลายท่วมรัฐสภาเวลาดึก
ฝูงแมงสาบสิ้นสำนึก นี่นะหรือ
เป็นผู้แทนแสนงามนามระบือ
แท้ก็คือคนจังไรใต้กระโปรง/////


Godwater Part II

Flooding the Angel City of Torlaeland.
We're living in God's dirty hand
Now God are suffering his creation of joy
Oh please don't cry girls, gays n boys.

M'Lord. We appreciate your generous humane
Even our land doesn’t need the rain
We are all knew that you so kind
Within our heart we keep in mind.

Water! Water! we’re not asked for.
But you insist to give us more
Rain fall and flush then flood our farm
We can’t resist it coz your charm

Godwater now flooding everywhere
Oh! far too much for us to bear
You’ve seen our faces some fierce some frown
Forgive us M'Lord, we don't wanna drown!