- ประชาธิปไตย เปื้อนเปรอะเลอะคาวเลือด
บนจุดเดือดความกำหนัดอำนาจ เหนือ-
ชาวทาสไพร่ใต้เงาเขาจุนเจือ
เพียงเม็ดเกลือคลุกก้อนข้าว จนคุ้นเคย
.
แล้วสอนสั่งเรียนหนังสือรู้ ภาษา
มัธยัสถ์ถ้อยวาจาเวลาเอ่ย
ทุกเวลาปั้นคารมเพียงชมเชย
ไม่ละเลยจะโลมเล้าเพื่อ เอาใจ
.
ให้เรียนมากรู้มากลำบากยิ่ง
คิดตำหนิติติงทุกสิ่งไซร้
กอ ขอ คอ ให้พอรู้พออยู่ไป
พออ่านออกเขียนได้ให้เพียง พอ
.
ทั้งงานนางานไร่ไม่เคยพัก
ครั้นเจ็บหนักก็ขายนาไปหา หมอ
แต่กาลเก่าเขายกย่องเขาเยิน ยอ
เป็นสันหลังคดงอคนสำคัญ
.
จะมีสิทธิ์มีเสียงเพียง เลือกตั้ง
รู้คนรักคนชังคนสร้างสรรค์
คนดีชั่วคนนบนอบชอบพอกัน
ฝากความฝันอันสดใสให้ผู้แทน
.
ให้หลุดพ้นวังวนวัฏจักร
ปลดชีวิตติดชนักอันหนักแน่น
ถ้วนทุกชาวบ่าวไพร่ในดินแดน
ที่คับแค้นแสนยากลำบากลำบน
.
ได้ผู้แทนที่ดีมีความคิด
มองชีวิตบ่าวไพร่ใช้เหตุผล
คิดปลดกับดักกานพิการพิกล
หวังทาสไพร่ให้หลุดพ้นจาก เพรงกรรม
.
แล้วเจ้าที่เจ้าทางมาอ้าง สิทธิ
เหนือชีวิตทาสไพร่ในเบื้อง ต่ำ
สามัคคีและมั่นคงเป็นธงนำ
ช่วยตอกย้ำ มึงต้องจน พลเมือง
.
ค้นหาบล็อกนี้
วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2553
มึง ต้องจน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น